×

เปิดแผนที่อีคอมเมิร์ซ 2025 เมื่อ ‘ความไวเป็นปีศาจ’ คือกุญแจล็อกใจลูกค้า ที่เปลี่ยนจาก ‘เสพติดแบรนด์’ สู่ ‘เสพติดคุณค่า’

19.11.2024
  • LOADING...
อีคอมเมิร์ซ

ในยุคที่การแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซร้อนระอุราวกับหม้อต้มน้ำเดือด แบรนด์ต่างๆ กำลังเผชิญโจทย์ใหญ่ นั่นคือทำอย่างไรให้อยู่รอดในสมรภูมิการค้าออนไลน์ที่มีผู้เล่นหน้าใหม่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด?

 

จากเวที Wisesight Research Discovery EP.7 ภายใต้หัวข้อ ‘Unlocking E-Commerce: Insight Trends and Strategies for Business Success’ ได้เผยให้เห็นภาพความหวือหวาของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยที่ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค ด้วยมูลค่ามหาศาลถึง 9.8 แสนล้านบาทในปี 2023 รองจากอินโดนีเซียเท่านั้น

 

ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา Co-founder ของ Etailligence เผยว่า ตลาดมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องราว 14% ไปจนถึงปี 2027 แต่สิ่งที่น่าจับตามองคือปี 2025 ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการ เมื่อพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์จะซับซ้อนขึ้นราวกับเขาวงกตที่มีทางเลือกมากมาย

 

ที่น่าสนใจคือจากการสำรวจพบว่านักช้อปออนไลน์แบ่งออกเป็นหลายกลุ่มชัดเจน โดย 35% เป็น ‘สาวกอินฟลูเอ็นเซอร์’ ที่พร้อมจะเชื่อและซื้อตามรีวิว ขณะที่ 31% เป็น ‘นักล่าดีล’ ที่จะเปรียบเทียบราคาจนกว่าจะพอใจ ส่วน 21% เป็น ‘นักวิเคราะห์’ ที่ต้องหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนควักกระเป๋า และที่เหลือ 13% ส่วนใหญ่เป็นคุณแม่มือใหม่ที่เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก

 

ด้าน พุทธศักดิ์ ตันติสุทธิเวท Deputy Director of Data Research Product จาก Wisesight เผยว่า Gen Z กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการใช้โซเชียลมีเดียเป็นแหล่งค้นหาสินค้าถึง 55% โดยเฉพาะ TikTok ที่มาแรงแซงโค้งด้วยความสดใหม่ของคอนเทนต์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึก ‘อิน’ กับสินค้ามากกว่าการค้นหาแบบดั้งเดิม

 

“จากข้อมูลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 พบว่ามีเอ็นเกจเมนต์ในตลาดอีคอมเมิร์ซสูงถึง 300 ล้านบาท โดย 46% มาจากอินฟลูเอ็นเซอร์ รองลงมา 34% มาจากผู้ขาย และ 10% จาก Owned Media” พุทธศักดิ์กล่าว พร้อมเสริมว่าหมวดหมู่สินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ Health & Beauty, Fashion และ Food & Beverage

 

นอกจากนี้พฤติกรรมการช้อปบน TikTok Shop ยังแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มมองหาส่วนลด, กลุ่มซื้อตาม Inspirational, กลุ่มที่ต้องการความง่ายในการจบการซื้อขายบนแพลตฟอร์มเดียว และกลุ่มที่ซื้อตามจุดประสงค์โดยเน้นที่แบรนดิ้ง

 

ขณะที่ ปานเทพย์ นิลสินธพ Chief Customer Officer จากสยามพิวรรธน์ เผยมุมมองที่น่าสนใจว่า แม้อีคอมเมิร์ซจะบูม แต่ศูนย์การค้ายังคงมีความสำคัญในฐานะ ‘Social Hub’ โดยความถี่ในการเข้าศูนย์การค้ายังคงอยู่ที่ 5 ครั้งต่อเดือน สะท้อนให้เห็นว่าผู้คนยังต้องการพื้นที่จริงสำหรับพบปะสังสรรค์

 

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจับจ่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่ม FIT (Free Independent Travelers) ที่มีอายุเฉลี่ย 24-35 ปี ซึ่งมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวมากกว่าการช้อปปิ้งแบบดั้งเดิม

 

ปานเทพย์ยังชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในพฤติกรรมผู้บริโภคปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าลักชัวรีที่ผู้บริโภคจะลดการซื้อตามกระแสลง แต่หันมาให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของเงินและมองหาสินค้า ‘Timeless’ และ ‘Quiet Luxury’ มากขึ้น

 

“แบรนด์จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างและเรื่องราวที่ทำให้ลูกค้าภูมิใจที่ได้ครอบครองสินค้าชิ้นนั้น เพื่อโดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด” ปานเทพย์กล่าว

 

สำหรับปี 2025 มีการคาดการณ์ว่าจะเป็น ‘ปีแห่งความเร็ว’ โดยตลาด Quick Commerce ในไทยจะเติบโตปีละ 20-30% เพราะ ‘ยิ่งส่งของได้ไว ยิ่งได้ใจผู้บริโภค’ ขณะเดียวกัน Value for Money จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ โดยผู้บริโภคจะมองหาสินค้าที่คุ้มค่า คุ้มราคา และให้ประสบการณ์ที่แตกต่าง

 

อีกหนึ่งเทรนด์สำคัญคือการเติบโตของ Conscious Shopper ที่ให้ความสำคัญกับสินค้า Timeless และสินค้าที่มีความแตกต่าง โดยเฉพาะสินค้าที่มีเรื่องราวผูกติดกับความรับผิดชอบต่อสังคม สะท้อนการเปลี่ยนแปลงจากการรับรู้สู่การสนับสนุนแบรนด์ที่ใส่ใจด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง

 

ท้ายที่สุดเส้นทางสู่ความสำเร็จในโลกอีคอมเมิร์ซปี 2025 จึงไม่ต่างจากการแข่งรถฟอร์มูลาวันที่ต้องทั้งเร็ว แม่นยำ และต้องรู้จักปรับกลยุทธ์ให้ทันกับทุกโค้งของการเปลี่ยนแปลง เพราะในโลกที่หมุนเร็วเช่นนี้ การหยุดนิ่งเท่ากับถอยหลัง และการช้าเท่ากับความพ่ายแพ้

 
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X