วันนี้ (3 กรกฎาคม) อรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภารกิจแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่ไม่สามารถส่งออกสินค้าทางการเกษตรได้ว่า ในเบื้องต้นตนพอจะทราบข่าว และได้ติดตามในเรื่องของข้อมูลการปิดด่านชายแดนในเรื่องของสินค้าเกษตรซึ่งกระทบไม่มาก และได้พูดคุยกับกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะต้องดำเนินการโดยเร็วเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการระบายสินค้า หากทำไม่ได้ก็ต้องหาทางออกอย่างอื่น
ส่วนการบริโภคภายในประเทศ อรรถกรกล่าวว่า เพิ่งรับตำแหน่งเต็มรูปแบบเมื่อสักครู่ ยังไม่ถึงชั่วโมง แต่สิ่งที่สำคัญทางออกในวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาล ต้องเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อหาแหล่งให้สินค้าเกษตรของไทยไปถึงมือผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติ
อรรถกรกล่าวว่า ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาเรื่องการประสานงานระหว่าง 2 กระทรวงบ้าง แต่นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็พยายามทำทุกวิถีทางในการทำงานร่วมกับกระทรวงอื่น พร้อมย้ำว่า การเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ เป็นการสานต่องาน ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ครั้งที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และส่งต่องานไปยังนฤมล รวมถึงที่ตนได้ดูการประกาศนโยบายในงาน Ignite Thailand ทั้ง 9 ข้อ ในสมัยเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี โดยส่วนตัวจะเน้น 9 ข้อดังกล่าว ว่าจะทำอะไรก่อนหรือหลัง หรืออะไรที่จะทำทันที และอะไรที่จะต้องวางแผนในระยะยาว
ส่วนเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. จะต้องมีการปรึกษาอิทธิ ศิริลัทธยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นคุณพ่อ ที่กำกับดูแลมากว่า 9 เดือน
เมื่อถามว่า ในสถานการณ์ที่การเมืองยังไม่แน่นอนในฐานะนายทะเบียนพรรคกล้าธรรม เตรียมรับมืออย่างไร อรรถกรกล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลให้ดีที่สุด และเชื่อว่าวันนี้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้ รัฐบาลชุดใหม่ก็เดินหน้าได้ ส่วนสภาจะล่มหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) รวมถึงตนที่เป็น สส. และได้พูดคุยกับทีมงานว่าในวันพุธที่มีการประชุมสภาฯ จะไม่รับงาน ยกเว้นภารกิจเร่งด่วน