วันนี้ (31 พฤษภาคม) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. จังหวัดพะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ปฏิเสธให้ความเห็นถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าขณะนี้ถึงเวลาที่สมควรแก่การปรับครม.แล้วหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบ ไม่ใช่หน้าที่ของตน เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะเป็นผู้ตัดสินใจจะไปแสดงความคิดเห็นมากกว่านี้ก็ไม่ควร
ส่วนกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่ากระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เหมือนกับว่าจะมีการปรับ ครม. นั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองก็เหมือนเรื่องทั่วไป หากหลวมก็ต้องขันให้แน่น แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ควรหลวม ควรจะขันแน่นตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงไหนที่มองว่าหลวมอยู่บ้าง ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เราไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์ ประชาชนจะเห็นเอง ส่วนที่ทักษิณออกมาระบุว่ากระทรวงมหาดไทยยังทำงานไม่เต็มที่ ขออย่าไปวิพากษ์วิจารณ์เขาอย่างนั้น ก่อนย้ำว่าเราไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายและก้าวล่วง
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวอีกว่า เชื่อว่าท้ายที่สุด การเมืองต้องคุยกัน การเมืองต้องจบด้วยการเมือง เพราะหากการเมืองไม่จบด้วยการเมือง จบด้วยการอื่นเดี๋ยวจะยุ่ง
เมื่อถามว่า ขณะนี้ทุกพรรคร่วมรัฐบาลยังไปต่อด้วยกันจนครบวาระหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า บรรยากาศในเวลานี้ ส่วนตัวได้พูดคุยกับทุกพรรคไม่น่ามีปัญหาอะไร และยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี แต่มีการพูดคุยกับทักษิณตลอด
ส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังเป็นโควตาของพรรคกล้าธรรมเหมือนที่ตนให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ทั้งนี้ หากมีการปรับให้ อรรถกร ศิริลัทธยากร สส. ฉะเชิงเทรา ให้กลับมาขึ้นเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องผ่านความเห็นของคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่มีการตัดสินใจโดยส่วนตัว หรือใครคนใดคนหนึ่ง จะไม่มีการครอบงำใดๆ
ส่วนในพรรคกล้าธรรมจะต้องมีการปรับเปลี่ยนบุคคลที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีภายในพรรคหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า คนที่เป็น สส. และเข้าสู่การเมืองหลายคน เป็น สส. มาแล้วหลายสมัย ก็ไม่ขี้เหร่ มีโอกาสเสมอ
เมื่อถามว่า หากประเมินในทางการเมือง ซึ่งมีเวลาสองปีที่เหลือ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า การเข้าสู่เวทีการเมือง เราอย่าไปยึดติด เพราะพอมีการปรับเปลี่ยนอะไรก็มักจะมีปัญหา ซึ่งสิ่งสำคัญ คืออย่ายึดติด ต้องประมาณตัวเองตลอดเวลา ว่าเราทำงานตอบโจทย์หรือไม่ เป็นประโยชน์กับประชาชนมากแค่ไหน
“หลักการทั่วไปคืออย่ายึดติด เพราะบางครั้ง บางคน บางท่าน หัวโขนเขาสวมให้ ไปยึดติดมากเกินไป ไม่ดูตัวเอง ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน ผมไม่ได้หมายถึงใคร แต่นักการเมืองต้องประมาณตัวเอง”