“จำไว้นะ ตั้งใจเรียนให้ดี เพราะวันหนึ่งคุณจะได้เข้าฟอร์มูลาวัน ลูอิสจะชวนไปทำหนัง และคุณจะได้เป็นเพื่อนกับแบรด พิตต์”
รูธ บัสคัม (Ruth Buscombe) เริ่มต้นบทสนทนาด้วยการเล่าถึงประสบการณ์ที่เธอได้รับคำเชิญให้ทำงานในฐานะ ที่ปรึกษาของภาพยนตร์ F1 The Movie จาก ลูอิส แฮมิลตัน นักแข่งชื่อก้องโลกซึ่งเป็น Executive Producer ของหนังเรื่องนี้
เธอยังเล่าว่าประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอได้ทำงานใกล้ชิดกับ แบรด พิตต์ จนสนิทกันเหมือนเพื่อน
“ส่วนที่ฉันชอบที่สุดคือเรื่องกราฟิกและกลยุทธ์ในภาพยนตร์ เพราะฉันเป็นคนออกแบบเอง (หัวเราะ) โดยเฉพาะในเรซสุดท้าย และบางกลยุทธ์ในนั้นก็เคยถูกใช้จริงในสนามแข่งมาแล้วด้วย”
เส้นทางสู่ F1 ของ Ruth Buscombe
ปัจจุบัน รูธเป็นทั้ง นักกลยุทธ์, นักวิเคราะห์ และพิธีกรประจำการแข่งขัน F1 เธอจบการศึกษาด้านวิศวกรรม (First-Class Honours) จาก University of Cambridge
ปี 2012 เธอเริ่มทำงานกับทีม Scuderia Ferrari ในตำแหน่ง Simulation Engineer ก่อนจะได้รับบทบาทเป็นนักกลยุทธ์เต็มตัว
หนึ่งในช่วงเวลาที่เธอภาคภูมิใจที่สุดคือปี 2015 เมื่อเธอวางกลยุทธ์ช่วยให้ เซบาสเตียน เวทเทล คว้าชัยใน Malaysian GP 2015 ซึ่งรูธบอกเราว่านี่คือความทรงจำที่ดีที่สุดที่เธอมีกับ F1
4 คุณสมบัติของนักกลยุทธ์ F1 ที่แท้จริง
เมื่อถามถึงสิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรมี หากอยากเติบโตขึ้นมาเป็นนักกลยุทธ์ F1 รูธยกตัวอย่าง 4 ข้อสำคัญว่า:
1. เก่งคณิตศาสตร์และการคำนวณ
“ต้องเก่งเลขและตื่นเต้นกับตัวเลข เพราะงานของเราคือการวิเคราะห์ข้อมูล, ความน่าจะเป็น, การคำนวณเวลา pit stop, การใช้ยาง, การแซง ถ้าพื้นฐานไม่แข็งแรงจะเลือกกลยุทธ์ที่ถูกต้องได้ยาก”
2. ใส่ใจในรายละเอียด (Devil is in the details)
“นักกลยุทธ์ที่ดีต้องเห็นทุกรายละเอียด เพราะบางสิ่งเล็ก ๆ ใน F1 อาจส่งผลใหญ่หลวงต่อการแข่งขัน”
3. สื่อสารชัดเจนและรวดเร็ว
“คุณอาจเป็นนักกลยุทธ์ที่เก่ง วางแผนได้สุดยอด แต่ถ้าสื่อสารกับทีมไม่เข้าใจ กลยุทธ์ก็ไร้ประโยชน์ และใน F1 เราต้องสื่อสารกับคนจำนวนมากในทีม”
4. รับมือกับแรงกดดันมหาศาล
“คุณอาจมีเวลาเพียง 13 วินาทีในการตัดสินใจเรื่องสำคัญที่สุดในเรซ คุณต้องชอบและอยู่กับแรงกดดันให้ได้ เพราะนั่นคือหัวใจสำคัญของงานนี้”
Work Mantra: Pressure is a Privilege
เมื่อถามถึงหลักการทำงานที่ยึดถือ รูธตอบทันทีว่า:
“Pressure is a Privilege คำกล่าวจาก Billie Jean King
“แรงกดดันคือสิทธิพิเศษ เพราะมันหมายถึงมีคนคาดหวังในตัวเรา แปลว่าเราอยู่ในจุดที่พึ่งพาได้และมีมาตรฐานสูง เราจึงต้องโฟกัสและทำให้สำเร็จตามความคาดหวังนั้น”
แล้วถ้าแรงกดดันมากเกินไป จะรับมืออย่างไร?
“สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีหัวหน้าหรือผู้นำที่ดี ที่เข้าใจว่า ความผิดพลาดคือโอกาสในการเรียนรู้ แบบนั้นแหละคือสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดสำหรับเรา”
ชีวิตนอกสนาม
ก่อนจบบทสนทนา เราถามถึงสิ่งที่เธอชอบทำในเวลาว่าง รูธยิ้มและตอบว่า:
“ฉันชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะเล่มของ Adrian Newey (How to Build a Car) แต่ตอนนี้ฉันกำลังเขียนหนังสือของตัวเองอยู่ รอออกมาก่อน แล้วฉันจะแนะนำเล่มนั้นให้ทุกคนอ่าน (หัวเราะ)”