วันนี้ (30 กันยายน) เรือหลวงปิ่นเกล้า (H.T.M.S. PINKLAO) ได้ปฏิบัติภารกิจเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะเรือประจำการ ก่อนที่จะถูกปลดออกจากระวางประจำการของกองทัพเรืออย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เนื่องจากสภาพชำรุดทรุดโทรมตามอายุการใช้งาน
ภารกิจสุดท้ายของเรือหลวงปิ่นเกล้าคือการทำหน้าที่เป็น เรือยิงสลุต ในพิธีรับ-ส่งหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ระหว่าง พล.ร.อ. ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการท่านเก่า กับ พล.ร.ท. กรวิทย์ ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการท่านใหม่ โดยพิธีจัดขึ้นบนเรือหลวงจักรีนฤเบศ ซึ่งจอดเทียบ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
การปลดระวางประจำการครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้กำหนดให้ปลดเรือรบหลายลำที่หมดอายุการใช้งานพร้อมกัน ได้แก่ เรือหลวงภูเก็ต เรือหลวงสมุย เรือหลวงสุริยะ และเรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำอีก 4 ลำ
เรือหลวงปิ่นเกล้า เป็นเรือประเภทเรือพิฆาตคุ้มกัน (Destroyer Escort) มีระวางขับน้ำปกติ 1,240 ตัน โดยเรือลำนี้เดิมชื่อ HEMNINGER (DE 746) ถูกสร้างที่สหรัฐอเมริกา และวางกระดูกงูเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2486
สหรัฐอเมริกาได้มอบเรือลำนี้ให้ไทยเช่ายืมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2502 และขึ้นระวางประจำการในกองทัพเรือไทยเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2502 ต่อมาได้มีการต่อสัญญาเช่า ก่อนที่ไทยจะได้รับมอบเรือจากสหรัฐอเมริกาตามโครงการช่วยเหลือทางทหาร ระหว่างปี 2508-2509 กองทัพเรือได้ส่งเรือไปติดอาวุธเพิ่มเติมที่เกาะกวม เช่น ท่อตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำ 6 ท่อยิง
อาวุธประจำเรือประกอบด้วย ปืนขนาด 76/50 มิลลิเมตร 3 กระบอก, ปืนกล 40/60 มิลลิเมตร แท่นคู่ 3 แท่น (รวม 6 กระบอก), ท่อตอร์ปิโดแฝดสาม 2 แท่น (6 ท่อยิง) และแท่นยิงจรวดปราบเรือดำน้ำ 1 แท่น เรือหลวงปิ่นเกล้า ปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพเรือไทยรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 66 ปี