วันนี้ (4 มีนาคม) ที่อาคารรัฐสภา ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ที่ยังมีข้อถกเถียงเรื่องระยะเวลากันอยู่ ซึ่งคงจะไปพูดคุยกันในวิปร่วมอีกครั้ง เพราะตอนที่วิปฝ่ายค้านแจ้งว่าจะอภิปราย 5 วัน ได้มีการเตรียมการไว้หมดแล้วว่าจะมีผู้อภิปรายประมาณใด จึงขอย้ำว่าการอภิปราย 5 วัน ไม่ใช่แค่ฝ่ายค้านอภิปรายเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีจะต้องชี้แจงด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้ยินมาว่ามีบางท่านบอกว่าการที่ฝ่ายค้านขอระยะเวลาอภิปราย 5 วัน ถือว่าผิดมารยาท ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ออกมาตอบโต้ว่าจะให้อภิปรายแค่วันเดียว แต่โฆษกพรรคเพื่อไทยกลับยอมรับว่าอภิปรายวันเดียวอาจจะน้อยเกินไป ส่วนตัวจึงมองว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ให้สังคมออกมาถกเถียงกัน เพราะพรรคการเมืองจะได้สะท้อนเสียงของประชาชนและตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้มีการตอบโต้กันระหว่างตนเองและ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล จะส่งผลไปถึงความขัดแย้งส่วนตัวหรือไม่ ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนมีมารยาท เมื่อเห็นผู้ใหญ่ก็ต้องยกมือไหว้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานยอมรับว่าโกรธจริงๆ แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะโกรธที่เห็นการเมืองที่อ้างตนเองว่าอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยพูดถึงการยุบพรรคที่ฝ่ายเผด็จการเอามาใช้ประหารนักการเมืองที่มาจากประชาชนได้ราวกับเป็นเรื่องตลก จึงคาดหวังว่าท่านคงไม่มีเจตนาที่จะทำแบบนั้น
ทั้งนี้ ขณะนี้ยังไม่ได้เคลียร์กับวิสุทธิ์ เพราะมองว่าการกระทบกระทั่งเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวก็คงผ่านไป และกลายเป็นหนึ่งในบทเรียนให้ทั้งสองฝั่งว่า การสื่อสารควรจะหยุดที่ประมาณไหน ซึ่งถ้าไปถามสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนอื่น เชื่อว่าก็คงมีบางท่านไม่สบายใจเช่นกัน
ส่วนหากสรุปแล้วไม่ได้ระยะเวลา 5 วันจริง ปกรณ์วุฒิระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วยกับประธานวิปรัฐบาลที่มองว่าไม่ควรจะประชุมกันจนถึงตี 1-2 เนื่องจากประชาชนแทบจะไม่ได้ติดตาม และส่งผลให้เนื้อหาสาระไม่ถูกออกไปสู่สาธารณะเท่าที่ควร ฉะนั้นฝ่ายค้านจะเสนออภิปราย 4 วัน โดยที่จะเลิกประมาณเวลา 23.00 น. ของแต่ละวัน จึงคิดว่าพอจะเป็นไปได้อยู่
ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องชี้แจงเพียงคนเดียวหรือไม่ ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ในข้อบังคับต้องไปตีความกันว่า คำว่านายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีหมายถึงผู้ที่ถูกไม่ไว้วางใจเท่านั้นหรือไม่ หรือว่าหมายถึงรัฐมนตรีท่านอื่นด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าเรื่องไหนเกี่ยวกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งก็ไม่ได้น่าเกลียดที่จะให้รัฐมนตรีกระทรวงดังกล่าวชี้แจง แต่หากเรื่องไหนที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นายกรัฐมนตรีจำเป็นที่จะตอบด้วยตนเอง จะให้รองนายกรัฐมนตรีขึ้นมาตอบแทนคงไม่ค่อยเหมาะสม ซึ่งต้องดูบริบทของเนื้อหาที่อภิปรายด้วย