ปฏิเสธไม่ได้ว่ากาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มสากลที่คนทั่วโลกต่างหลงใหล ของเหลวสีเข้มในแก้วอุ่นๆ ส่งกลิ่นหอมๆ ชวนให้ประสาทสัมผัสตื่นตัว มีงานวิจัยหลายชิ้นรองรับว่าคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำมีอายุยืนกว่าและมีความเสี่ยงเกิดโรคร้ายแรงน้อยกว่าคนไม่ดื่ม และเพื่อเฉลิมฉลองวันกาแฟสากล เราขอแนะนำ 9 จุดหมายปลายทางที่เหล่ากาแฟเลิฟเวอร์สมควรไปเยือน โดยคัดสรรจาก 21 ล้านความเห็นของลูกค้าเว็บไซต์ Booking.com
เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
เมลเบิร์นได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกาแฟของออสเตรเลีย ไม่ว่าคุณจะย่างกรายไปที่ไหนก็จะได้ยินเสียงบดกาแฟและเครื่องทำเอสเปรสโซคลอเคลียการสัญจรของผู้คนในช่วงเช้า แนะนำให้เลือกพักที่ Abode 361 จากนั้นเดินเป็นระยะทางสั้นๆ ไป Axil Coffee Roasters คาเฟ่เชนมีชื่อประจำเมือง จากนั้นจะนำกลับมาดื่มด่ำที่ห้องหรือนั่งมองผู้คนผ่านกระจกร้านก็ได้
เวียนนา ประเทศออสเตรีย
เวียนนาควรจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายชื่อจุดหมายที่คอกาแฟต้องไปเยือน วัฒนธรรมคอฟฟี่เฮาส์สไตล์เวียนนานั้นได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO ในฐานะ ‘มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้’ ดังนั้นทุกคนจึงมุ่งมั่นที่จะช่วยกันอนุรักษ์และปกป้องธรรมเนียมซึ่งเป็นที่รักที่สุดของเมืองหลวงแห่งออสเตรีย การมาเยือนเวียนนาจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้แวะหนึ่งในคาเฟ่ยอดนิยมสักแห่งในย่านวีเดนซึ่งโฉบเฉี่ยวและนำเทรนด์กว่าที่อื่น โดยย่านแห่งนี้เป็นสวรรค์ของเหล่าฮิปสเตอร์ อีกทั้งยังมีสวนที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง โจฮานเนส ไดโอดาโต ผู้ก่อตั้งคอฟฟี่เฮาส์แห่งแรกสุดของเวียนนา และอย่าลืมชิม ‘เวียนนิส คอฟฟี่’ ด้วย
โรม ประเทศอิตาลี
เอสเปรสโซเปรียบเหมือนเลือดหล่อเลี้ยงของชาวโรมส่วนใหญ่ เพราะคนที่นี่ดื่มกาแฟเข้มและหนัก เรียกได้ว่าในแต่ละวันมักดื่มเอสเปรสโซ 5 ช็อตขึ้นไป ที่นี่มีบาร์กาแฟแบบวันช็อต คือแวะมาดื่มหนึ่งกรึ๊บแล้วจรทันที ซึ่งหนึ่งในบาร์กาแฟยอดนิยมชื่อดังและสมควรไปเยือนคือ Sant’ Eustachio Il Caffe ซึ่งเสิร์ฟกาแฟกว่า 6,000 แก้วในแต่ละวัน
ลวีฟ ประเทศยูเครน
แม้เป็นเมืองไม่ดังสำหรับนักเดินทางบ้านเรา แต่ลวีฟก็มีวัฒนธรรมกาแฟเทียบเคียงยุโรปตะวันตก ความสัมพันธ์ของลวีฟกับกาแฟนั้นย้อนกลับไปตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ตอนที่ชาวออสเตรียมาเยือนและช่วยทำให้วัฒนธรรมกาแฟเป็นรูปเป็นร่างมาจนถึงทุกวันนี้ บริเวณใจกลางเมืองเก่า ห่างจาก Vintage Boutique Hotel ไปไม่ไกล เป็นสถานที่ตั้งของ Virmenka คาเฟ่ในตำนานที่สามารถสั่งกาแฟชงโดยใช้สูตรเฉพาะของลวีฟแท้ๆ รับรองว่าคอกาแฟต้องปลาบปลื้มแน่นอน
อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ประเทศต้นกำเนิดบริษัท Dutch East India ซึ่งเป็นผู้ค้าขายเครื่องเทศและกาแฟแห่งแรกของโลก โดยทั่วเมืองอัมสเตอร์ดัมมีคาเฟ่สุดฮิปและร้านจำหน่ายกาแฟอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ที่นี่จึงอื้ออึงไปด้วยเสียงบดเมล็ดกาแฟอาราบิก้า หากพักที่โรงแรม The Hoxton จะได้ลิ้มลองหนึ่งในเอสเปรสโซเบลนด์ที่ดีที่สุดจากร้าน Lot Sixty One ซึ่งเสิร์ฟพร้อมอาหารเช้าทุกวัน ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านเก่าแก่ริมคลองของอัมสเตอร์ดัม เหมาะสำหรับดื่มกาแฟและชมวิวย่านเฮเรนกราคต์แสนงดงาม พลางมองผู้คนขี่จักรยานไปทำงาน
ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
แม้จะไม่จัดจ้านเท่าอิตาลี แต่ชาวปารีเซียงนั้นคลั่งไคล้ร้านกาแฟแบบสุดๆ พวกเรามักเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยกาแฟคุณภาพหรือไม่ก็บาแกตต์ดีๆ สักชิ้นก่อนออกไปเผชิญการงานแต่ละวัน ณ เขตปกครองที่ 11 เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมผู้คนหลากหลายที่มีหัวคิดสร้างสรรค์ บริเวณนี้อัดแน่นไปด้วยคาเฟ่ฮิปๆ มากมาย ซึ่งเราแนะนำให้ลองเช็กอินที่ Café Oberkampf คาเฟ่ใหม่ที่ติดลมบนอย่างรวดเร็วในหมู่บล็อกเกอร์และนักเดินทางที่ชื่นชอบการตามเทรนด์
อิสตันบูล ประเทศตุรกี
กาแฟตุรกีแสนอร่อยนั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยชาวออตโตมันเป็นผู้คิดค้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน และมีให้บริการทั่วทุกมุมถนนอิสตันบูล เคล็ดลับของรสชาตินั้นอยู่ที่การเตรียมกาแฟ จึงเตรียมพร้อมสัมผัสรสชาติแน่นและเข้มข้นจากเครือสุดฮิปอย่าง House Café ไปจนถึง ‘คาเฟ่ยุคกลางไร้ชื่อ’ ซึ่งตั้งอยู่ที่ Corlulu Alipasa Medreses เรียกได้ว่าทุกที่ของอิสตันบูลนั้นคอยเตรียมกาแฟสำหรับทุกคน
ซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา
ซีแอตเทิลเป็นต้นกำเนิดเครือร้านกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Starbucks ลองแวะไปที่ร้าน Starbucks สาขาแรกใน Pike Place Market และสั่งแฟรปปูชิโนแก้วโปรด เนื่องจากทั่วเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมกาแฟเข้มข้น จึงมีโอกาสที่จะเจอบาร์กาแฟอยู่ทั่วทุกแห่ง
เวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์
ชาวเวลลิงตันต่างชื่นชอบกาแฟ โดยมีร้านกาแฟมากมายอยู่ใจกลางเมือง คุณจึงจะได้กลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วล่องลอยอยู่ในสายลมที่พัดผ่าน คาเฟ่ชื่อดังอย่าง Fidel’s เป็นจุดห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเวลลิงตัน ที่นี่เสิร์ฟกาแฟคิวบาซึ่งส่งตรงแบบสดๆ มาจากโรงคั่วที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จึงเป็นคาเฟ่บรรยากาศคึกคักที่มีกลิ่นอายเมืองฮาวานา
ภาพ: Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์