วันนี้ (2 ตุลาคม) นพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะทำประชามติเพื่อสอบถามว่าจะยกเลิก MOU 43 หรือ 44 หรือไม่ ซึ่งความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกบอกว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาทางเทคนิค เกรงว่าคนจะไม่เข้าใจ แต่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า เนื่องจากเรื่องนี้มีการถกเถียงกันในสังคม ควรที่จะถามพี่น้องประชาชน เพื่อได้ข้อยุติว่าจะยกเลิกหรือไม่
นพดลกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ควรมีการถกเถียง เอาความจริง และเสนอข้อมูลให้กับพี่น้องประชาชนอย่างครบถ้วนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร MOU ทั้งสองฉบับนั้น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพราะประโยชน์ของชาตินั้นตั้งอยู่บนความจริง ไม่ใช่ตั้งอยู่บนความเท็จหรือมายาคติ ตนสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อมวลชน เอาความจริงและข้อมูลมาเสนอให้มากที่สุด
นพดลกล่าวต่อว่า ไม่ว่าจะมีการเดินหน้าทำประชามติหรือไม่ แต่ขอตั้งเป็นข้อสังเกตในเบื้องต้น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ประชาชนควรรู้ ดังนี้
1. MOU 43 และ 44 ใช้มา 24-25 ปี ทำไมยังไม่มีรัฐบาลใดที่แจ้งยกเลิกไปยังกัมพูชา
2. MOU 43 ลงนามในสมัยท่านชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตนไม่เชื่อว่าคนอย่างชวนจะทำอะไรอย่างไม่รอบคอบและไม่ปกป้องดินแดนไทย
3. MOU 43 เป็นกรอบเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา ไทยไม่ได้ไปยอมรับแผนที่ 1:200,000 ของกัมพูชา การเจรจาเรื่องเขตแดนถ้าเราไม่ยอมรับจุดใดก็ปฏิเสธได้
4. กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย มีความเห็นว่า MOU 43 และ 44 มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย
5. MOU 43 เป็นข้อผูกมัดให้กัมพูชาจะต้องมาคุยเรื่องเขตแดนกับประเทศไทย ห้ามมีมือที่ 3 มายุ่ง หรือห้ามยกระดับ ไปยังเวทีโลกเช่นเวที UN หรือศาลโลกเป็นการป้องกันไม่ให้กัมพูชายกระดับความขัดแย้ง ต้องผูกมัดคุยกับประเทศไทยเท่านั้น
6. MOU 43 ห้ามคู่กรณีไปเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ เป็นการห้ามไม่ให้กัมพูชาจะต้องสร้างชุมชน สร้างวัด สร้างตลาดหรือขุดคูเลต ในพื้นที่อ้างสิทธิ ถ้ามีการละเมิดก็ต้องประท้วงและบังคับให้ต้องยุติการละเมิด
7. แม้ยกเลิก MOU 43 และ 44 กัมพูชาและไทยก็ต้องมีกลไกในการมาเจรจาเรื่องเขตแดนอยู่ดี ซึ่งก็ต้องมาเริ่มต้นหารือกันใหม่
นพดลกล่าวต่อว่า ขอเสนอให้รัฐบาลได้มอบให้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปศึกษาข้อดี ข้อเสีย โดยเชิญกรมสนธิสัญญาและกฎหมายกรมแผนที่ทหาร กองทัพกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุย เพื่อเอาความจริง ข้อกฎหมายระหว่างประเทศและประเด็นเรื่องเขตแดนมาพูดคุยให้ถ่องแท้ เพราะคนไทยควรต้องรู้ความจริง และผลประโยชน์ของชาตินั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริง ความรู้ และข้อมูล เพราะหากจะทำประชามติในวันเลือกตั้งจะได้ตัดสินใจถูกต้อง
