×

ศบ.ทก. เผยเตรียมนำผลถก GBC เข้าที่ประชุม สมช.-ครม.นัดพิเศษ เคาะช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมผ่อนผันบินโดรนเกษตรหลัง 15 ส.ค.

โดย THE STANDARD TEAM
06.08.2025
  • LOADING...
GBC

วันนี้ (6 สิงหาคม) พล.ร.ต. สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ พร้อมด้วย มาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.​) ประจำวันพุธที่ 6 สิงหาคม​ 2568 

 

พล.ร.ต. สุรสันต์ระบุว่า สถานการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมาอยู่ในสภาพปกติ มีการเสริมที่มั่นทหารบางส่วน แต่ไม่ได้มีการเสริมกำลังทหาร และตรวจพบการใช้โดรนมากขึ้น ซึ่งไทยได้เข้มงวดตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และห้ามบินโดรนทั่วประเทศจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 

 

แต่จะมีการผ่อนปรนโดรนเกษตร หลังวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งผู้ประสงค์ทำการบินจะต้องขึ้นทะเบียน ผู้บังคับ และทำทะเบียนอากาศยาน ซึ่งไม่มีนักบินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมขออนุญาตทำการบินผ่านระบบ UAS Portal และจะต้องทำการบินสูงไม่เกิน 30 เมตร จากระดับพื้นดิน ในเวลา 06.00-18.00 น. เท่านั้น รวมถึงจะต้องแจ้ง หน่วยงานท้องถิ่น ผ่านแบบฟอร์มที่กำหนด ก่อนการบินล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง 

 

ส่วนการตัดรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยได้วางไว้ตามขอบเขตอธิปไตยของไทย ฝ่ายไทยได้เจรจาเรียบร้อย และวางลวดหนามใหม่เพิ่มเติม ซึ่งสถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเข้มงวดในการดำเนินการกับบุคคลต่างด้าว โดยขยายผลสอบสวนบุคคลที่น่าสงสัยซึ่งอาจแฝงตัวมาด้านความมั่นคง เพื่อป้องกันการรายงานข่าวที่บิดเบือนและมีผลด้านความมั่นคง หากพบบุคคลดังกล่าวจะถูกผลักดันออกนอกประเทศและขึ้นทะเบียนไว้ และหากพบทำผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี

 

พล.ร.ต. สุรสันต์ยังกล่าวถึงการประชุม เลขานุการ GBC ของไทย-กัมพูชา ว่า ได้มีการหารือจนถึงเวลา 00.15 น. วันนี้ เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้ จนถึงช่วงเช้าวันนี้ที่ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ และอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสาร ให้ประธานของทั้งสองฝ่ายพิจารณา ซึ่งในส่วนของไทย จะนำเสนอเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ซึ่งจะจัด ร่วมกับการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ก่อนที่ตัวแทนฝ่ายไทย จะเดินทางไปประชุม GBC ที่มาเลเซียในวันพรุ่งนี้ (7 สิงหาคม) 

 

ด้าน มาระตี ระบุว่า วานนี้กองทัพบกได้นำเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานภูมิภาคของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ICRC ที่กรุงเทพฯ เข้ามาเยี่ยมเชลยศึกชาวกัมพูชาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายไทย จำนวน 18 นาย เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและการปฏิบัติตามมนุษยธรรม ระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน 

 

ซึ่งในขั้นตอนต่อไปกระทรวงการต่างประเทศทั้งในกรุงเทพฯ คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา จะทำการเชิงรุกเพื่อประสานงานกับ ICRC 

 

นอกจากนี้ ในวันพรุ่งนี้ (7 สิงหาคม) กระทรวงการต่างประเทศจะจัดประชุมออนไลน์เอกอัครราชทูต เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวร และกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลก เพื่อยืนยันจุดยืน ย้ำการดำเนินการเชิงรุกของไทย เดินหน้าชี้แจงหลักฐาน ที่เป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลรวมถึงสื่อมวลชนต่างประเทศของโลก เผยแพร่ข้อมูลผิดหรือข้อมูลเท็จ และข้อมูลบิดเบือนอย่างเป็นระบบของกัมพูชา ซึ่งมีออกมาแพร่หลายในปัจจุบัน 

 

“ในช่วงเวลานี้การเผยแพร่ข่าวปลอมข่าวบิดเบือนของฝ่ายกัมพูชา ถึงขั้นการเป็นนิยายทีเดียว มีความถี่มากขึ้นเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทีมไทยแลนด์อยู่ที่มาเลเซียกำลังจะเจรจาในกรอบ GBC อยู่ ขอเรียนว่าฝ่ายไทยเชื่อมั่นว่าการรักษาบรรยากาศที่ดี โดยไม่ใส่ร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง จะเป็นส่วนสำคัญที่จะลดความตึงเครียดระหว่างกันระหว่างสองประเทศ”

 

ขณะที่ ศศิกานต์ระบุว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับทุกชีวิตที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันว่าการเยียวยาทุกอย่างจะเป็นไปอย่างรอบด้านและครบทุกมิติ และให้เกียรติผู้เสียสละอย่างสูงสุด ครม. จึงเห็นชอบหลักเกณฑ์และกรอบอัตราการเยียวยา ตามข้อเสนอของ สมช. โดยอ้างอิงจาก รายได้ประชาชาติ และอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่ชายแดน อนุมัติกรอบช่วยเหลือเบื้องต้น 404.6 ล้านบาท ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และประชาชน ผู้เสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บสาหัส หรือบาดเจ็บมาก

 

ส่วนที่ยังไม่รวมในหลักเกณฑ์รัฐบาลกำลังพิจารณาเยียวยา เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และให้หน่วยงานต่างๆ เร่งตรวจสอบความเสียหายของประชาชน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอนอย่างเร็วที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising