วันนี้ (17 พฤษภาคม) นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เปิดเผยว่า พรรคกล้าธรรมกำลังขยับขับเคลื่อนนโยบายของพรรคในเรื่องต่างๆ ซึ่งเราไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะในภาคของการเกษตรเท่านั้น แต่ภาคการศึกษาก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ภาคกล้าธรรมให้ความสำคัญเพื่อนำไปสู่ในการพัฒนาประเทศ โดยเรามี ปรีดา บุญเพลิง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม เป็นคนขับเคลื่อนโดยร่วมกับข้าราชการครูทั่วประเทศอีกกว่า 50 ท่าน ซึ่งจะนำมาสู่นโยบายที่ถูกต้องโดนใจครู นิสิต นักเรียน ถือเป็นการเตรียมพร้อมของพรรค ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เราก็มีความพร้อมเสมอ
ส่วนกรณีที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุให้เปิดรายชื่อ สส. ที่จะย้ายมาพรรคกล้าธรรมนั้น นฤมลกล่าวว่า ก็เป็นความเห็นส่วนตัวของหัวหน้าพรรคประชาชน ในส่วนของทางพรรคกล้าธรรม เราต้องให้เกียรติทุกท่านที่จะเข้ามาร่วมงานกับเรา ในการที่พิจารณาตัดสินใจจะเข้ามา เราไม่ได้คิดจะมาเล่นเกมอะไรอย่างที่ฝ่ายค้านมอง เราพร้อมที่จะเปิดกว้างรับผู้ที่มีอุดมการณ์ตรงกับเรา ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีพวกใดๆ ทั้งสิ้น
นฤมลยืนยันว่า เป้าหมายของเรา ไม่ได้คิดจะทำเพื่อประโยชน์ของพรรคกล้าธรรม แต่เรายึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เราไม่ได้สร้างคำพูดสวยหรู แต่เราเป็นแบบนั้นจริงๆ วันนี้ตนเองกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ หากมีความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราก็พร้อมที่จะลงไปช่วยแก้ไข ตั้งแต่สมัย ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม สมัยที่ท่านเป็นรัฐมนตรีก็เป็นเช่นนี้ พร้อมที่จะคงไปแก้ปัญหาทุกพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่า ถ้านักการเมืองทุกคนทำงานแบบนี้ประชาชนก็จะได้ประโยชน์
ส่วนการที่ ร.อ. ธรรมนัส ระบุว่า ได้มีการพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงการย้ายพรรคของ น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และ การุณ โหสกุล จะถูกมองว่า พรรคกล้าธรรมเป็นสาขาพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นฤมลยืนยันว่า พรรคกล้าธรรมคือ พรรคกล้าธรรม ไม่ใช่สาขาพรรคใดแน่นอน และเราก็จะสร้างบ้านและครอบครัวของเราขยายไปเรื่อยๆ อย่างเข้มแข็ง
“ทั้ง 2 ท่าน มาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมเพราะมีอุดมการณ์ที่ตรงกัน เป็นพรรคที่ตรงใจกับเขาในการที่จะช่วยเหลือประชาชนเหมือนกัน ไม่ใช่จะต้องวิ่งไปหาฝ่ายเดียวกันเท่านั้นที่จะช่วยได้ ส่วนการพูดคุยกับท่านทักษิณ เนื่องจากทั้ง 2 ท่าน เคยสังกัดพรรคเพื่อไทยมาก่อน ดังนั้น วัฒนธรรมของคนไทย ก็ต้องไปลามาไหว้ผู้บริหารพรรค และผู้ที่เคยดูแลมาก่อนเป็นธรรมดา” นฤมลกล่าว
