×

DELTA – 1Q68: กำไรสุทธิดีกว่าคาดท่ามกลางความต้องการ AI

30.04.2025
  • LOADING...
delta-1q68-ai-demand

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) รายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 5.5 พันล้านบาท สูงกว่าตลาดคาด 37% โดยได้แรงหนุนจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่แข็งแกร่งและการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้น รายได้ เพิ่มขึ้น 12.5%YoY และ 2.4%QoQ หลักๆ ได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากกระแสการใช้งาน AI รวมถึงแนวโน้มอุปสงค์ที่ดีจากกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ และกลุ่มโครงสร้างเครือข่าย แต่ถูกลดทอนบางส่วนโดยอุปสงค์กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV ที่อ่อนแอ 

 

อัตรากำไรขั้นต้น ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 25.6% ใน 1Q68 จาก 21% ใน 1Q67 หลักๆ เกิดจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรสูง เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานในโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ AI และความต้องการบริการคลาวด์ที่ยังดีต่อเนื่อง  ในขณะที่อัตรากำไรผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV ยังคงอ่อนตัวลง 

 

ค่าใช้จ่าย SG&A/ยอดขาย เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY มาอยู่ที่ 12.2% จากค่าบริการทางเทคนิคสำหรับผลิตภัณฑ์ AI แต่ลดลงจาก 16.9% ใน 4Q67 ที่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับคดีความและค่าใช้จ่าย Royalty จำนวนมาก อัตราภาษีที่แท้จริง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12.5% ใน 1Q68 (เทียบกับ ลดลง 2.6% ใน 1Q67) หลังจากเริ่มบันทึกภาษีส่วนเพิ่มตามเกณฑ์ Global Minimum Tax (GMT) 

 

กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 437 ล้านบาท ใน 1Q68 (เทียบกับกำไร 493 ล้านบาท ใน 1Q67 และขาดทุน 329 ล้านบาท ใน 4Q67) หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติ เพิ่มขึ้น 32.4%YoY มาอยู่ที่ 5 พันล้านบาท คิดเป็น 24.5% ของประมาณการกำไรปกติปี 2568 

 

กระทบอย่างไร:

 

หลังรายงานผลประกอบการ 1Q68 ณ 28 เมษายน 2568 ราคาหุ้น DELTA ปรับขึ้น 1.50%DoD สู่ 83.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.05%DoD สู่ 1,159.53 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2568:

 

DELTA คงเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2568 ไว้ที่ 10-15% หลักๆ ได้แรงหนุนจากรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่คาดว่าจะเติบโต 50% YoY และน่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50-55% ของรายได้รวมภายในสิ้นปี 2568 ในขณะที่คาดว่าสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV จะลดลงจาก 25% มาอยู่ที่ราว 20% ซึ่งสะท้อนถึงวัฏจักรการเติบโตที่ช้าลงในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ส่วนกลุ่มอื่นๆ คาดว่าจะยังเติบโตในระดับปานกลาง 

 

แม้ว่าความต้องการ AI ยังคงแข็งแกร่ง แต่ DELTA ค่อนข้างผลิตเต็มกำลัง 100% แล้ว ดังนั้นคำสั่งซื้อส่วนเพิ่มของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI อาจจะมีเพิ่มขึ้นได้ไม่มากนัก และ DELTA วางแผนจัดสรรพื้นที่การผลิตบางส่วนเพื่อใช้ในการผลิต AI Power Supply ใน 3Q68 อัตรากำไรขั้นต้น คาดว่าจะยังอยู่ที่ราว 25% ในปี 2568 แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากกลุ่ม EV ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นลดลงแรงใน 1Q68 

 

ผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ DELTA มีรายได้จากสหรัฐฯ มากกว่า 35% ของรายได้รวม โดยสินค้าหลักที่ส่งออกไปสหรัฐฯ ได้แก่ สินค้ากลุ่มยานยนต์ (ภาษีนำเข้า 25%) และดาต้าเซ็นเตอร์และผลิตภัณฑ์ Consumer Electronic (ภาษีนำเข้า 10%) โดยทาง DELTA อาจจะต้องแบ่งเบาภาระบางส่วนให้กับลูกค้าด้วย 

 

DELTA มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้โรงงานผลิตเนื่องจากมีฐานการผลิตที่ครอบคลุมทั่วโลก โดยการเลือกให้โรงงานไหนผลิตให้นั้นอยู่ที่ลูกค้าเป็นหลัก

ความเสี่ยงด้านคดีความยังคงเป็น overhang ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ค่าใช้จ่ายด้านคดีความใน 1Q68 มีจำนวนน้อยกว่า 100 ล้านบาท ลดลงจากที่มีการบันทึกเกือบ 1 พันล้านบาท ใน 2H67  

 

โดยคาดว่าจะเห็นค่าใช้จ่ายด้านคดีความเข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ หากคดีมีความคืบหน้าในชั้นศาล ซึ่งคาดว่าจะอยู่ใน 2Q68 และ/หรือ 2H68 โดยคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิบัตรค่อนข้างที่ต้องใช้เวลาในการตัดสิน รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนเรื่องค่าปรับด้วยว่าจะอยู่ประมาณเท่าไร จึงอาจจะยังเป็น Overhang Issue สำหรับประเด็นนี้

 

กลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research คงคำแนะนำ Underperform สำหรับ DELTA โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 80 บาทต่อหุ้น อ้างอิง PE ที่ 49 เท่า หรือ PE เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่อ่อนแอกว่าคาด และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ปัจจัย ESG ที่สำคัญ คือ การจัดการแรงงาน และซัพพลายเออร์

 

DELTA – 1Q68: กำไรสุทธิดีกว่าคาดท่ามกลางความต้องการ AI

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising