8 เรื่องราวของเจ้าหญิงไดอานาที่ควรรู้จากเรื่อง The Crown ซีซัน 4

* บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาซีรีส์

หลังจากที่รอคอยกันมานาน The Crown ซีซัน 4 ก็ได้ออกสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกผ่านทาง Netflix เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา โดยในซีซันนี้นอกเหนือจากเรื่องราวการเมืองที่อยู่ในยุคของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศอังกฤษอย่าง มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ รวมไปถึงความสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กคนนี้กับควีนเอลิซาเบธที่ 2 ที่มีวิถีความคิดในการปกครองและการบริหารประเทศต่างกันอย่างสุดกู่แล้ว สิ่งที่ได้รับความสนใจมากในซีซันล่าสุดนี้คือเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานา รวมไปถึงเหตุการณ์และผู้คนที่ส่งอิทธิพลใหญ่หลวงต่อชีวิตคู่ของทั้งสอง แน่นอนว่าเรื่องราวที่ปรากฏในซีรีส์ย่อมผสมปนเปทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสให้แก่ผู้ชม ส่วนเรื่องไหนจริงหรือไม่จริงบ้าง เราได้นำมาเปรียบเทียบให้แล้ว

การพบกันครั้งแรกของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานา

เป็นเรื่องจริงที่ทั้งสองพบกันในคฤหาสถ์ตระกูลสเปนเซอร์ หรือบ้านของครอบครัวเจ้าหญิงไดอานา เมื่อปี 1977 โดยในช่วงนั้นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กำลังเดตอยู่กับ ซาราห์ พี่สาวแท้ๆ ของเธอ ขณะนั้นเจ้าชายมีอายุ 29 ปี ในขณะที่ไดอานามีอายุเพียง 16 ปี ทั้งคู่พบกันบริเวณสนามหญ้าของคฤหาสน์ ซึ่งตระกูลสเป็นเซอร์เป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงที่มีความใกล้ชิดกับราชวงศ์มาก พวกเขาจึงเคยพบกันหลายครั้ง แต่นั่นคือครั้งแรกที่ทั้งสองได้เจอกันเป็นเรื่องเป็นราว แตกต่างกับในซีรีส์ที่ทั้งสองพบกันในตัวบ้านขณะที่ไดอานาอยู่ในชุดแสดงละครเวทีของโรงเรียนเรื่อง Midsummer Night Dreams และบทสนทนาเกี่ยวกับละครเวทีดังกล่าวก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

จุดเริ่มต้นความรักของทั้งคู่

ทั้งคู่ได้โคจรกลับมาพบกันในงานกีฬาโปโลเพื่อการกุศลปี 1980 ณ ซัสเซ็กซ์ ต่างกับในซีรีส์ที่เจ้าหญิงและเจ้าชายพบกันในงานแข่งขี่ม้าของเจ้าหญิงแอนน์ โดยช่วงนั้นเพิ่งเกิดการลอบสังหาร ลอร์ดเมาท์แบตเทิน บุคคลที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้ความนับถือเป็นอย่างมากไปเพียงไม่นาน แต่บทสนทนาของทั้งคู่แตกต่างไปเล็กน้อย ในซีรีส์ไดอานาได้เข้าไปแสดงความเสียใจต่อชาร์ลส์บนถนน และทิ้งท้ายว่า “ท่านทรงอยู่ในใจหม่อมฉันเสมอ ในใจของเราทุกคน” แต่อ้างอิงจากการสัมภาษณ์ของเจ้าหญิงไดอานาในสารคดี Diana: In Her Own Words พวกเขาได้มีการพูดคุยกันภายในงาน ก่อนที่ไดอานาจะแสดงความเห็นใจต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ เธอกล่าวว่า “คุณต้องเหงามากแน่ๆ” และ “คุณควรจะมีใครที่ห่วงใยจริงๆ อยู่เคียงข้าง” เจ้าชายผู้ซึ่งในขณะนั้นกำลังเผชิญหน้ากับความสูญเสียและผิดหวังในความรักครั้งเก่าจาก คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบลว์ส รู้สึกซึ้งใจกับความใส่ใจของเจ้าหญิง ทั้งคู่ใช้เวลาด้วยกันตลอดทั้งเย็นวันนั้น

กิจกรรมแก้เหงาของเจ้าหญิงไดอานาเมื่อครั้งเข้าพระราชวังบักกิงแฮมใหม่ๆ

ในช่วงที่เธอได้เข้าพระราชวังบักกิงแฮมใหม่ๆ นั้น นอกจากการที่ต้องเรียนรู้ข้อปฏิบัติอันเคร่งครัดในฐานะเจ้าหญิงคนใหม่ เธอก็พบเจอกับความเหงา เบื่อ และโดดเดี่ยวที่ตามมา ในซีรีส์เราจะได้เห็นเจ้าหญิงไดอานาแก้เหงาด้วยการเล่นโรลเลอร์สเกตบนพื้นพรมในพระราชวังพร้อมฟังวอล์กแมนไปด้วย และทีมโปรดิวเซอร์ก็ได้คอนเฟิร์มผ่านนิตยสาร Vogue ว่านี่คือเรื่องจริงล้วนๆ และนอกจากโรลเลอร์สเกตแล้ว เจ้าหญิงในวัย 19 ปียังปั่นจักรยานในคืนก่อนอภิเษกสมรส พร้อมฮัมเพลง “ฉันกำลังจะแต่งงานกับเจ้าชายแห่งเวลส์” เป็นจังหวะซ้ำๆ ไปด้วย สะท้อนความร่าเริงและสดใสของเธอก่อนที่จะเข้าเป็นสมาชิกราชวงศ์อย่างเต็มตัว

พฤติกรรมการกินที่ไม่ปกติของเจ้าหญิงไดอานา

ซีรีส์ The Crown มีฉากที่เจ้าหญิงกินขนมหวานอย่างตะกละตะกลามก่อนที่จะไปล้วงคออาเจียนในห้องน้ำ ซึ่งในความเป็นจริงข่าวลือที่เธอป่วยด้วยโรคบูลิเมียนั้นมีมานานก่อนจะได้รับการยืนยันจากตัวเจ้าหญิงไดอานาเองผ่านหนังสือชีวประวัติ Diana: Her True Story

เธอเผยว่าเธอเริ่มมีอาการของโรคนี้หลังการหมั้นเพียงสองสัปดาห์ ด้วยความเหงาและความเครียดจากความห่างเหินของว่าที่คู่สมรส และความจริงที่เขายังคงติดต่อกับคนรักเก่าอย่างคามิลลาอยู่เสมอ นอกจากนั้น เอลิซาเบธ เอ็มมานูเอล ผู้ออกแบบชุดแต่งงานของเจ้าหญิงยังเผยว่า เจ้าหญิงไดอานามีรอบเอว 26-27 นิ้วในครั้งแรกที่เริ่มวัดตัว แต่ก่อนถึงวันแต่งงานเอวของเธอเหลือเพียง 23 นิ้วเท่านั้น

การไปเยือนออสเตรเลียปี 1983 จุดเริ่มต้นของ ‘Dianamania’

หลังจากที่เจ้าหญิงไดอานาคลอดเจ้าชายวิลเลียมได้เพียง 9 เดือน เจ้าชายและเจ้าหญิงต้องไปทำภารกิจที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเจ้าหญิงไดอานากำลังเผชิญกับอาการซึมเศร้าหลังคลอดและทุกข์ทรมานจากโรคบูลิเมียเรื้อรัง รวมไปถึงปัญหาคาราคาซังของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคามิลลา เมื่อไดอานาพบรูปถ่ายของเธอในไดอะรีของเจ้าชาย รวมไปถึงการที่เจ้าชายยังสวมใส่เครื่องประดับสั่งทำพิเศษหลายชิ้นที่คามิลลามอบให้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็ตรงกับในซีรีส์ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันระหว่างหยุดพักกิจกรรมในออสเตรเลีย ไดอานาสามารถกลับไปทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นอีก เมื่อเจ้าหญิงไดอานาได้รับความสนใจจากมวลชน ในออสเตรเลียมากกว่าเจ้าชายอย่างเห็นได้ชัด จำนวนคนที่มาต้อนรับเจ้าหญิงเมื่อทั้งสองแยกทำกิจกรรมกันมีถึง 2 แสนคน เหตุเพราะเจ้าหญิงไดอานาให้ความรู้สึกเข้าถึงง่ายกับประชาชนมากกว่าราชวงศ์อังกฤษทั่วๆ ไป ความตึงเครียดของทั้งคู่หลังกลับสู่ประเทศอังกฤษเป็นที่รับรู้ได้จากทุกฝ่าย

ความสัมพันธ์ของเจ้าหญิงไดอานากับควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าหญิงแอนน์

ในเรื่อง The Crown นั้น เจ้าหญิงไดอานาได้เข้าเฝ้าควีนเอลิซาเบธเพื่อปรึกษาปัญหาชีวิตคู่ แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมามีแต่เพียงความเย็นชา ซึ่งเจ้าหญิงไดอานาเคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เธอเคยปรึกษาควีนเอลิซาเบธเพราะไม่รู้จะหันหน้าหาใครแล้ว แต่คำตอบที่ได้รับคือ “เราก็ไม่รู้ว่าเธอควรทำเช่นไรเหมือนกัน” เท่านั้น ในขณะที่เจ้าหญิงแอนน์เองก็แสดงความเย็นชายิ่งกว่า เหตุเพราะพวกเธอมีบุคลิกภาพที่แตกต่างกันเกินไป เจ้าหญิงแอนน์ทรงเรียกเจ้าหญิงไดอานาว่า ‘ผู้หญิงพวกนั้น’

การแสดงสุดพิเศษเพื่อเซอร์ไพรส์เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่ลงเอยด้วยความร้าวฉาน

ถึงแม้ว่าจะไม่มีคลิปวิดีโอ แต่ก็มีรูปถ่ายและสักขีพยานมากมายในเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเจ้าหญิงไดอานาแอบซ้อมการแสดงเต้นโชว์เพลง Uptown Girl ของ Billy Joel เพื่อเซอร์ไพรส์เจ้าชายในงานกาล่าบัลเลต์ของราชวงศ์ ซึ่งเธอได้ทำการแอบฝึกซ้อมกับนักบัลเลต์อย่าง เวย์น สลีป ด้วยความตื่นเต้น เพราะต้องแอบทั้งจากครอบครัวและเหล่าปาปารัซซีที่ตามเธอเกือบจะทุกฝีก้าว โดยเวย์นเผยว่าเจ้าหญิงไดอานาตั้งใจฝึกซ้อมทั้งเต้นแจ๊ส บัลเลต์ และการเตะสูงอยู่หลายวัน ในขณะที่ผู้ชมต่างยืนปรบมือยาวนานถึง 8 นาทีหลังการแสดงของเจ้าหญิง แต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กลับรู้สึกอับอายจากการแสดงของเธอในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

คำขู่จากเจ้าชายฟิลิป

เจ้าชายฟิลิปผู้เป็นพระบิดาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ไม่เคยมีปากเสียงโดยตรงกับเจ้าหญิงไดอานาเหมือนในซีรีส์ หากแต่ส่งจดหมายไปให้เจ้าหญิงไดอานาช่วยปรับตัวให้เหมาะสมกับฐานะของเจ้าหญิง พระราชินี และมารดาของพระราชาในอนาคต ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งสองได้มีการพูดคุยผ่านทางจดหมายอยู่บ่อยครั้ง และจดหมายเหล่านั้นก็แสดงความไม่พอใจต่อความสัมพันธ์ของเจ้าชายชาร์ลส์และคามิลลา พร้อมยังให้กำลังใจเจ้าหญิงไดอานา แต่ก็ยังมีหลายฉบับที่กล่าวว่าเป็นเพราะความประพฤติของเธอเองที่ทำให้สามีนอกใจ และถ้าปรับตัวไม่ได้ก็ต้องถอยออกจากตำแหน่งนี้อย่างเดียวดาย

ภาพ: Netflix, Getty Images

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: