สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีแผงโซลาร์เซลล์รอบใหม่ 4 ประเทศอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย ในอัตราระหว่าง 21.31-271.2% หลังผู้ผลิตในสหรัฐฯ ร้องเรียนว่า ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ของจีนที่มีโรงงานในประเทศเหล่านี้เป็นตัวการทำให้ราคาแผงโซลาร์เซลล์ทั่วโลกร่วงลงด้วยการทุ่มตลาดสินค้า
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์รอบใหม่จาก 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย หลังจากผู้ผลิตแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ ร้องเรียนว่า บริษัทต่างๆ ในประเทศดังกล่าวมาทุ่มตลาด ขายสินค้าราคาถูกอย่างไม่เป็นธรรมในสหรัฐฯ
การขึ้นภาษีแผงโซลาร์เซลล์นี้นับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ภายใต้การตัดสินใจของกระทรวงพาณิชย์ในยุคประธานาธิบดี โจ ไบเดน ในปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้มีการยื่นฟ้องบริษัท Hanwha Qcells ของเกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแอริโซนา และบริษัทขนาดเล็กอีกหลายแห่ง เพื่อปกป้องการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ
โดยกลุ่ม American Alliance for Solar Manufacturing Trade Committee ยังกล่าวหาผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ของจีนที่มีโรงงานในมาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และไทย ว่าเป็นตัวการทำให้ราคาสินค้าทั่วโลกร่วงลงด้วยการทุ่มตลาดสินค้า
ตามการตัดสินใจเบื้องต้นที่โพสต์บนเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หน่วยงานดังกล่าวคำนวณภาษีทุ่มตลาดในอัตราระหว่าง 21.31-271.2%
ตัวอย่างเช่น บริษัท Jinko Solar ต้องจ่ายภาษี 21.31% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในมาเลเซีย และ 56.51% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเวียดนาม
บริษัท Trina Solar ของจีนต้องจ่ายอัตราภาษีการทุ่มตลาด 77.85% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในไทย และ 54.46% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเวียดนาม
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำหนดการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในวันที่ 18 เมษายน 2025 โดยสำนักงานบริหารการค้าระหว่างประเทศกำหนดจะสรุปการตัดสินใจในวันที่ 2 มิถุนายน 2025 และคาดว่าจะออกคำสั่งในวันที่ 9 มิถุนายน 2025
ในการสอบสวนของกระทรวงพาณิชย์พบว่า แผงโซลาร์เซลล์ส่วนใหญ่ที่ติดตั้งในสหรัฐฯ ผลิตในต่างประเทศ โดยประมาณ 80% ของการนำเข้ามาจาก 4 ประเทศที่เป็นเป้าหมายดังกล่าว
ในปีนี้รัฐบาลของไบเดนส่งสัญญาณไปที่การลงทุนมหาศาลของจีนในโรงงานผลิตสินค้าพลังงานสะอาด เนื่องจากกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของไบเดน หรือ Inflation Reduction Act พยายามสร้างแรงจูงใจสำหรับบริษัทต่างๆ ให้ผลิตอุปกรณ์พลังงานสะอาดในสหรัฐฯ โดยให้เป็นเงินอุดหนุนที่กระตุ้นให้เกิดแผนการสร้างโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหม่มากมาย
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มองว่า Inflation Reduction Act มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป โดยยังกล่าวอีกว่า เขาวางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจำนวนมากในหลากหลายภาคส่วนเพื่อปกป้องคนงานชาวอเมริกัน
อ้างอิง: