×

เวียดนามกวักมือเรียก! รัฐบาลผ่อนคลายกฎหมาย-เปิดทางถือสองสัญชาติ ดึง ‘เวียดเกียว’ ทักษะสูงกลับมาปั้นชาติสู่ประเทศรายได้สูง

24.09.2025
  • LOADING...
vietnam-viet-kieu-come-home-policy

2 ปีก่อน มินห์ ฮวง (Minh Hoang) อดีตวิศวกรของ Google ได้เอ่ยปากกับภรรยาว่าเขาอยากจะย้ายกลับมาอยู่ที่เวียดนามซึ่งเป็นบ้านเกิด หลังจากใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกามานานถึง 10 ปี แต่ในตอนนั้นภรรยาของเขากลับร้องไห้ออกมา เพราะชีวิตที่มั่นคงและรายได้สูงในแวดวงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดของโลก คือสิ่งที่ยากจะทิ้งไป

 

แต่ความฝันที่จะได้ ‘กลับบ้าน’ ของมินห์ก็ไม่เคยจางหาย และในที่สุดโอกาสก็มาถึงเมื่อต้นปีนี้ ภรรยาของเขาใจอ่อนยอมย้ายกลับมาด้วยเหตุผลที่ว่าพ่อแม่ของเธอเริ่มแก่ชราลง และลูกๆ ก็โตพอที่จะปรับตัวได้แล้ว ทำให้ภายในเวลาเพียงสามเดือน มินห์ก็ได้กลับมาทำงานในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของบริษัทหลักทรัพย์ Techcom Securities ในกรุงฮานอย

 

“ทุกอย่างในสหรัฐฯ ของผมดีหมด ทั้งงาน, บ้าน และชีวิต แต่การได้ทำงานที่นี่หมายความว่าผมจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศที่ผมเกิด” มินห์กล่าว 

 

เรื่องราวของเขาคือภาพสะท้อนของสิ่งที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนามภายใต้การนำของ โต เลิม (To Lam) กำลังพยายามผลักดันอย่างเต็มที่

 

รัฐบาลเวียดนามกำลังกวักมือเรียกชาวเวียดนามโพ้นทะเล หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘เวียดเกียว’ (Viet Kieu) ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 ล้านคนทั่วโลก ให้กลับมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์อย่างเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์

 

อิงกริด คริสเตนเซน (Ingrid Christensen) ผู้อำนวยการองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ประจำเวียดนาม กล่าวว่า “เวียดนามกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ” และการจะก้าวขึ้นเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูงภายในปี 2045 ได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดึงดูดแรงงานทักษะสูงเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับบุคลากรในประเทศ

 

รัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่อให้การดึงดูดบุคลากรทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการออกกฎใหม่ที่อนุญาตให้มีการถือสองสัญชาติได้ ซึ่งจะช่วยขจัดอุปสรรคเรื่องวีซ่าทำงานและเปิดโอกาสให้ชาวเวียดเกียวสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และใช้บริการธนาคารได้อย่างเต็มที่เหมือนพลเมืองทั่วไป

 

‘โอกาส’ ในการสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่คือแรงดึงดูดที่สำคัญ แอ็ง คิม ฟาม (Anh Kim Pham) ซึ่งเคยทำงานกับบริษัทใหญ่อย่าง Accenture และ Bank of America เล่าว่า “ที่นี่ฉันรู้สึกว่าตัวเองถูกมองเห็น ความคิดเห็นของฉันมีคนรับฟัง และได้ทำงานพัฒนาทีมโดยตรง ต่างจากในสหรัฐฯ ที่เราเป็นเพียงแค่บุคคลตัวเล็กๆ ในองค์กรที่มีพนักงานเป็นแสนคน”

 

เช่นเดียวกับ อัน เลือง (An Luong) บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและ MIT ซึ่งเคยทำงานกับ Microsoft และ Walmart Labs ที่ตัดสินใจย้ายกลับมาเพราะ “ภารกิจ” ในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม “ผมสามารถใช้ทักษะของผมเพื่อช่วยเหลือสถานที่ที่สำคัญต่อผม สถานที่ที่ผมรู้สึกผูกพันเป็นการส่วนตัว” เขากล่าว

 

ภาคเอกชนเองก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกระแสนี้ โดยธนาคาร Techcombank ได้จัดงาน Overseas Talent Roadshow เพื่อรับสมัครชาวเวียดนามที่ทำงานในต่างประเทศโดยตรง ซึ่ง เยนส์ ลอตต์เนอร์ (Jens Lottner) ซีอีโอของธนาคารกล่าวว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี “ผู้คนกำลังพูดว่า ‘บางทีตอนนี้อาจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะกลับมา’”

 

อย่างไรก็ตาม การย้ายกลับมายังเวียดนามก็เต็มไปด้วย ‘ความท้าทาย’ เช่นกัน แอ็ง คิม ฟาม ชี้ให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรที่ยังคงเป็นแบบบนลงล่าง (Top-down) และการขาดการแบ่งปันความเชี่ยวชาญ ขณะที่ แจ็ค เหงียน (Jack Nguyen) จากบริษัทที่ปรึกษา InCorp Vietnam ก็ได้กล่าวถึงความไม่สอดคล้องกันในการบังคับใช้กฎระเบียบของภาครัฐในแต่ละพื้นที่

 

กวาง โด (Quang Do) อดีตผู้จัดการของ Google เล่าถึงความแตกต่างในการจัดตั้งบริษัทระหว่างสิงคโปร์ที่ทำออนไลน์ได้ใน 5 นาที กับเวียดนามที่ยังต้องใช้กระดาษ, ตราประทับ และการเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตนเอง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับชาวต่างชาติ 

 

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินคนหนึ่งยังได้ตัดสินใจย้ายออกจากเวียดนามไปอีกครั้งหลังจากกลับมาได้ไม่นาน โดยให้เหตุผลเรื่องอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่สูงสวนทางกับสวัสดิการสังคมที่ได้รับ

 

สำหรับมินห์เอง สี่เดือนในกรุงฮานอยก็ได้ทำให้เขาต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางเสียงอย่างหนัก แต่เขาก็ยอมรับว่าข้อเสียเหล่านั้นถูกชดเชยด้วยประสบการณ์ล้ำค่า เช่น การได้เห็นลูกสาวเขียนภาษาเวียดนามเป็นครั้งแรก หรือการได้นั่งทานข้าวเย็นกับคุณพ่อสัปดาห์ละหลายครั้ง ซึ่งเป็นความสุขเล็กๆ ที่หาไม่ได้ในต่างแดน


ภาพ: alexkoral / Shutterstock

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising