วันนี้ (13 กุมภาพันธ์) ที่ทำเนียบรัฐบาล มาซาฮิโระ โมโระ ประธานและผู้บริหารสูงสุด บริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เข้าเยี่ยมคารวะ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทย โดย จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยินดีที่ได้พบกับมาซาฮิโระ ขอบคุณบริษัทฯ ที่ดำเนินกิจการในไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างโรงงานและร่วมมือกับบริษัทในไทย ซึ่งถือเป็นอีกส่วนสำคัญในการพัฒนาความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย
พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไทยมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และผลักดันยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกระดับโลก
ด้านมาซาฮิโระกล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินกิจการในไทยมานานกว่า 70 ปี ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตเครื่องยนต์ตลอดจนชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมกระบวนการผลิตยานยนต์
รวมทั้งให้ความเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะเพิ่มการสนับสนุนเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะการพัฒนาเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยรักษาห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันยังมีเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนอีกหลายร้อยรายที่พร้อมทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมการลงทุนในไทย
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันถึงการส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย โดยเห็นพ้องถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สอดคล้องกับบริบทของตลาดผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่
บริษัทมาสด้าฯ มีแนวทางที่จะสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยจะขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติม มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรถยนต์อเนกประสงค์รุ่น B-SUV แบบ Mild Hybrid (MHEV) รวมทั้งจะเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดจากโรงงานบริษัทมาสด้าฯ ในไทย ให้ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิต เพื่อรองรับรถยนต์ประเภทอื่นๆ ในอนาคต โดยจะมีการจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังญี่ปุ่น กลุ่มอาเซียน และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
ขณะที่นายกรัฐมนตรียินดีที่บริษัทมาสด้าฯ มีแนวทางที่จะขยายการลงทุนในไทย โดยเน้นย้ำว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นและอำนวยความสะดวกผ่านมาตรการต่างๆ ซึ่งจะพิจารณาบนพื้นฐานความต้องการจากทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค
ขณะนี้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตกลุ่มรถยนต์ Hybrid (HEV) และ Mild Hybrid (MHEV) ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลการแข่งขันในช่วงของการเปลี่ยนผ่านให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนทั้งระบบ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี
