วันนี้ (17 พฤษภาคม) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี รับฟังปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการเกี่ยวกับการผลิตและส่งออก โดยเกษตรกรได้เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาการส่งออกผลไม้ ตั้งศูนย์ตรวจสินค้า ณ จังหวัดหลัก เช่น จันทบุรีและชุมพร สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน ส่งเสริมการใช้ทูตวัฒนธรรมอย่าง LISA Blackpink โปรโมตผลไม้ไทย และผลักดันให้ออกกฎกระทรวงหรือให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดบังคับใช้กฎหมายแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อนและน้ำหนักไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงเจรจากับประเทศคู่ค้าให้การขนส่งผ่านด่านสะดวกและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเรียกร้องให้ดูแลราคามังคุดและแก้ไขปัญหาช้างป่าด้วย
ส่วนของปัญหาแรงงานต่างด้าวภาคเกษตร ญาณธิชา บัวเผื่อน สส. จันทบุรี พรรคประชาชน ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีเร่งรัดการพิจารณาเพิ่มการอนุญาตทำงานจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน และอนุญาตให้แรงงานเดินทางข้ามจังหวัดได้ตามบันทึกข้อตกลง 8 จังหวัด พร้อมทั้งขออนุมัติงบกลาง 100 ล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่าในพื้นที่
ด้านนายกรัฐมนตรีรับทราบปัญหา และให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาแนวทางการแก้ไข โดยจะนำภาคเอกชนเข้ามาช่วยรับซื้อผลไม้ในช่วงที่ผลผลิตล้นตลาด สนับสนุนงานวิจัยเพื่อพัฒนาสินค้าไทยให้แข่งขันได้ สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาการขนส่งติดด่าน ลดระยะเวลาดำเนินการ และผลักดันให้มีระบบ One Stop Service พร้อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะทำงานประสานงานกับล้งและเกษตรกรโดยตรง
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่ถ้าเรายังมีลมหายใจเราสู้ไหวอยู่แล้ว ถ้าคิดไม่ออกให้ไปบอกผู้ว่าฯว่ามีข้อแนะนำอย่างไร ก่อนจะเยี่ยมชมจุดไลฟ์ขายทุเรียนของกลุ่ม Young Smart Farmer ร่วมปลูกต้นทุเรียน และทดลองตัดทุเรียน
จากนั้นในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมบูธอาหาร Thai SELECT รณรงค์การรับประทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล พร้อมระบุว่า ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจึงอยากให้คนไทยทานผลไม้ไทย เพราะทั่วโลกกำหนดให้ผลไม้ไทยเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ชื่นชอบ มีทั้งราชาและราชินีแห่งผลไม้ จึงอยากให้ช่วยกันทานผลไม้ให้มากๆ ส่งออกแล้วก็อยากจะให้ในประเทศขายดีด้วยเช่นกัน ซึ่งปีนี้ผลผลิตออกมาค่อนข้างมาก ขอเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและชาวสวนทุกท่าน
ต่อมานายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมขั้นตอนการส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ ที่บริษัท ดรากอน เฟรช ฟรุท จำกัด พร้อมแลกเปลี่ยนปัญหากับเกษตรกรในพื้นที่
ชาวสวนจันทบุรีได้ของบประมาณ 25 ล้านบาท ผ่านสหกรณ์เพื่อแก้ไขปัญหามังคุดในพื้นที่ โดยชี้ว่าหากแก้ปัญหาผลไม้ภาคตะวันออกได้ จะช่วยลดผลกระทบต่อผลผลิตจากภาคใต้และศรีสะเกษที่จะตามมา พร้อมขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาตู้คอนเทนเนอร์บรรจุทุเรียนติดด่าน ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาและคุณภาพผลผลิตเนื่องจากการควบคุมคุณภาพไม่ให้ชุบน้ำยาทำให้เน่าเสียเร็ว
ขณะที่นายกรัฐมนตรีรับฟังปัญหา และพร้อมประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ รวมถึงจะพิจารณาเรื่องงบประมาณสนับสนุนสหกรณ์และการแก้ไขปัญหาด่านกักกัน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อการส่งออกที่ราบรื่นและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
