×

ปตท.สผ. ประกาศแผน 5 ปี ตั้งงบลงทุนและรายจ่ายรวม 3.36 หมื่นล้านดอลลาร์ ใช้พัฒนาโครงการหลัก เพิ่มกำลังผลิตปิโตรเลียม เร่งสำรวจโครงการปัจจุบัน

20.12.2024
  • LOADING...
ปตท.สผ.

ชนมาศ ศาสนนันทน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (ตลท.) ว่า บริษัทขอแจ้งแผนการดำเนินงานประจำปี 2568 ของ PTTEP ภายใต้แผนกลยุทธ์ Drive-Decarbonize-Diversify เพื่อขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 รวมถึงขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) โดยจัดสรรงบประมาณประจำปี 2568 รวมทั้งสิ้น 7,819 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วย รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) 5,299 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) 2,520 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

โดยเป้าหมายการดำเนินงานของบริษัทในปี 2568 ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งและขยายการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในต่างประเทศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยให้ความสำคัญกับแผนงานหลัก ดังนี้

 

  1. เพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากโครงการปัจจุบัน โครงการผลิตหลักที่สำคัญ เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย ได้แก่ โครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ), โครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช), โครงการอาทิตย์, โครงการเอส 1, โครงการคอนแทร็ค 4, โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย, โครงการซอติก้า และโครงการยาดานาในประเทศเมียนมา ที่มีการนำก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้เข้ามาใช้ในประเทศไทย

 

อีกทั้งโครงการผลิตหลักในต่างประเทศที่สำคัญ เช่น โครงการในประเทศมาเลเซียและโอมาน โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุน 3,676 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีแผนงานสำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 โดยครอบคลุม Scope 1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง และ Scope 2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงานในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ที่ ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ (Operational Control) พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายระหว่างทาง (Interim Target) ในการลดปริมาณความเข้มของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas Emission Intensity) จากปีฐาน 2563 ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 และร้อยละ 50 ภายในปี 2573 และ 2583 ตามลำดับ โดยตั้งงบประมาณสำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2568 ทั้งสิ้น 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

  1. เร่งผลักดันโครงการหลักที่อยู่ในระยะพัฒนา (Development Phase) ได้แก่ โครงการสัมปทานกาชา, โครงการอาบูดาบี ออฟชอร์ 2, โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน และโครงการพัฒนาในประเทศมาเลเซีย เช่น โครงการมาเลเซีย เอสเค405บี, โครงการมาเลเซีย เอสเค417 และโครงการมาเลเซีย เอสเค438 ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผนงาน โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,464 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

  1. เร่งดำเนินการสำรวจในโครงการปัจจุบัน ทั้งโครงการที่อยู่ในระยะสำรวจ โครงการในระยะพัฒนา รวมถึงโครงการที่ดำเนินการผลิตแล้ว เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยจัดสรรรายจ่ายลงทุน 127 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

สำหรับการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลของโครงการในประเทศไทย มาเลเซีย และเมียนมา ทั้งงบประมาณ 5 ปี (ปี 2568-2572) ที่ได้จัดสรรไว้เพื่อรองรับการดำเนินงานตามแผนงานข้างต้น มีรายละเอียดดังนี้

 

 

จากแผนงานและการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว ปตท.สผ. คาดการณ์ปริมาณขายปิโตรเลียมในปี 2568-2572 จากโครงการปัจจุบัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

 

 

ปตท.สผ. ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเริ่มดำเนินการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน จึงสำรองงบประมาณ 5 ปี (ปี 2568-2572) เพิ่มเติมจากงบประมาณข้างต้นอีก 1,747 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่ง, ธุรกิจดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS as a Service), ธุรกิจเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และธุรกิจและเทคโนโลยีผ่านบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานในรูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมขององค์กรในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำในอนาคต พร้อมกับการดูแลสังคมและชุมชนโดยรอบพื้นที่ปฏิบัติการของบริษัท เพื่อสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X