วันนี้ (6 ตุลาคม) สันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชนกรณีที่ จิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคเพื่อไทย ระบุว่ามีประเด็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
สันติชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดก่อนเข้ารับตำแหน่ง โดยระบุว่า:
- ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2565
- ลาออกจากคณะกรรมการบริหาร ของบริษัทในปี 2567
- ได้ดำเนินการ ขายหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมด ของบริษัทก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีตามระเบียบของทางราชการทุกประการ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างบริสุทธิ์และปราศจากข้อครหา
- ยืนยันว่า ไม่ได้ประกอบธุรกิจลิสซิ่งแต่อย่างใด
ในประเด็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการกำกับดูแล สคบ. สันติยืนยันว่า ไม่มีปัญหาใด ๆ และได้ตรวจสอบข้อมูลจาก สคบ. แล้ว พบว่า ปัจจุบันไม่มีเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ตามที่ถูกกล่าวถึงในข่าวแต่อย่างใด
สันติยังกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีไม่สามารถแทรกแซงการทำงานของ สคบ. ได้ เนื่องจาก สคบ. มีกรอบข้อกำหนดในการดำเนินงานที่ชัดเจน และมี คณะกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบในทุกขั้นตอน ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นบุคคลภายนอก
นอกจากนี้ สันติย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาแต่อย่างใด และยืนยันว่าการแต่งตั้งที่ปรึกษาในอนาคตจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่างแน่นอน
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า การคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้ามาช่วยในการทำงานของรัฐบาลจะคำนึงถึงความเหมาะสม ความสามารถ และจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นสำคัญ” รัฐมนตรีสันติกล่าวทิ้งท้าย