วันนี้ (2 กันยายน) พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมบรรยายในหัวข้อ ‘วิสัยทัศน์ หลักธรรมะ และการวางยุทธศาสตร์ป้องกันชายแดน’ ที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยเปิดเผยถึงประสบการณ์และมุมมองในสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมย้ำจุดยืนทางการเมืองของตนเองและกองทัพ
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการสู้รบที่ชายแดน ซึ่งทำให้ทหารไทยบาดเจ็บกว่า 660 นาย และเสียชีวิต 18 นาย พร้อมยอมรับว่าการรบย่อมนำมาซึ่งการสูญเสีย แต่ทุกคนล้วนต้องการแผ่นดินคืน และรู้สึกโชคดีที่ได้อยู่ในยุทธบริเวณดังกล่าวในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้คนไทยทะเลาะกัน และอยากให้หันมาสามัคคีกัน
พล.ท. บุญสิน ยืนยันว่า หลังเกษียณอายุราชการจะไม่ลงเล่นการเมืองอย่างแน่นอน และได้เตรียมสถานที่ปฏิบัติธรรมไว้แล้ว โดยจะขอเป็นกลางและคอยดูแลความถูกต้องของประเทศ พร้อมกล่าวว่า “ทหารไม่ยุ่งการเมืองจะสง่างามที่สุด”
ส่วนประเด็นการรัฐประหาร แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ไม่อยู่ในสมอง และมองว่าเป็นยุคสมัยที่ล้าหลังไปแล้ว พร้อมย้ำให้ทุกคนเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่ายอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจเชื่อสิ่งใด
แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้ว่า ปัญหาชายแดนมี 2 ส่วนหลักคือเรื่องภูมิประเทศและเรื่องคน ซึ่งแตกต่างจากชายแดนไทย-ลาว เนื่องจากไทยและกัมพูชามีพรมแดนทางบกติดกัน ทำให้มีการใช้ทหารนำ เพื่อสร้างความขัดแย้ง ก่อนจะฟ้องมหาอำนาจ ซึ่งเป็นมุกตื้นๆ ที่ไทยต้องเท่าทัน โดยระบุว่าสถานการณ์ในปัจจุบันอยู่ในช่วงหยุดยิงชั่วคราว และยังต้องจับตาดูต่อไป เพราะ “กัมพูชาพูดอย่างทำอย่าง”
นอกจากนี้ยังมองว่าปัญหาจะคลี่คลายได้หากผู้นำกัมพูชาสื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา และเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะดีขึ้นในอีกไม่นาน ซึ่งตนพร้อมจะจูบปาก กอดกับแม่ทัพกัมพูชา หากสถานการณ์ดีขึ้น
พล.ท. บุญสิน ฝากให้นักศึกษาให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ และยืนยันว่าทหารทุกคนมีความเป็นประชาธิปไตย พร้อมกล่าวว่า กองทัพยินดีสนับสนุนหากนักศึกษาต้องการจัดกิจกรรมใดๆ และหากสถานการณ์ชายแดนดีขึ้น จะจัดกิจกรรมวิ่งเทรลที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสบรรยากาศในพื้นที่
