โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ อาจอำลาทีมชาติอียิปต์ เหตุถูกโยงประเด็นการเมืองและใช้ภาพลักษณ์หาผลประโยชน์

ลือสนั่น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ปีกซูเปอร์สตาร์วัย 26 ปี อาจพิจารณาอำลาทีมชาติอียิปต์ หลังถูกวิจารณ์ถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้นำสาธารณรัฐเชเชน (Chechen Republic) อย่างหนัก

สื่อหลายแห่งประโคมข่าวกันว่า ฟุตบอลโลกปีนี้และแมตช์สุดท้ายกับทีมชาติซาอุดีอาระเบีย อาจจะเป็นการลงเล่นนัดสุดท้ายในนามทีมชาติของซาลาห์ หลังเจ้าตัวถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดกับ รามซาน คาดิรอฟ (Ramzan Kadyrov) ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน สัญชาติรัสเซีย รวมถึงการได้รับสิทธิ์เป็นพลเมืองของเชชเนีย

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่ฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉาก สื่อมวลชนได้เผยแพร่ภาพถ่ายร่วมกันของคาดิรอฟและซาลาห์ จนทำให้สตาร์จากสโมสรลิเวอร์พูลถูกวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างหนัก หลายฝ่ายมองว่าเขาอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยที่ไม่รู้ตัว

ผู้นำเชเชนรายนี้ขึ้นชื่อและเป็นที่โจษจันกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน เลือกปฏิบัติต่อกลุ่มพลเมืองสตรี และข่มเหงชนกลุ่มน้อย ทั้งยังถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐอเมริกามาแล้ว และแน่นอนว่าเจ้าตัวได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดในการให้สัมภาษณ์กับ BBC และยังบอกอีกด้วยว่า เขาไม่ได้นำซาลาห์มาใช้หาผลประโยชน์ทางการเมือง

“ผมไม่เอาเรื่องแบบนี้มาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองหรอกนะ ศัตรูของเราจ่ายเงินให้พวกเขา (สำนักข่าว) เขียนเรื่องแบบนั้น ผมไม่ได้เชิญซาลาห์หรือทีมชาติอียิปต์มาเลย พวกเขาเลือกเราด้วยตัวเอง (เชชเนียถูกใช้เป็นที่ตั้งแคมป์เก็บตัวของอียิปต์)”

จนเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา คาดิรอฟก็โยนความกดดันไปที่ซาลาห์ก้อนใหญ่ เมื่อประกาศมอบสิทธิ์ความเป็นพลเมืองเชชเนียให้แก่ยอดดาวเตะชาวอียิปต์ และเผยผ่าน Telegram ว่า “โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ได้รับเกียรติให้เป็นพลเมืองของสาธารณรัฐเชเชน คืนนี้ผมได้ลงนามในกฤษฎีกาเพื่อมอบรางวัลอันสูงสุดนี้ให้แก่นักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม สมาชิกทีมชาติอียิปต์และสโมสรลิเวอร์พูล”

นอกจากนี้อีกกระแสข่าวหนึ่งก็บอกว่า ซาลาห์ไม่พอใจที่ตนถูกนำภาพไปใช้โฆษณาให้กับผู้ให้บริการคมนาคม WE ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของทีมชาติอียิปต์ ซึ่งเป็นคู่แข่งอย่างเป็นทางการของ Vodafone ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอีกรายที่ตนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้

ทันทีที่ซาลาห์ทราบว่าตัวเองอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง รวมถึงถูกนำภาพลักษณ์ไปหาผลประโยชน์โดยไม่ทราบเรื่องมาก่อน เขาก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนมีรายงานว่าเรื่องราวอาจบานปลายจนถึงขั้นประกาศอำลาทีมชาติเลยทีเดียว

ล่าสุด อับเดล ฟัตตาห์ (Abdel Fattah) หนึ่งในสมาชิกบอร์ดสมาคมฟุตบอลอียิปต์ได้ออกมาตอบโต้ข่าวลือดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และทีมฟุตบอลของตนก็ไม่ข้องเกี่ยวใดๆ ทั้งสิ้นกับประเด็นทางการเมือง

“นี่มันเรื่องโกหกชัดๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงเลย ผมสังสัยมากๆ ว่า CNN รายงานเรื่องนี้ออกมาได้อย่างไร พวกเราคือทีมกีฬา และไม่มีอะไรจะมารวมเรากับประเด็นทางการเมืองได้”

ปัจจุบันซาลาห์ลงรับใช้ชาติไปแล้วทั้งสิ้น 58 นัดตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2011 ยิงรวมไปทั้งสิ้น 34 ลูก ส่งผลให้เขาขึ้นนำเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของทีมชาติในลำดับที่ 4