แองเจิล ยิน โปรอเมริกันวัย 26 ปี คว้าแชมป์กอล์ฟ Honda LPGA Thailand 2025 ไปครอง โดยเป็นการทำสกอร์ 4 วัน ระดับสถิติที่ 28 อันเดอร์พาร์ ซึ่งกลายเป็นสถิติใหม่ของการแข่งขันรายการนี้
หนึ่งในประเด็นมากมายที่ถูกซ่อนเอาไว้หลังความสำเร็จของยินในการแข่งขันที่ประเทศไทยในครั้งนี้คือเรื่องราวของแคดดี้ชาวไทยอย่าง โปรต้อม-ศักดิ์ชัย ศิริมายา ที่ลงทำหน้าที่ในรายการนี้ครั้งแรกในวัย 43 ปี
เรื่องราวของทั้งคู่ที่มาบรรจบกันและคว้าแชมป์ด้วยกันในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นโชคชะตาก็ว่าได้
เรื่องมันเริ่มจากการที่ มิเชลล์ ซิมป์สัน แคดดี้คู่ใจของยินมีอาการป่วย จนไม่สามารถมาทำหน้าที่ในการแข่งขันที่ Siam Country Club Pattaya Old Course ในปีนี้ได้
และเวลาก็งวดเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนที่ยินจะได้ทางโปรต้อมมาเป็นคนถือถุงไม้กอล์ฟให้ในช่วง 3 นาทีสุดท้ายก่อนการ Tee Off วันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันแรกในการแข่งขัน
ยินเล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นหลังจากคว้าแชมป์รายการนี้ว่า “มันเหลือเวลาอีกประมาณ 3 นาทีก่อนถึงเวลาออกรอบของฉัน” และในครั้งแรกที่เจอกัน ยินก็คิดว่าเขาเป็นเพียง ‘พ่อของใครสักคน’ ที่มาดูการแข่งขันและอาสามาถือถุงไม้กอล์ฟให้เท่านั้น
โปรวัย 26 ปีกล่าวต่อไปว่า “กระเป๋าของฉันค่อนข้างหนัก เพื่อนของฉันที่เป็นผู้จัดการก็พยายามจะยกมัน แต่ก็เกือบล้มลงไป เพื่อนของฉันคนนั้นหนักเท่าถุงไม้กอล์ฟเลย
“ในตอนนั้นเราแทบจะหมดหวังกันแล้ว แต่เราก็ได้เจอกับต้อม เขาบอกฉันว่า “ผมเป็นมืออาชีพนะ” แล้วฉันก็รู้ตอนนั้นว่าเขาเป็นแคดดี้ใน JAPAN Senior Golf Tour และ Asian Tour
“คุณไม่สามารถเลือกคนที่ดีกว่านั้นได้จากที่ไหนอีกแล้วในตอนนั้น ดังนั้นถุงใส่ไม้กอล์ฟของฉันจึงไปอยู่กับเขา”
โดยยินยังเคยออกปากชมโปรต้อมมาก่อนแล้วด้วยในช่วงหลังจบการแข่งขันในรอบที่ 3 ซึ่งเธอจบรอบด้วยตำแหน่งผู้นำ
ในครั้งนั้นยินกล่าวว่า “ต้อมเขายอดเยี่ยม เพราะจริงๆ แล้วเขาเป็นแคดดี้มืออาชีพ อยู่ในระดับ JAPAN Senior Golf Tour และเป็นแคดดี้ใน Asian Tour ด้วย ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์ เขารู้อย่างดีเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขารู้จักสนามดีมากๆ และพูดไทยได้ด้วย
“ดังนั้นมันจึงเพอร์เฟกต์เลย ฉันไม่สามารถถามหาแคดดี้สำรองที่ดีกว่านี้ได้แล้วอย่างแน่นอน”
ถึงแม้จะเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ แองเจิล ยิน แต่โปรกอล์ฟจากชลบุรีรายนี้มารอเป็นแคดดี้ที่สแตนด์บายให้รายการนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว โดยที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่มาก่อน
จนในปีนี้เขาจึงไม่ได้เป็นแค่ตัวสแตนด์บายอีกต่อไป เพราะโปรต้อมได้ลงทำหน้าที่จริงๆ ในสนาม แต่มันก็เป็นการทำหน้าที่ครั้งแรกใน Honda LPGA Thailand เช่นกัน
แต่การทำหน้าที่ครั้งแรกในรายการนี้ไม่ได้หมายความว่าโปรต้อมทำหน้าที่ครั้งแรกในสนามนี้แต่อย่างใด เพราะเขามีประสบการณ์การลงเล่นในสนามนี้มาแล้ว และยังเคยทำหน้าที่แคดดี้ในสนามนี้มาแล้วด้วยเช่นกัน
สิ่งเหล่านั้นจึงเป็นความได้เปรียบของ แองเจิล ยิน ที่ได้ตัวเขาไป เพราะโปรต้อมรู้จักสนามนี้เป็นอย่างดีตามที่ยินให้สัมภาษณ์ออกมาจริงๆ
ผลงานที่ออกมาของยิน นอกจากเธอจะตีได้ดีแล้ว คำแนะนำของโปรต้อมจึงเป็นการช่วย ‘กดสูตร’ ให้เธอทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
จากในวันแรกที่ความเชื่อมั่นยังต่ำ ยินทำได้ 5 อันเดอร์พาร์ ตามหลังผู้นำถึง 5 สโตรก แต่ก็กระโดดขึ้นมาจบรอบ 2 ด้วยการทำเพิ่ม 8 อันเดอร์ จากความเชื่อใจกันที่มีมากขึ้น เช่นเดียวกับรอบที่ 3 ก่อนที่จะจบวันสุดท้ายที่ 7 อันเดอร์พาร์
สกอร์รวมของ แองเจิล ยิน ใน Honda LPGA Thailand จึงกลายเป็นสถิติใหม่ของสนามที่ 28 อันเดอร์พาร์ และยังเป็นสถิติใหม่ของ LPGA Tour ที่เกิดขึ้นในสนามพาร์ 72 ทำลายสถิติของ แอนนิกา โซเรนสตัม ที่ทำไว้ 27 อันเดอร์พาร์ในการแข่งขันที่แอริโซนาเมื่อปี 2001 ลงได้สำเร็จด้วย
นี่เป็นแชมป์ที่ 2 ใน LPGA Tour ที่น่าประทับใจของ แองเจิล ยิน และยังเป็นการได้แชมป์ร่วมกับนักกอล์ฟทั้งที่ถือถุงใน LPGA Tour ครั้งแรกของโปรต้อมด้วย
แม้ค่าเหนื่อยตามรายงานที่ออกมา โปรต้อมจะได้เพียงวันละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,300 บาท ตามข้อกำหนดเท่านั้น เนื่องจากเขาไม่ใช่แคดดี้ประจำตัวของยินที่จะได้รับเงินค่าเหนื่อยเป็นเปอร์เซ็นต์จากการแข่งขัน แต่เขาก็อาจจะได้ทิปพิเศษจากยินเช่นกัน
แต่ไม่ว่าเงินรางวัลที่ได้จะเป็นเท่าไร แต่สิ่งที่เหนือไปกว่านั้นคือความสำเร็จและเกียรติประวัติที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้โปรต้อมกลายเป็นแคดดี้ที่ไปไกลกว่าการเป็นแคดดี้ที่รอสแตนด์บายในอนาคตอย่างแน่นอน
ขอบคุณผู้สนับสนุนอุปกรณ์การถ่ายภาพ Canon Imaging Thailand
