พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรูของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยปฏิเสธว่าไม่ได้ยื้อเวลาในการดำเนินการตรวจสอบ แต่จะต้องหาข้อมูลพยานหลักฐานให้ครบถ้วนเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง และจากที่ทราบคือรายงานของคณะทำงานเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการ และกรรมการมีมติใช้ระเบียบว่าด้วยการตรวจสอบทรัพย์สินว่าเอกสารที่อยู่กับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่มีข้อมูล จึงทำให้ต้องไปขอข้อมูลกับบริษัทผู้ผลิตในแต่ละยี่ห้อว่าได้ขายให้กับผู้ใดเพื่อเป็นการยืนยันที่มาความเป็นเจ้าของ
หากบริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศปฏิเสธให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. ต้องมาพิจารณาหาหนทางอื่น ซึ่งหากไม่มีหนทางใด คณะกรรมการก็ต้องวินิจฉัยตามข้อมูลหลักฐานเท่าที่มีอยู่ คาดว่าใช้เวลาไม่นานในการรอข้อมูลจากต่างประเทศ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่เป็นเอกชนที่พร้อมให้ข้อมูลหากมีข้อมูลตามที่ไทยประสานขอไป โดยกรอบเวลาที่รอข้อมูลจากต่างประเทศไม่มีกำหนดแน่ชัด แต่การดำเนินการที่ผ่านมา บางหน่วยงานก็ให้ข้อมูลเร็ว
นอกจากนี้ยังยอมรับว่าการดำเนินการขอข้อมูลระหว่างประเทศค่อนข้างล่าช้ามาก เพราะเป็นการไต่สวนที่ต้องขอความร่วมมือผ่านสำนักงานอัยการสูงสุดและขอความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น คดีสนามฟุตซอลที่ต้องขอความร่วมมือประเทศในแถบยุโรปปรากฏเงื่อนไขที่ทางนั้นไม่ให้ข้อมูล เพราะว่าไทยมีโทษประหารชีวิต แม้ไทยจะมีกฎหมายที่กำหนดว่าคณะรัฐมนตรีสามารถให้คำมั่นได้
ส่วนคดีสินบนโรลส์-รอยซ์ พลตำรวจเอก วัชรพล เผยว่ามีความคืบหน้าไปบ้าง ยังคงดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะบางเรื่องบางประเด็นเป็นเรื่องที่เกิดมานานพอสมควร ทำให้พยานเอกสารหลักฐานค่อนข้างจะหากยาก ต้องระวังผลกระทบในการดำเนินคดีของประเทศนั้น และยังย้ำด้วยว่าไม่ถึงทางตันในการเจรจาขอข้อมูล
