วันนี้ (4 สิงหาคม) ตำรวจชุดคลี่คลายคดีสีกากอล์ฟ เตรียมจัดประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อขยายผลการทุจริตในวงการสงฆ์และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับวัดและโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงประเด็นการซื้อขายตำแหน่งในวงการสงฆ์ที่มีการแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งของมูลค่าสูงอย่างรถยนต์หรู
การประชุมร่วมกับศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา (ศปปป.) จะเน้นหารือเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีที่เกี่ยวข้องกับวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินโครงการของ มจร. ทั่วประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐและหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อดูว่ามีการนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ หรือเป็นไปตามข้อเท็จจริงของการก่อสร้างหรือไม่
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณก่อสร้างศาสนสถานบางแห่งอาจมีการเบิกจ่ายเกินจริง เช่น ก่อสร้างด้วยงบ 12 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายไปกว่า 20 ล้านบาท โดยโครงการเหล่านี้มักมีการบริหารจัดการกันเอง ขาดหน่วยงานหรือองค์กรอิสระเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มีฆราวาสหรือหน่วยงานรัฐเข้าไปตรวจสอบได้ แต่จะต้องผ่านมติของมหาเถรสมาคมก่อน ก่อนจะนำเสนอต่อ ครม. ต่อไป
กรณีของสีกากอล์ฟถูกนำมาวิเคราะห์ถึงพฤติการณ์การก่อเหตุ โดยพบช่องว่างที่พระสงฆ์ซึ่งมีตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะเจ้าอาวาส หรือตำแหน่งสำคัญใน มจร. ซึ่งเป็นตำแหน่งอิสระ ทำให้รู้โครงสร้างและช่องว่างที่จะทุจริตร่วมกันในการนำเงินออกมา การทุจริตครั้งนี้ถูกเปรียบเทียบกับการส่งส่วยในระบบราชการที่มีลำดับชั้น โดยมีเครือข่ายเป็นวงกว้าง
นอกจากนี้ ยังพบประเด็นการซื้อขายตำแหน่งในวงการสงฆ์ ซึ่งจะมีการจ่ายเงินเพื่อให้ได้สมณศักดิ์ที่สูงขึ้น โดยมีการระบุว่ามีการซื้อรถยนต์หรูเพื่อแลกกับการเลื่อนสมณศักดิ์ด้วย
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายผลการทุจริตในวงการสงฆ์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญหลายระดับชั้น เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และสร้างความโปร่งใสให้กับวงการพระพุทธศาสนา
