องค์กรคุ้มครองชาวเผ่าพื้นเมืองของรัฐบาลบราซิล (FUNAI) เผยแพร่ภาพวิดีโอซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าชายคนสุดท้ายจากชนเผ่าอินเดียนในป่าแอมะซอนยังคงมีชีวิตอยู่ แม้จะต้องอยู่อย่างเดียวดาย โดยเลือกที่จะไม่ติดต่อหรือมีปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอกก็ตาม
ชายในวิดีโอขณะกำลังตัดต้นไม้ด้วยขวานกลางป่าแอมะซอน ได้ชื่อว่าเป็น ‘มนุษย์ผู้โดดเดี่ยวที่สุดในโลก’ เพราะเขาใช้ชีวิตเพียงลำพังในป่านาน 22 ปี หลังสมาชิกในเผ่าคนอื่นๆ ถูกสังหารโดยมือปืนที่ถูกว่าจ้างโดยนักล่าอาณานิคมและเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ในช่วงที่บุกรุกผืนป่าในยุคทศวรรษ 1970
เรื่องราวของเขามีคนรู้น้อยมาก แต่ FUNAI ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเขามาตลอดนับตั้งแต่ปี 1996 หลังพบร่องรอยว่าเขาน่าจะยังมีชีวิตอยู่จริง
FUNAI ได้กำหนดพื้นที่หวงห้ามครอบคลุมเนื้อที่ 4,000 เฮกตาร์เพื่อปกป้องอาณาเขตของเขาหลังเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ในปี 2009 ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายครั้งนั้นช่วยให้เขายังมีชีวิตรอดอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยอาณาเขตผืนป่าของเขาถูกห้อมล้อมด้วยฟาร์มปศุสัตว์และไร่ถั่วเหลืองในรัฐรอนโดเนีย
นักนิเวศวิทยาพบว่าเขาสามารถปลูกข้าวโพด กล้วย มะพร้าว มันสำปะหลัง และผักต่างๆ ไว้กิน นอกจากนี้ยังล่าสัตว์เพื่อยังชีพด้วย โดยมีการขุดหลุมลึกประมาณ 2 เมตร พร้อมปักไม้แหลมที่ก้นหลุมไว้ดักจับสัตว์ต่างๆ
ส่วนกระท่อมที่พักของเขามุงด้วยใบจากและฟางข้าว โดยด้านในยังมีการขุดหลุมไว้ด้วย ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะใช้หลบภัยหากถูกจู่โจม
Altair Algayer หัวหน้าทีม FUNAI ผู้ดูแลอาณาเขตของชายผู้นี้กล่าวว่า “ชายคนนี้สูญเสียเกือบทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงเพื่อนร่วมชนเผ่าของเขา แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถมีชีวิตรอดได้โดยที่ไม่ต้องติดต่อกับโลกภายนอก ซึ่งผมคิดว่าเขาไม่สื่อสารกับใครเลยอาจเป็นเรื่องดีสำหรับเขา”
อ้างอิง: