ศิลปินหญิงแห่งยุคอย่าง Taylor Swift เปิดตัวอัลบั้มชุดที่ 12 ‘The Life of a Showgirl’ ที่เล่าเรื่องรักสดใส เปี่ยมไปด้วยความสุข และเน้นสไตล์ความเป็นป๊อปร่วมสมัย ทั้งยังเล่าถึงเรื่องราวชีวิตศิลปินและคนบันเทิงจากมุมมองของเธอ
เธอเริ่มเปิดด้วยซิงเกิล The Fate of Ophelia ที่พูดถึงการถูกรักจากใครสักคน และรักนั้นช่วยดึงเราขึ้นมาจากความมืดมน ก่อนจะตามมาด้วย Elizabeth Taylor ที่ได้ชื่อมาจากดาราดาวค้างฟ้าของวงการฮอลลีวูด และ Opalite ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพลงที่บ่งบอกธีมความป๊อปของอัลบั้มนี้ได้เป็นอย่างดี
ต่อด้วยเพลง Father Figure ที่เธอให้เครดิตกับเจ้าของเพลงเดิม George Michael เพราะเธอหยิบยกส่วนหนึ่งของเพลงนั้นมาใส่ในซิงเกิลนี้ และยังพูดถึงพลังอำนาจที่มาจากมุมมองของเธอเอง ส่วนเพลง Eldest Daughter ก็ชัดเจนตามชื่อ เพราะนี่คือเพลงที่บอกถึงความกดดันที่เกิดจากความคาดหวังของครอบครัวในฐานะลูกคนโต รวมทั้งมุมมองชีวิตของเธอในปัจจุบันด้วยเช่นกัน
Ruin The Friendship เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ใครหลายคนน่าจะรู้สึกรีเลต เพราะเพลงพูดถึงรักที่ไม่สมหวังจากการไม่ยอมสารภาพรักกับเพื่อนสมัยเรียน และรู้สึกเสียดายตอนที่เขาจากไปแล้ว และเพลง Actually Romantic ก็มาในคอนเซปต์ที่สนุกๆ และเป็น diss track ที่เธอใช้ตอบโต้คนที่วิจารณ์เธอ
Wi$h Li$t เป็นเพลงสไตล์ dreamy ที่พูดถึงการฝันถึงอนาคตกับคู่รัก การอยากสร้างครอบครัวธรรมดาๆ มีลูก มีบ้าน มีสนามบาสเล็กๆ และเพลง Wood ก็มาในแนวฟังก์ป๊อปกลิ่นอายยุค Jackson 5 แฝงความเซ็กซี่ขี้เล่น ส่วนเพลง CANCELLED! จะมีเนื้อหาดาร์กมากกว่าเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม เพราะพูดถึงวัฒนธรรมการคว่ำบาตรและการเปิดโปงดราม่าในวงการ
ก่อนจะปิดท้ายด้วย The Life of a Showgirl กับ Sabrina Carpenter โดยเพลงนี้เน้นธีมของการส่งต่อความรู้ให้กับศิลปินรุ่นใหม่ที่อยู่บนเวที เพราะเธอรู้ว่าสิ่งที่คนทำงานในสายนี้ต้องเจอคือการต้องแบกรับและส่งต่อแรงบันดาลใจ ดังนั้นจึงถือได้ว่าอัลบั้มนี้มีความเป็นตัวตนของเธอในปัจจุบันที่มีความเป็นอิสระ รู้ว่าตัวเองเป็นใคร และอยากส่งต่อแรงบันดาลใจอะไรให้กับคนรุ่นใหม่
การกลับมาทำงานกับโปรดิวเซอร์ Max Martin และ Shellback ก็ทำให้เธอได้ดนตรีป๊อปติดหูฟังง่าย มีกรูฟสนุกๆ ถึงแม้จะมีเพลงเนื้อหาดาร์กหรือโต้ตอบเสียงวิจารณ์อยู่บ้าง แต่อัลบั้มนี้ก็สนุกและไม่หนักจนเกินไป ทั้งยังทำให้เห็นว่า เธอสามารถเล่าเรื่องได้อย่างทรงพลังด้วยเสียงที่สดใสเช่นกัน
ภาพ: Mert Alas & Marcus Piggott
