เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการท้องถิ่นเมืองคามาคุระ (Kamakura) ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า พบซากลูกวาฬสีน้ำเงินนอนเกยตื้นอยู่บริเวณชายฝั่ง ห่างจากกรุงโตเกียวเป็นระยะทางราว 70 กิโลเมตร โดยซากวาฬดังกล่าวมีความยาวเกือบ 11 เมตร ซึ่งเป็นลูกวาฬสีน้ำเงินที่เพิ่งเกิดในปีนี้
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นวาฬสีนำ้เงินในเขตพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโดยปกติแล้ววาฬชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกสายพันธ์ุนี้มักจะอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่แถบมหาสมุทรแอนตาร์กติกในช่วงหน้าร้อน ในขณะที่สาเหตุการตายยังไม่ทราบแน่ชัด
เจ้าสัตว์ร่างยักษ์ที่อาจจะมีลำตัวยาวเกิน 30 เมตร และอาจมีน้ำหนักมากถึง 100-200 ตันตัวนี้ เคยถูกล่าอย่างหนักในช่วงต้นศตววรษที่ 20 และปัจจุบันวาฬสีน้ำเงินถูกขึ้นบัญชีแดงไอยูซีเอ็น (IUCN Red List) ให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธ์ุ (EN: Endangered Species) คาดการณ์ว่า เหลือวาฬสีน้ำเงินเพียง 10,000-25,000 ตัวทั่วโลก
โดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ระบุว่า เจ้าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้ลดจำนวนลงอย่างมาก สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การถูกล่า รวมถึงชนเข้ากับลำเรือจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการล่าวาฬที่สืบทอดต่อกันมา ซึ่งจะได้รับการต่อต้านและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะจากกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์และเจ้าหน้าที่นักอนุรักษ์ ซึ่งพวกเขาอ้างว่า การล่าดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มีรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ในฤดูกาลล่าวาฬปีนี้มีวาฬมิงก์ที่กำลังตั้งท้องถูกฆ่ากว่า 122 ตัวเลยทีเดียว
อ้างอิง:
