Reid Hoffman ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn คาดการณ์ว่าภายในปี 2034 งานประจำแบบเข้า 9 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็น อาจกลายเป็นอดีต โดยถูกแทนที่ด้วยแรงงานที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
Hoffman เชี่ยวชาญด้านมองการณ์ไกล เขาเคยทำนายการเติบโตของโซเชียลมีเดียในปี 1997 และการปฏิวัติ AI ก่อนที่ ChatGPT จะถือกำเนิดขึ้นเสียอีก โดยมองว่า AI จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของเราอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม Hoffman ย้ำว่า “AI ควรเป็นเครื่องมือในการเสริมศักยภาพของมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์”
การพัฒนาของ AI เป็นไปอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง แต่ก็สร้างความหวาดกลัวให้กับหลายคนเช่นกัน นับตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัว มีงานหลายพันตำแหน่งทั่วโลกที่ถูกแทนที่ด้วย AI และหลายบริษัทกำลังฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยี AI
Hoffman เชื่อว่า AI จะไม่ทำให้คนตกงานทั้งหมด แต่อาจเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ แต่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานขององค์กร ตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมร้านอาหารและโรงแรม AI อาจถูกนำมาใช้ในการทำงานบางส่วน แต่ประสบการณ์การรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดและเป็นมนุษย์ที่สุดจะยังคงอยู่
การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ นำมาซึ่งความท้าทายและโอกาส แม้ว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินงาน แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในบางภาคส่วน
ดังนั้น การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญ Hoffman สนับสนุนให้มีการหาทางออกเชิงรุกเพื่อรับมือกับวิกฤตนี้ เช่น การฝึกอบรมทักษะใหม่ๆ ให้กับแรงงาน และการสร้างงานใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI
ทั้งนี้ การทำนายของ Hoffman เป็นเครื่องเตือนใจว่า โลกของการทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น และเราต้องเรียนรู้ที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือในการเพิ่มศักยภาพของเรา ไม่ใช่ปล่อยให้มันมาแทนที่เรา
อ้างอิง: