ก่อนที่พระเอกหลายคนในการ์ตูนญี่ปุ่นจะเติบโต โดดเด่น แข็งแกร่งด้วยพลังพิเศษพร้อมรบ หลายตัวละครจะไม่มีวันไปถึงฝั่งฝัน หากขาด ‘คนเบื้องหลัง’ คอยสั่งสอนวิชาให้
ซึ่งพาร์ตการฝึกวิชาของตัวเอก นับว่าเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่างในการ์ตูน ที่เพิ่มความสนุกให้กับคนอ่านได้ไม่แพ้เนื้อเรื่อง รวมทั้งตัวละครที่รับหน้าที่เป็น ‘คุณครู’ หรือ ‘อาจารย์’ บางคนยังเท่ โดดเด่น และน่าสนใจจนขโมยซีนเหล่าลูกศิษย์ที่เป็นตัวเอกได้ด้วยซ้ำไป
THE STANDARD POP ได้รวบรวม 9 หลักสูตรสุดเข้มข้น จาก 9 ตัวละครอาจารย์ที่โดดเด่น ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องพลังพิเศษ แต่ยังรวมไปถึงหน้าที่ในการขัดเกลาจิตใจของลูกศิษย์ รวมทั้งคนอ่านให้เข้าใจชีวิต และโลกแห่งความเป็นจริงได้มากยิ่งขึ้น
- โอนิซึกะ เอคิจิ – GTO
“เห็นคนอื่นไม่ใช่คนหรืออย่างไร ด่าว่าเป็นเศษสวะอยู่ได้ เพราะมีครูอย่างพวกแกน่ะสิ เด็กๆ พวกนี้ถึงมีปัญหาอย่างทุกวันนี้ยังไงล่ะ”
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าประโยคดังกล่าวออกมาจากปากของชายหนุ่มอายุ 22 ปี ผู้มาพร้อมทรงผม V-Cut สีทอง ที่เข้ามาเป็นอาจารย์ พร้อมกับความฝันที่ว่าอยากเสียความบริสุทธิ์ให้กับเด็กสาวชั้นมัธยมศึกษา
ตัดภาพมาที่ประเทศไทย เราเพิ่งได้ยินคำพูดทำนองว่าคัดเลือกคนจากลักษณะภายนอก ขูดหินปูน ปากไม่มีกลิ่น เป็นคุณสมบัติข้อแรกๆ (เรื่องหัวใจเอาไว้ทีหลัง) ให้มาทำหน้าที่ ‘คุณครู’ มาดูแลเด็กๆ จาก ‘ผู้ใหญ่’ ที่เป็นเจ้าของสถานศึกษาหลายสิบสาขา ที่ผู้ปกครองไว้ใจส่งลูกหลานนับพันนับหมื่นชีวิตมาฝากอนาคตไว้ด้วย
จากความเจ็บปวดในวัยเด็ก ที่โอนิซึกะและพรรคพวกถูกมองว่าเป็นนักเลงหัวไม้ เพียงเพราะพวกเขาถูกทอดทิ้ง โดยเรียกว่า ‘ขยะ’ ไม่มีใครเห็นคุณค่า จะมีก็เพียงกลุ่ม ‘เพื่อน’ เท่านั้นที่เข้าใจ และรู้ว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มอ่อนต่อโลกที่รักพวกพ้อง รักความยุติธรรม (ในแบบของพวกเขา) และซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก และอยากปกป้องพื้นที่สำคัญในชีวิตให้ได้เพียงเท่านั้น
และเมื่อวันหนึ่งเขาตัดสินใจสมัครเป็น ‘อาจารย์’ อาชีพที่ขัดกับลักษณะนิสัยของเขามากที่สุด ซึ่งในตอนแรกบอกว่าไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าอยากทำงานที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับสาวๆ
แต่ลึกๆ ในใจที่ไม่เคยพูดออกมา จุดประสงค์ของ ‘อาจารย์’ โอนิซึกะมีมากกว่านั้น เพราะเขารู้ดีว่าชีวิตวัยเด็กนั้นแสนเจ็บปวด มีเรื่องราวมากมายที่ต้องต่อสู้และก้าวพ้นไปให้ได้ และการต้องเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว เป็นเรื่องที่ยากลำบากขนาดไหน ตัวเขาอยากใช้ประสบการณ์ของตัวเองมาช่วยให้ชีวิตของเด็กๆ เจ็บปวดน้อยลงให้ได้
โดยเฉพาะการปกป้องหัวใจอันบริสุทธิ์ของเด็กๆ จากน้ำมือของผู้ใหญ่ ที่หลายครั้งก็น่าเศร้าเพราะหลายคนที่เรียกตัวเองว่าคุณครูหรืออาจารย์ ควรจะดูแลพวกเขาอย่างใกล้ชิด กลับใช้อภิสิทธิ์ทางอาชีพกดดัน กีดกัน ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างไร้ความรับผิดชอบ
ในฐานะคุณครูที่ดูภายนอกอาจเป็นคนไม่ได้เรื่อง แต่อย่างน้อยที่สุดโอนิซึกะจะไม่ยอมให้อภัยกับใครที่มาเรียกลูกศิษย์ของเขากว่า ‘ขยะ’ เป็นอันขาด
เพราะเขาเชื่อว่าต่อให้เป็นเด็กจอมหงอ โดนแกล้ง, เด็กสาวจอมบื้อ, เคยถูกหักหลัง, ปิดใจ, นักเลงหัวไม้, อัจฉริยะไร้รอยยิ้ม และนักเรียนคนไหนก็ตาม มี ‘คุณค่า’ อยู่ในตัวเองทุกคน
เชื่อว่าถ้าโอนิซึกะได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในบ้านเราขึ้นมา จะต้องมีคนโดนสั่งสอนด้วยท่า ‘เยอรมันซูเพลกซ์’ ในตำนานอย่างแน่นอน
- ซิลเวอร์ เรย์ลี – One Piece
“ไปให้ถึงจุดสุดยอดเลยนะ”
มือขวาของเจ้าแห่งโจรสลัด โกล ดี. โรเจอร์ เคยไปถึงจุดสูงสุด เดินทางรอบโลก พิชิตแกรนด์ไลน์ ค้นพบมหาสมบัติวันพีซ และความจริงที่ว่างเปล่า แต่เมื่อโรเจอร์ถูกประหาร และไม่มีการเดินทางให้ผจญภัยอีกต่อไป
จาก ‘ราชานรก’ ผันตัวมาเป็นช่างคลุมเรือ ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการพนัน และถูกจับรอขายเป็นทาส (แกล้งถูกจับเพื่อขโมยเงินอีกที!) แต่พอเจอลูฟี่ เด็กหนุ่มผู้สืบทอดหมวกฟางต่อจากเพื่อนรักกำลังลำบาก
เขาก็รับอาสาเป็นอาจารย์สอนวิชาการใช้ฮาคิพื้นฐานให้กับลูฟี่ ถึงแม้บางวิธีจะโหดร้าย เช่น ปล่อยให้เอาชีวิตรอดกลางป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ยักษ์เพียงลำพัง แต่นั่นไม่ใช่การลงโทษ หรือการระบายความเครียดของอาจารย์ที่ไร้เหตุผล
แต่เป็น ‘บทเรียน’ จากอาจารย์ผู้เข้าใจชีวิต เข้าใจความโหดร้าย และเข้าใจ ‘ความฝัน’ ของลูกศิษย์อย่างดีที่สุด เพราะในฐานะคนที่เคยพิชิตโลกมาก่อน ย่อมรู้ดีว่าหากลูฟี่ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาตัวรอดจากสัตว์ยักษ์เหล่านี้ได้ เขาไม่มีวันรอดชีวิตในโลกที่โหดร้าย และไม่มีวันเดินทางไปถึงจุดสุดท้ายของการเป็น ‘เจ้าแห่งโจรสลัด’ ได้แน่นอน
- พิกโกโล – Dragon Ball
“เป็นถึงราชาปีศาจพิกโกโล แต่ปกป้องเด็กจนตัวตาย เพราะพวกเจ้าพ่อลูกแท้ๆ ที่ถ่ายทอดความอ่อนแอมาให้ข้า คนที่กล้ามองหน้าและกล้าพูดกับข้าแบบนี้ มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น หนึ่งปีที่อยู่กับเจ้า ข้าไม่เสียใจเลยจริงๆ”
จากอดีตพระเจ้าและทายาทจอมปีศาจ เคยมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นมนุษย์ ฝึกวิชายุทธเพื่อเอาชนะ แต่เมื่อพ่ายแพ้ถูกไว้ชีวิตโดยซุนโกคู ความเป็น ‘ครู’ ของจอมมารผู้แสนโดดเดี่ยวก็เริ่มต้นหลังจากนั้น
ด้วยการ ‘ลักพาตัว’ ซุนโกฮัง ที่พื้นฐานเป็นคนอ่อนโยนไม่ชอบการต่อสู้ แต่พลังซ่อนอยู่มากที่สุดไปฝึกวิชา เพื่อให้เป็นนักสู้เตรียมรับมือศัตรูคนใหม่ ด้วยวิธีการโหดหิน ที่ดูเหมือนใจร้าย แต่เขาก็ทำให้โกฮังเข้มแข็งมากขึ้น
ถึงแม้หลายครั้งพิโกโลจะยังหงุดหงิดที่โกฮังอ่อนแอและพัฒนาตัวช้ากว่าที่คิด แต่พิโกโลก็ไม่เคยลงโทษหรือทำร้ายลูกศิษย์เพียงเพราะอารมณ์เครียดหรือโมโห เพราะลึกๆ ในใจเขารู้ดีว่ามิตรภาพระหว่างครูกับลูกศิษย์ที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกไม่โดดเดี่ยวเป็นครั้งแรกในชีวิต และตอนหลังมิตรภาพนั้นได้พัฒนาไปถึงจุดที่พิกโกโลเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องโกฮังได้ จนกลายเป็นเหมือนพ่อคนที่ 2 ของโกฮัง (เพราะโกคูแทบไม่สนใจเลี้ยงลูกเลย)
ไปจนถึงขั้นช่วยเลี้ยงหลานปัง ลูกของโกฮังกับวีเดล เป็นคุณปู่หน้าเข้ม แต่ใจดีที่รู้ไปหมดว่าปังชอบกินอะไร ต้องร้องเพลงอะไรกล่อมให้นอน
ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้นมา เราคิดว่าพิโกโลคงเป็นครูฝ่ายปกครองจอมเฮี้ยบ ที่ดูน่ากลัว แต่หวังดีและจำชื่อนักเรียนได้ทุกคน
- มิตซึโยชิ อันไซ – Slam Dunk
“อย่าทิ้งความหวังจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ถ้าทิ้งความหวัง การแข่งขันก็จะสิ้นสุดทันที”
ลุงอ้วน ท่าทางใจดี โค้ชชมรมบาสเกตบอลโชโฮคุ เจ้าของฉายานักบวชผมขาว (เมื่อก่อนคือปีศาจผมขาว) ที่คอยฝึกสอน วางกลยุทธ์ และเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้สมาชิกเลือดร้อนทั้งหลายเชื่อฟังได้ ทั้งที่ไม่เคยดุด่าว่ากล่าว หรือลงโทษขั้นรุนแรงให้หลาบจำ
สิ่งเดียวที่อาจารย์ใช้สยบลูกศิษย์จอมพยศคือ ‘ความเข้าใจ’ และพร้อม ‘ให้อภัย’ เพราะรู้ว่าดีทุกคนย่อมมีข้อผิดพลาด คนที่เป็นอาจารย์ต้องรู้จักธรรมชาติและช่วงเวลาในการมอบบทเรียนที่จะเปลี่ยนชีวิตให้กับลูกศิษย์ นั่นเพียงแค่สบตาและพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก็ทำให้ทำให้ทุกคนในทีมโชโฮคุ (ที่เลือดร้อนขนาดไปอยู่ในการ์ตูนชกต่อยเรื่องไหนก็ได้) ยอมเงียบและรับฟังได้ทันที
บทเรียนที่อาจารย์อันไซให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ‘พื้นฐาน’ เขาเคยทัดทานไม่ให้รุคาวา รุกกี้อัจฉริยะ อย่ารีบตัดสินใจไปพิสูจน์ฝีมือในอเมริกา
เคี่ยวเข็ญให้มือใหม่อย่างซากุรางิฝึกฝนเทคนิคเบื้องต้นอย่างไม่ใจร้อน ก่อนจะมอบบททดสอบสุดโหด การฝึกชู้ต 20,000 ครั้ง และเมื่อฝ่าฟันมาได้ ก็กลายเป็นท่าไม้ตายที่ช่วยพลิกสถานการณ์ให้ทีมได้
นอกจากนี้ อาจารย์อันไซยังเชื่อมั่นในเรื่องของการอดทนรอเวลาที่เหมาะสม (ทำให้ซากุรางิโกรธอยู่บ่อยๆ) เพราะสำหรับเขาอะไรก็เกิดขึ้นได้ ขอแค่อย่าเพิ่งยอมแพ้อย่างเดียวเท่านั้น
ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ลูกศิษย์ที่ห้ามยอมแพ้ เพราะแม้แต่อาจารย์ก็ต้องปกป้องและข้ามพ้นทุกเรื่องราวไปพร้อมๆ กับลูกศิษย์โดยห้ามยอมแพ้ด้วยเช่นกัน
- นูเบ – มืออสูรล่าปีศาจ
“อย่ามายุ่งกับนักเรียนของฉันนะ”
ครูประจำชั้นห้อง ป.5/3 ที่นอกจากต้องคอยช่วยสอนหนังสือ เขายังมีอีกหนึ่งหน้าที่คือคอยปกป้องเด็กๆ จากเหล่าปีศาจหลากความเชื่อ ด้วย ‘มืออสูร’ ข้างซ้าย ที่พร้อมทำลายเหล่าร้ายให้หายไป
ถ้ามองลงไปให้ลึกกว่าความตลก หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ตำนาน และเรื่องราวที่ปีศาจนั้นๆ สร้างขึ้นมา จะเห็นว่าปีศาจเหล่านั้น คือตัวแทนของ ‘ปัญหา’ ในชีวิตที่เด็กๆ ทุกคนต้องเผชิญ
บางครั้งปีศาจก็มาในรูปของความโดดเดี่ยว บางครั้งก็เป็นการกลั่นแกล้งในโรงเรียน บางครั้งมาในรูปของความกดดัน บางครั้งก็มาจากตัวผู้ปกครอง และหลายครั้งก็มาจากตัวของคุณครูที่ทิ้ง ‘จิตวิญญาณ’ จนมีสภาพจิตใจไม่ต่างจากปีศาจ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่นูเบจัดการเลยไม่ใช่แค่ปีศาจ แต่รวมไปถึงการปรับความคิด ทัศนคติ ของนักเรียน คุณครู ผู้ปกครอง และสังคมโดยรอบที่มีส่วนสร้างปัญหานั้นขึ้นมา
เพราะฉะนั้นอาวุธที่แท้จริงของนูเบ เลยไม่ได้มีแค่ ‘มืออสูร’ แต่ยังรวมถึง ‘หัวใจ’ ของความเป็นครูที่ต้องการแก้ปัญหาให้กับลูกศิษย์ แบบลงลึกไปถึงต้นตอทุกเรื่องจริงๆ
- ออลไมท์ – My Hero Academia
“คุณภาพมันต่างกัน ระหว่างคนที่ได้มาเพราะโชคดี กับคนที่สมควรได้รับ จำเอาไว้ให้ขึ้นใจ สิ่งนี้เป็นพลังที่นายพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มันมา”
นอกจากจะมอบ One for All ‘อัตลักษณ์’ ทรงพลังให้กับ มิโดริยะ อิซึกุ เด็กหนุ่มแสนธรรมดาที่เกิดมาโดยไม่มีพลังหรืออัตลักษณ์อะไรสักอย่าง
นอกจากเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ออลไมท์ ยังเป็นตัวแทนของอาจารย์ในอุดมคติ ที่อย่างน้อยที่สุดในทุกๆ โรงเรียนควรมีคนแบบนี้เป็นอาจารย์สักหนึ่งคน ไม่ใช่ในแง่ความเข้มแข็งและพลังพิเศษ แต่เป็นเรื่อง ‘หัวใจ’ และจิตวิญญาณแห่งความเสียสละที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อนักเรียนของเขาจริงๆ
ออลไมท์ ทำงานอย่างหนักทั้งในฐานะฮีโร่ที่ต้องปกป้องคนทั้งโลก และอาจารย์ที่ต้องดูแลความเรียบร้อยในโรงเรียน ถึงแม้ร่างกายจะอ่อนแอใกล้ถึงขีดจำกัด แต่เขาก็ยังอุทิศพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมด สอดส่องดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด และได้มอบบทเรียนสำคัญให้กับนักเรียนหลายๆ คน รวมทั้งมิโดริยะทั้งการควบคุมพลังยิ่งใหญ่ที่ได้รับ การพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้พลังนั้นมา ความหมายของการเป็นฮีโร่ ฯลฯ
รวมทั้งเรื่องสำคัญที่สุด คือการสอนให้มิโดริยะ ได้เรียนรู้ว่า ทุกคนล้วนมีคุณค่า และมีความ ‘พิเศษ’ ของตัวเอง
- รีบอร์น – Reborn
“ถ้านายคิดจะหนีไปตอนนี้ นายก็จะต้องหนีไปตลอดชีวิต”
อัลโกบาเลโน (เด็กทารกที่แข็งแกร่งที่สุดทั้ง 7) ตัวน้อย ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘นักฆ่า’ ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่ต้องมาเจอกับภารกิจสุดหิน ที่ต้องเคี่ยวเข็ญให้เด็กจอมแหยอย่าง ซาวาดะ สึนะโยชิ เข้มแข็งมากพอกับตำแหน่ง หัวหน้ารุ่นที่สิบแห่งแก๊งมาเฟีย วองโกเล แฟมิลี ให้ได้
รีบอร์นมีเทคนิคพิเศษคือ การยิงกระสุนเข้ากลางหน้าผาก แล้วเปิดโหมด ‘ดับเครื่องชน’ ให้สึนะมีพลังฮึดขึ้นมาต่อสู้กับปัญหาที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่รีบอร์นมอบให้ไม่ใช่แค่กระสุน และพลังพิเศษที่ทำให้แข็งแกร่งแค่ภายนอก
แต่ยังสอนให้สึนะได้เรียนรู้การใช้ชีวิต มิตรภาพ ความเจ็บปวด ที่เขาต้องเตรียมตัวแบกรับเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ถึงแม้ในบรรดาคุณครูทั้งหมด รีบอร์นจะเป็นคุณครูจอมเฮี้ยบที่มอบบทลงโทษรุนแรงให้สึนะอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่รีบอร์นลงโทษเพียงเพราะต้องการระบายอารมณ์ และที่สำคัญคือไม่เคยเอาน้ำยาดมป้ายตาสึนะแน่ๆ
บทเรียนทั้งหมดของรีบอร์นล้วนเกิดมาจากความปรารถนาดี และความเข้าใจว่าโลกของมาเฟียนั้นโหดร้ายขนาดนั้น เขาเลยจำเป็นต้องเข้มงวดแบบสุดๆ เพื่อให้วันหนึ่งลูกศิษย์ที่เคยไม่เอาไหน จะสามารถฮึดขึ้นมา ‘ดับเครื่องชน’ ต่อสู้กับทุกปัญหาและอุปสรรคได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีกระสุนจากอาจารย์ตัวจิ๋วคอยช่วย
- อาจารย์โคโระ – Assassination Classroom
“การจะเป็นนักฆ่าแล้วคิดแค่เรื่องลอบฆ่าอย่างเดียว แล้วไม่คิดที่จะเรียนหนังสือ นั่นมันก็แค่การไม่กล้าสู้กับปมด้อยของตัวเองเท่านั้น”
มนุษย์ต่างดาวตัวสีเหลืองผู้มีเป้าหมายจะทำลายโลก แต่สุดท้ายกลับกลายมาเป็นคุณครูสอนหนังสือให้กับนักเรียน ม.3 ห้อง E ที่รวบรวมนักเรียนระดับต่ำสุดของโรงเรียนมาไว้ด้วยกัน
พร้อมกับมอบบทเรียนที่ไม่เคยมีหลักสูตรไหนกำหนดไว้มาก่อน ด้วยการให้นักเรียนทั้งหมดทำอย่างไรก็ได้ เพื่อลอบสังหารเขาให้ได้ก่อนที่เขาจะทำลายโลกจริงๆ ในเวลา 1 ปี
ท่ามกลางสารพัดเทคนิคที่ลูกศิษย์สรรหามาเพื่อจัดการเขาให้ได้ อาจารย์โคโระก็ค่อยๆ ดึงศักยภาพของนักเรียนให้เก่งขึ้นทุกๆ ครั้งที่พยายามลอบสังหาร พร้อมกับสอดแทรกบทเรียนชีวิต และมอบ ‘การบ้าน’ ให้นักเรียนกลับไปคิด เพื่อค้นหาคำตอบเรื่อง ‘คุณค่า’ ของตัวเองออกมาให้ได้
เพราะความทุ่มเท ความเข้าใจ ความรัก ความหวังดี ที่อยากให้เด็กๆ ก้าวข้ามตัวเขาไปให้ได้ สุดท้าย มนุษย์ต่างดาวจอมวายร้าย ก็กลายเป็นอาจารย์ที่รักของนักเรียนทุกคน
- อุมิโนะ อิรุกะ – Naruto
“หมอนั่นไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอก แต่คือ อุซึมากิ นารูโตะ แห่งหมู่บ้านโคโนฮะต่างหาก”
ถ้าเทียบกับตัวละครเด่นๆ ทั้งหมดในเรื่องนินจาคาถา โอ้โฮเฮะ อิรุกะคือนินจาไร้พลังที่แทบไม่มีบทเด่น แต่ในฐานะ ‘คุณครู’ เขาคือคนสำคัญที่ดูแลนินจาฝึกหัดทั้งหมด และคอยเฝ้ามองดูลูกศิษย์เหล่านั้นเติบโต ก้าวผ่านคนธรรมดาอย่างเขา ไปเป็นนินจาผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคต
โดยเฉพาะกับพระเอกของเรื่องอุสึมากิ นารูโตะ ที่ตอนแรกถูกทุกคนในหมู่บ้านรังเกียจ เพราะเป็นพลังสถิตย์ร่างของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง แถมความสามารถเรื่องนินจาก็ต้อยต่ำ เพราะมีปัญหาเรื่องการควบคุมพลัง และยังเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีคนคอยสั่งสอนอย่างใกล้ชิด
จะมีก็แต่คุณครูอิรุกะนี่ล่ะ ที่ทั้งคอยดูแลนารูโตะเป็นอย่างดี รวมทั้งชวนไปกินราเมงร้านอร่อย เพื่อปลอบโยนหัวใจให้นารูโตะรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ เขาคือคนแรกที่มองข้าม ‘ปีศาจ’ ที่หลายคนมอง และยอมรับนารูโตะในฐานะที่เป็นมนุษย์ และนินจาคนหนึ่งจริงๆ
รวมทั้งการตัดสินให้นารูโตะสอบผ่าน ได้เป็นนินจาฝึกหัด พร้อมกับสัญลักษณ์ใบไม้บนผ้าคาดหน้าผากของนินจาแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางอันยาวไกลของศิษย์รักนารูโตะที่วันหนึ่งจะเติบโตเป็น ‘โฮคาเงะ’ ผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างที่เคยวาดฝันเอาไว้จริงๆ
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์