วานนี้ (25 พฤษภาคม) พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตกในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ยอมรับว่า เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก 2 ครั้งภายในระยะเวลา 1 เดือน เป็นเรื่องที่น่าตกใจ และยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ในขณะนี้ โดยได้สั่งการให้แยกการตรวจสอบสาเหตุของทั้งสองเหตุการณ์ออกจากกัน เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างรอบคอบและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดที่ต้องตรวจสอบเรื่องความขัดข้องทางเทคนิคอย่างละเอียด ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ
สำหรับเฮลิคอปเตอร์รุ่นเบลล์ 212 ที่ประสบเหตุนั้น ผบ.ตร. ระบุว่ามีอายุการใช้งานกว่า 40 ปี มีอยู่ในราชการกองบินตำรวจประมาณ 10 ลำ โดย 3 ลำยังคงใช้งานอยู่และได้รับการซ่อมบำรุงตามวงรอบ ล่าสุดมีการตรวจสอบเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา และไม่พบความผิดปกติใดๆ
พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ เผยว่า ภายใน 2-3 วันนี้ ตนเองพร้อมด้วยรอง ผบ.ตร. และฝ่ายบริหาร จะเดินทางไปยังกองบินตำรวจ เพื่อรับฟังข้อมูลและวางแนวทางการบริหาร รวมถึงสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักบิน โดยจะขอข้อมูลประวัติการซ่อมบำรุงและอายุการใช้งานของอากาศยานทุกลำ เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งรวมถึงการพิจารณาจำหน่ายอากาศยานที่หมดอายุการใช้งานแล้ว
ท้ายสุด พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ยืนยันว่า ได้สั่งการให้ผู้บังคับการกองบินตำรวจ ระงับการบินและตรวจสอบอากาศยานทุกลำหรือกราวนด์ จนกว่าจะมั่นใจในความพร้อมใช้งาน เพื่อให้นักบินมีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากนักบินแต่ละท่านมีชั่วโมงบินสูง จึงเชื่อว่าความปลอดภัยของอากาศยานเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยจะรับฟังข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญของกองบินตำรวจ เพื่อกำหนดแนวทางการตรวจสอบและจัดลำดับความจำเป็นในการใช้งานต่อไป
