ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันหลายองค์กรยังคงยึดติดกับแนวคิดการบริหารคนแบบเก่า ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การเปลี่ยนแปลงวิธีคิดในการบริหารบุคลากรไปสู่แนวทางใหม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้
การบริหารคน หรือ People Management มักเน้นที่ประสิทธิภาพในการตั้งเป้าหมาย มอบหมายงาน และติดตามผลการดำเนินงานของทีม โดยมักจะมองว่าความสำเร็จคือการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป องค์กรจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดไปสู่การเป็น ‘ผู้นำคน’
อริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ BTS Thailand กล่าวว่า “การเป็นผู้นำคนต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน ให้ความสำคัญกับแต่ละคนในทีม รับฟังความคิดเห็น และสร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นกันเอง นอกจากนี้ ต้องมอบหมายงานที่เหมาะสมตามทักษะและความสามารถของแต่ละคน พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างเต็มที่ อีกทั้งต้องเปิดโอกาสให้พนักงานพัฒนาตนเองอยู่เสมอ”
ความเป็นผู้นำคือการนำทีมไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี แต่ยังต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนา รวมถึงสร้างความไว้วางใจและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทีม เพื่อให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BTS Thailand นำเสนอส่วนหนึ่งของบทความ ‘12 Things your executive coach want you to know’ ของ Blanchard สถาบันพัฒนาผู้นำและบุคลากรระดับต้นๆ ของโลกมานานกว่า 40 ปี ที่พูดถึงการแนะนำสิ่งที่ผู้นำควรจะทำให้กลายเป็นผู้นำดียิ่งขึ้นผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถปรับใช้ได้ด้วยตัวเอง นั่นคือ
1. พร้อมรับมือสิ่งใหม่อยู่เสมอ
การเป็นผู้นำที่ถูกต้องจะต้องเป็นผู้นำในแบบของตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด รู้จักใช้จุดแข็งที่มีให้เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน สามารถหลีกเลี่ยงและจัดการกับจุดอ่อนได้ จนกว่าจะเจอแนวทางการเป็นผู้นำสไตล์ตัวเองที่พร้อมเติบโต เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
2. รู้จักการควบคุม
เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับผู้นำที่มีประสบการณ์ในระดับหนึ่งที่จะสามารถเข้าใจ ตระหนักรู้ในตนเอง สติ ความคิด การกระทำ และทราบถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้อื่น นอกจากนี้ ผู้นำจะต้องปรับตัวให้เข้ากับคนในทีม สามารถแนะนำแนวทางการทำงานที่เหมาะสมให้กับทุกคนได้ เพื่อให้แต่ละคนทำงานออกมาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
3. จัดลำดับความสำคัญของงาน
แนวคิดที่ผิดพลาดที่สุดของผู้นำคือการทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เสร็จในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะคนที่เพิ่งขึ้นมาเป็นผู้นำมักจะมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษและอยากแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเองทันที แม้ว่าจะสามารถทำได้เลย แต่เป็นเรื่องที่ไม่ดีนักที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดไปพร้อมกับการทำอย่างอื่นด้วย ผู้นำจึงควรจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ก่อน
4. ถ่อมตนต่อคนอื่น
ผู้นำที่ดีจะแสดงความถ่อมตนและความมั่นใจออกมาได้อย่างสมเหตุสมผล โดย Blanchard ให้คำนิยามพฤติกรรมเหล่านี้ว่า ‘ไม่คิดน้อยใจกับตัวเอง แต่ต้องคิดถึงตัวเองให้น้อยลง’ จะทำให้เราแสดงความถ่อมตนต่อผู้อื่นมากยิ่งขึ้น นั่นคือยอมรับข้อผิดพลาด กล่าวคำขอโทษเมื่อผิด รู้จักขอความช่วยเหลือเมื่อต้องการให้ช่วย และที่สำคัญคือต้องยอมรับความไม่รู้ของตนเองว่าเราไม่สามารถรู้ทั้งหมด
5. เลือกคนที่เหมาะสมกับงานที่เหมาะสม
การจะให้พนักงานเชื่อใจ ผู้นำจะต้องหาคนที่เข้ากับงานและวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรได้ ซึ่งผู้นำที่ประสบความสำเร็จจะทราบได้ว่าควรเลือกใครเข้ามาทำงานในองค์กรได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ทุกคนสมควรได้รับโอกาสในการพัฒนาเพื่อให้เข้ากับงานที่ทำ ผู้นำจึงไม่ควรลืมที่จะพัฒนาส่งเสริมพนักงานอยู่เสมอ
6. ไม่ลืมสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น
หากกำลังเสียเวลาไปกับการพยายามสร้างสรรค์งานในแบบที่ผู้นำคนอื่นทำได้ อาจเป็นการสูญเสียเวลาสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยความสามารถที่ตัวเองถนัด การเป็นผู้นำด้วยการทำตามผู้อื่นอาจทำให้การบริหารจัดการงานเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น และไม่สามารถสร้างสรรค์งานที่โดดเด่นและมีศักยภาพได้มากพอตามต้องการ
7. พัฒนาความเป็นผู้นำอยู่เสมอ
ในฐานะการเป็นผู้นำจะต้องทำงานออกมาได้ดีกว่าพนักงานทั่วไป เพราะทุกอย่างต้องถูกต้องและแม่นยำกว่าทุกคนอยู่เสมอ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จในการบริหารงาน ‘การอบรมพัฒนาผู้นำ’ ก็เป็นสิ่งที่ผู้นำควรหมั่นเรียนรู้ เพื่อให้มีโอกาสปรับเปลี่ยนกรอบแนวคิดและไม่หยุดเป็นแรงบันดาลใจให้พนักงานคนอื่นๆ
เรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผู้นำและผู้บริหารควรเรียนรู้วิธีการเป็น ‘ผู้นำคน’ และเริ่มต้นปรับเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น นำคนและองค์กรให้เติบโตไปพร้อมกัน