‘ลอว์เรนซ์ โฮ’ Melco Resorts & Entertainment ทุนใหญ่มาเก๊า เล็งลงทุนคาสิโน

ลอว์เรนซ์ โฮ ซีอีโอ Melco Resorts & Entertainment ยักษ์ใหญ่ผู้พัฒนารีสอร์ตแบบครบวงจร (Integrated Resort: IR) และผู้นำลักชัวรีความบันเทิงระดับโลกสัญชาติมาเก๊า ประกาศความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย (THACCA) ดันไทยฮับ Soft Power ระดับโลก พร้อมจัดตั้งสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ มองหาโอกาสลงทุนภูมิภาค แง้มสนใจลงทุน Entertainment Complex คาสิโนถูกกฎหมายในไทย หากกฎหมายเปิดทาง

ลอว์เรนซ์ โฮ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Melco Resorts & Entertainment เปิดเผยว่า ส่วนตัวมองว่าประเทศไทยมีจุดยืนที่ชัดเจนในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวภูมิภาค และเมื่อมีโอกาสได้เข้ามาสัมผัสพบว่าประเทศไทยมีศักยภาพมากกว่าคำว่า Soft Power หรือแค่การท่องเที่ยว แต่ไทยยังมีความโดดเด่นเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ศิลปวัฒนธรรม และความบันเทิงอีกหลายมิติ

ดังนั้นการร่วมมือระหว่าง THACCA และ Melco ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยและเสริมสร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรมในเวทีโลก โดยมุ่งหวังที่จะส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ 5 คนให้ได้เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรมเข้มข้นเป็นเวลา 3 เดือน กับผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส และมาเก๊า ซึ่งจะได้ทั้งทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ระดับสากล มาพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย และผลักดันประเทศสู่ศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมระดับโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ลอว์เรนซ์กล่าวอีกว่า บริษัทมีแพลตฟอร์มวัฒนธรรมระดับพรีเมียมเพื่อเพิ่มอิทธิพลระดับนานาชาติที่พร้อม ซึ่งเห็นได้จากโครงการที่ได้รับรางวัลในมาเก๊า ฟิลิปปินส์ และไซปรัส โครงการเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยและสร้างจุดหมายปลายทางเหล่านี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมระดับโลกในอนาคตได้

ต่อคำถามที่ว่า บริษัทมีแผนการลงทุน Entertainment Complex และคาสิโนในไทยหรือไม่นั้น “ไทยมีศักยภาพที่น่าสนใจ บริษัทก็รอความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมาย ใบอนุญาต กฎระเบียบเกี่ยวกับการลงทุน และพื้นที่ของรัฐบาลไทย

“ด้วยความโดดเด่นทั้ง Soft Power และการท่องเที่ยว บริษัทจึงจัดตั้งสำนักงานในกรุงเทพฯ ไว้เป็นส่วนหนึ่ง นอกจากการร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยและนวัตกรรมระดับโลก ยังจัดตั้งเพื่อมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ อย่างโรงแรมและรีสอร์ตในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ลอว์เรนซ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทบริหารรีสอร์ตแบบครบวงจร 6 แห่ง ในมาเก๊า ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และไซปรัส ปีที่แล้วสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 21 ล้านคน ซึ่งภาพรวมมีนักท่องเที่ยวที่เข้าพักมักจะพักนานกว่า 30% และใช้จ่ายมากกว่าคู่แข่ง 3-4 เท่า เพราะบริษัทมีสถานบันเทิง รีสอร์ต ครบวงจร ทั้งนี้ ปีนี้มองว่าการท่องเที่ยวในเอเชียน่าจะยังคงเติบโตได้ดี ซึ่งก็หวังว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนจะดีขึ้น ทำให้มีการท่องเที่ยวที่มากขึ้น ลอว์เรนซ์กล่าว

ทุนมาเก๊าลุ้นไทยเดินหน้ากฎหมายคาสิโนถูกกฎหมาย

รายงานข่าวจาก Macau Business รวบรวมความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ต่ออุตสาหกรรมคาสิโนในขณะนี้ว่า กรณีที่ไทยอยู่ระหว่างพิจารณาเปิดคาสิโนถูกกฎหมายนั้นเป็นที่สนใจของนักลงทุนรายใหญ่ ประกอบกับปัจจุบันมาเก๊าไม่ค่อยมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ นอกเหนือจากคาสิโน ซึ่งกำลังสร้างความเสี่ยงต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของมาเก๊าที่พึ่งพาเพียงการท่องเที่ยวเป็นหลัก

โดยปี 2568 แม้รัฐบาลมาเก๊าคาดการณ์ว่ารายได้จากการพนันจะเพิ่มขึ้นราว 2.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทว่า คาร์ลอส ซิด อัลวาเรส ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมโปรตุเกส-จีน มองว่า

“คาสิโนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โรงแรม และร้านอาหารฟื้นตัว แต่ยอมรับว่าธุรกิจขนาดเล็กที่อยู่ห่างจากพื้นที่คาสิโนไม่มีการเติบโตและยังคงหดตัว”

เกลนน์ แม็กคาร์ตนีย์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยมาเก๊า ให้ความคิดเห็นว่า ผู้ประกอบการคาสิโนมีลูกค้าจำนวนมาก เพราะคาสิโนกลายเป็นแหล่งดึงดูดสำหรับนักพนันระดับสูง (High Roller) ซึ่งเคยสร้างรายได้ถึง 60% ของรายได้คาสิโนมาเก๊าในปี 2013 แต่หลังจากนั้นมาเก๊าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการจับกุมผู้บริหารของ Suncity บริษัทผู้ให้บริการพนันระดับ VIP รายใหญ่ที่สุดของโลก

ภายใต้สัมปทานคาสิโนฉบับใหม่ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 ผู้ประกอบการทั้ง 6 รายให้คำมั่นว่าจะลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนัน ‘มากกว่า 1 แสนล้านปาตากามาเก๊า’ เพื่อกระจายความเสี่ยง

ดังนั้นนักธุรกิจเหล่านี้ต้องพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และเศรษฐกิจกลางคืน เพื่อให้นักท่องเที่ยวพักนานขึ้นและใช้จ่ายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เบน ลี นักวิเคราะห์จากบริษัท IGamiX บริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมคาสิโนระดับโลก กลับมองว่าผู้ประกอบการคาสิโนส่วนใหญ่เลือกที่จะทุ่มงบไปกับการโปรโมตนอกประเทศ และเตือนว่ามาเก๊าซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของโลก อาจเผชิญความท้าทายจากความเคลื่อนไหวในไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังพิจารณาอนุญาตให้มีรีสอร์ตแบบครบวงจรที่มีพื้นที่การพนันคล้ายคลึงกับมาเก๊า ซึ่งจะเปิดให้ชาวต่างชาติเข้าใช้บริการด้วย

ที่สำคัญไทยมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายที่มาเก๊าไม่สามารถแข่งขันได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ประกอบการคาสิโนรายใหญ่ทั้ง 6 ราย ต่างแสดงความสนใจในตลาดแห่งนี้ เบน ลี กล่าวเสริม

ทั้งนี้ เบน ลี ย้ำว่า การลงทุนในไทยคือความท้าทายที่สุดสำหรับตลาดการพนันในภูมิภาคเอเชีย

อ้างอิง: