จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นคำร้องขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายเป็นครั้งที่สอง ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาให้จำคุก 1 ปี ในคดีที่ 14 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 และกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว
วันนี้ (29 กันยายน) แหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เปิดเผยกับสื่อมวลชน ยืนยันว่า ทักษิณ ได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายจริง และเรื่องได้ผ่านชั้นกระทรวงยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว โดยชี้แจงว่า การยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายถือเป็นสิทธิของผู้ต้องขังเด็ดขาดทุกราย ที่จะดำเนินการยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯ เป็นรายบุคคล ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ
แหล่งข่าวระดับสูงได้เปิดเผยถึงขั้นตอนการยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายว่า เริ่มต้นจาก:
- ผู้ต้องขังเด็ดขาด หรือ ผู้มีประโยชน์ (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส บุตร) ยื่นเรื่องผ่าน เรือนจำ/ทัณฑสถาน
- เรือนจำ/ทัณฑสถาน จะสอบสวนและรวบรวมเอกสาร ส่งต่อไปยัง กรมราชทัณฑ์
- กรมราชทัณฑ์ จะประมวลข้อเท็จจริงและสรุปเรื่อง เพื่อประกอบการถวายความเห็นของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
- ความเห็นของ รมว.ยุติธรรม จะถูกส่งไปยัง สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)
- จากนั้นจะถูกส่งต่อไปยัง สำนักงานองคมนตรี
- เมื่อมีผลฎีกาแล้ว จะมีการแจ้งผลกลับมายังเรือนจำ/ทัณฑสถาน
แหล่งข่าวระดับสูงยังเน้นย้ำว่า การพิจารณาในทุกระดับชั้น ตั้งแต่เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ จนถึงกระทรวงยุติธรรม จะต้องดำเนินการเสนอเรื่องตามลำดับชั้นทันทีที่ได้รับคำร้อง โดยมีเพียงความเห็นประกอบการพิจารณาว่า เห็นควรอภัยโทษ หรือ โทษทัณฑ์ที่ได้รับเหมาะสมแล้ว เท่านั้น เนื่องจากเรื่องการพระราชทานอภัยโทษเป็นพระราชอำนาจฯ ที่มิอาจก้าวล่วงได้
สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำเป็นครั้งที่สอง เนื่องจากทักษิณเคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี เมื่อครั้งยื่นครั้งแรกในปี 2566 นั้น
แหล่งข่าวระบุว่า ไม่ทราบรายละเอียดของเนื้อหาคำร้องในครั้งล่าสุด แต่ชี้ว่าอาจเป็นความเข้าใจของผู้ต้องขังที่มองว่า ตนได้เข้ารับโทษครบ 1 ปีแล้ว แม้จะมีการรักษาตัวนอกเรือนจำที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนที่ศาลฎีกาฯ จะมีคำพิพากษาล่าสุดให้บังคับโทษจำคุก 1 ปี จึงเป็นสิทธิของผู้ต้องขังที่จะ เรียบเรียงเรื่องราวถึงเหตุผลที่ประสงค์ยื่นทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ซึ่งรายละเอียดเงื่อนไขของผู้ร้องอาจแตกต่างกันในแต่ละครั้งไป