ระหว่างวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่จังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มจังหวัดราชธานีเจริญศรีโสธร (อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ศรีสะเกษ, ยโสธร)
โดยการตรวจราชการนั้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ การพัฒนาแพทย์แผนไทยที่มีมาตรฐานบูรณาการกับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้เพื่อสร้างสมดุลธรรมชาติ และการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ มุ่งไปสู่เป้าหมายการพัฒนากลุ่มจังหวัดคือ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเกษตรอินทรีย์เพิ่มมูลค่า การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การค้าชายแดนได้มาตรฐานสากล
ระหว่างลงพื้นที่ นายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับ โดยระบุว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้มาด้วยใจ ขอประชาชนอย่าเพิ่งเบื่อ และย้ำว่าไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร เพราะมาในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ไม่สามารถมาพบประชาชนเช่นนี้ได้ พร้อมกันนี้ยังได้ย้ำด้วยว่าไม่มีเจตนาหาเสียง แต่ประชาชนทุกคนคือผู้กำหนดชะตาชีวิตตัวเอง ดังนั้นต้องพิจารณาให้ดี ที่สำคัญตนเองไม่เคยผูกขาดอำนาจ เพราะการเลือกตั้งเป็นอำนาจของประชาชน
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวยืนยันว่าระหว่างเดินทางเยือนต่างประเทศได้รับคำชื่นชมว่าประเทศไทยมีความสงบเรียบร้อย ไม่มีความรุนแรง และตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น เป็นประเทศที่น่าลงทุน ซึ่งการบริหารประเทศที่ผ่านมาส่งผลให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศน่าลงทุนอันดับหนึ่ง สถานการณ์การค้ามนุษย์ก็ถูกจัดอันดับให้ดีขึ้น ดังนั้นขออย่าทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีกไม่ว่าใครก็ตาม
ทั้งนี้ช่วงหนึ่งนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุ อบต.พนา ได้รำประกอบเพลงอำนาจเจริญ และรำเซิ้งออนซอนอีสานต้อนรับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติร่วมรำด้วย ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปเรื่องโครงการเมืองสมุนไพรอำนาจเจริญ ชมการดำเนินการสร้างเครือข่ายของผู้เพาะปลูกสมุนไพรในชุมชน การผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรหมอพื้นบ้าน และส่งเสริมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพของประชาชน
Photo: สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี