×

สร้างอาคารอย่างไรให้ยั่งยืน? Protective Investment แนวคิดเพื่ออนาคตของอสังหาฯ ที่ทั้งสวย คุ้ม และยั่งยืน [ADVERTORIAL]

04.07.2025
  • LOADING...
nippon-protective-investment

ในยุคที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญทั้งต้นทุนก่อสร้างที่ผันผวน พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว และแรงกดดันจากมาตรฐานความยั่งยืน โจทย์ของนักลงทุนจึงไม่ใช่แค่การสร้างอาคารให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ต้องคิดต่ออีกว่า จะสร้างอย่างไรให้อาคารยังรักษามูลค่าไว้ได้ในระยะยาว

 

เพราะอาคารที่สวยงามในวันนี้ อาจไม่มีความหมายถ้ามูลค่าทรัพย์สินลดลงทุกปี การวางแผนด้าน Maintenance และ Building Lifecycle Management จึงควรเริ่มตั้งแต่ต้น เพื่อวางรากฐานการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อปกป้องทรัพย์สินในระยะยาว (Protective Investment) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งความเชื่อมั่นในตัวโครงการ และ ROI โดยรวม

 

ทำไมต้องวางแผน Protective Investment ตั้งแต่ต้น?

 

1. ยืดอายุทรัพย์สิน สร้างรายได้ที่มั่นคง: แม้อสังหาริมทรัพย์จะเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนระยะยาว แต่ความเสื่อมทางกายภาพ เช่น รอยแตกร้าว สีลอกล่อน ซีดจาง หรือคราบสะสม ล้วนทำให้รายได้จากการเช่าหรือขายผันผวน การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงตั้งแต่แรก เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับอาคาร อย่างนวัตกรรมฟิล์มใสปกป้องสี ที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดความเสี่ยงจากการสูญเสียรายได้ และเพิ่มโอกาสในการรักษามูลค่าทรัพย์สินให้นานที่สุด

 

2. เสริมภาพลักษณ์อสังหาริมทรัพย์ เพิ่มโอกาสการลงทุนซ้ำ: อาคารที่ได้รับการดูแลอย่างดีและดูใหม่เสมอ มีผลต่อการตัดสินใจของผู้เช่าและนักลงทุนโดยตรง เพราะสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของโครงการ ทำให้สามารถขยายพอร์ตหรือลงทุนซ้ำได้ง่ายขึ้นในอนาคต

 

3. สอดรับเทรนด์การลงทุนอย่างความยั่งยืน (Sustainable Investment): ประเด็นความยั่งยืนกลายเป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจลงทุน วัสดุที่ลดการซ่อมแซมซ้ำซ้อนจึงไม่ใช่แค่การประหยัดต้นทุน แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

 

4. ประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัด:

นอกจากยืดอายุการใช้งานของอาคารแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เช่น Nippon Paint ULTRAGUARD ช่วยลดความถี่ในการซ่อมแซมและทาสีใหม่ และลดความยุ่งยากต่างๆ ของโครงการ สร้างให้เกิดคุ้มค่าในระยะยาว  

 

โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยตลอด 20 ปี อยู่ที่ประมาณ 277 บาท/ตร.ม. เมื่อเทียบกับระบบสีปกติที่อาจมอบความทนทานสูงสุดไม่เกิน 8-15 ปี ก็ต้องรีเพ้นต์ใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 321 บาท/ตร.ม. จึงช่วยประหยัดได้อย่างน้อย 13%* ขณะที่ยังได้คุณภาพงานที่คงทน สีสวยยาวนาน และลดภาระการบำรุงรักษาในระยะยาว

 

Nippon Paint ULTRAGUARD ตัวช่วยสำคัญของการลงทุนเพื่อปกป้องทรัพย์สินระยะยาว

 

หนึ่งในต้นทุนแฝงที่มักถูกมองข้าม คือ ‘การทาสีซ้ำ’ ทุก 4-5 ปี ซึ่งไม่เพียงเสียค่าวัสดุ ค่าแรง และเวลา แต่ยังสูญเสียโอกาสทางรายได้ และเพิ่มภาระในการบริหารจัดการ ทั้งด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม

 

ทาสี ต้นทุนมหาศาล

 

Nippon Paint ULTRAGUARD สุดยอดนวัตกรรมฟิล์มใสปกป้องสีเจ้าแรกในประเทศไทย ใช้เป็นขั้นตอนสุดท้าย หลังจากการทาสีรองพื้นและสีทับหน้า 

 

Nippon Paint ULTRAGUARD

 

โดย Nippon Paint ULTRAGUARD  จะทำหน้าที่เป็น Protective Coat เสริมเกราะให้อาคารทนแดด ทนฝน ทนมลภาวะฝุ่น คราบดำ และความชื้น เหมาะสำหรับโครงการหรือบ้านมูลค่าสูงที่ต้องการ เป็นช่วยการช่วยยืดอายุการใช้งาน และลดการซ่อมบำรุงในระยะยาว 

 

สีสวยทนทาน

 

คุณสมบัติเด่นของ Nippon Paint ULTRAGUARD:

 

  • ทนสุด: ผ่านการทดสอบ QUV Resistance มากกว่า 7,000 ชั่วโมง* สูงกว่ามาตรฐาน มอก. ถึง 7 เท่า ทนแดด ทนฝน ทนฝุ่น ทนมลภาวะ เป็นเกราะคุ้มกันอาคารจากสภาพอากาศ ทั้ง แดด ฝน ฝุ่น  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สวยสุด: สีสด ชัด ไม่ซีดง่าย ช่วยลดการจับฝุ่นและคราบน้ำ
    อาคารจึงดูดีเหมือนใหม่ได้ยาวนาน โดยไม่ต้องรีโนเวตบ่อยครั้ง
  • คุ้มสุด: ลดความถี่ในการทาสีซ้ำ (Repaint Cycle) ประหยัดทั้งค่าวัสดุ ค่าแรง และเวลาการซ่อมแซม เหมาะสำหรับโครงการระดับสูงที่ต้องการบริหารต้นทุนระยะยาว

 

ที่สำคัญ รับประกันสีไม่ลอกล่อนนานถึง 20 ปี* และ ครั้งแรกในไทยกับการรับประกันสีไม่ซีดจางนานสูงสุด 7 ปี* หากใช้ผลิตภัณฑ์จาก Nippon Paint เต็มระบบ

 

เปลี่ยนต้นทุนซ่อมแซม เป็นแต้มต่อเรื่องความยั่งยืน 

 

ในวันที่ Carbon Credit กลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดมูลค่าการลงทุน การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดการซ่อมแซมซ้ำซ้อน ไม่เพียงช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็น ‘แต้มต่อเชิงกลยุทธ์’ ที่ลดต้นทุนระยะยาว และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงนักลงทุนสาย ESG ได้จริง

 

ยกตัวอย่างความคุ้มค่า หากใช้สีทั่วไป โครงการขนาดใหญ่ต้องรีเพนต์ทุก 5 ปี หรือเฉลี่ย 3-4 ครั้งภายใน 20 ปี แต่หากใช้ Nippon Paint ULTRAGUARD เพียงแค่ครั้งเดียวก็เพียงพอในช่วงเวลาเท่ากัน นั่นหมายถึงต้นทุนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในแง่แรงงาน วัสดุ และเวลาที่เสียไปจากการปิดปรับปรุง
และที่สำคัญยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างน้อย 34%

 

ลงทุนครั้งเดียว เพื่อความสวยทน และยั่งยืนกว่า

 

การลงทุนที่ดีไม่หยุดแค่ผลกำไร แต่ต้องต่อยอดเป็นสินทรัพย์ที่เติบโตในระยะยาว

เพราะฉะนั้นทุกการตัดสินใจจึงต้องมองให้ครบทั้งต้นทุน การดูแล ภาพลักษณ์ และความยั่งยืน

 

 

เริ่มต้นวางรากฐานปกป้องทรัพย์สินในระยะยาว ด้วย Nippon Paint ULTRAGUARD ทาครั้งเดียวแต่ทนทานกว่า และช่วยปกป้องมูลค่าทรัพย์สินได้จริง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising