วันนี้ (25 ธันวาคม) พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ นำหมายค้นของศาลอาญา ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2567 เข้าตรวจค้นห้องพักลักษณะเป็นอพาร์ตเมนต์ในซอยรามคำแหง 24/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ สามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีน 2 คน พร้อมของกลาง เช่น อุปกรณ์ SIM Box 8 ชุด, เราเตอร์อินเทอร์เน็ต 2 ตัว, สวิตช์ฮับ 1 ตัว, กล้องวงจรปิด 1 ตัว และอุปกรณ์สำรองไฟ 1 ตัว
สำหรับคดีนี้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ตรวจสอบผู้เสียหายที่ถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยแกะรอยจากคดีผู้เสียหายจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในขณะนั้นแก๊งคอลเซนเตอร์อ้างตัวเป็นตำรวจสถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองบุรีรัมย์ สร้างความเสียหาย 10,600 บาท ต่อมาผู้เสียหายแจ้งความผ่านศูนย์ AOC สายด่วน 1441 โดยใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 30 วัน จนกระทั่งพบฐานที่ตั้งอยู่ในย่านหัวหมาก
พล.ต.อ. ธัชชัย ระบุว่า การตรวจค้นในครั้งนี้สามารถจับกุม Minghong Tan อายุ 19 ปี พร้อมแฟนสาว ซึ่งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่าเป็นเพียงนายหน้ารับเช่าห้องพักในกรุงเทพฯ ให้คนจีน จากการตรวจสอบห้องพักพบเอกสารสัญญาเช่าห้องอื่นๆ อีกจำนวนมาก
จากการสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ขยายผลจากผู้เสียหายที่แจ้งความทางออนไลน์ไว้กว่า 100 คดี จนพบว่าขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักลอบใช้ SIM Box หลอกลวงคนไทย
เจ้าหน้าที่พบวิธีการหลอกลวงที่เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างชัดเจน 2 วิธี ในแผนประทุษกรรมครั้งนี้
- สัญญาณที่ส่งมาใช้ SIM Box ไม่ได้มาจากประเทศข้างเคียง อย่างเช่น กัมพูชา, เมียนมา, สปป.ลาว แต่มาจากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อไม่ให้ตำรวจเช็กที่มาของสัญญาณได้ และหลังจากนี้จะขยายผลหาจุดที่ตั้งที่แท้จริงของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
- SIM Box ที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้เป็นรูปแบบใหม่ ตำรวจไม่พบ SIM Card เชื่อได้ว่าซิมอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด เป็นวิธีการเลี่ยงไม่ให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ที่ลงทะเบียนซิมรวมถึงผู้ให้บริการ
พล.ต.อ. ธัชชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่จับกุมได้นี้ใช้ชื่อเปิดห้องพักอีกหลายพื้นที่ แม้ขณะนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่พยานหลักฐานของตำรวจค่อนข้างชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องในการเข้ามาดูแล SIM Box ซึ่งจะขยายผลตรวจค้นอีก 14 จุด
การกระทำดังกล่าวของกลุ่มคนร้ายมีการใช้ SIM Box เป็นตัวกลางในการโทรศัพท์มาจากต่างประเทศ เพื่อให้หมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏบนโทรศัพท์ของผู้เสียหายเป็นหมายเลขโทรศัพท์ในประเทศไทย
ส่วนการดำเนินการกับผู้ที่เปิดซิม ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผล ซึ่งจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ขายซิมและผู้ที่ลงทะเบียนให้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ขายซิมให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะต้องถูกจับกุม ฐานเป็นตัวการหรือร่วมสนับสนุนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
