ช่วงปลายยุค 80 ทั้งโลกได้รู้จักคำจำกัดความคำว่า ‘Supermodel’ จากนางแบบตัวท็อปของวงการที่พวกเธอโด่งดังไม่แพ้คนดังจากฝั่งฮอลลีวูด Naomi Campbell, Linda Evangelista, Christy Turlington และ Cindy Crawford ซึ่งได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ ส่งให้อาชีพนางแบบเป็นมากกว่าแค่ไม้แขวนเสื้อที่มีชีวิตเท่านั้น ปี 2000 อีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญของวงการนางแบบ เมื่อแบรนด์ชุดชั้นใน Victoria’s Secret จัดแฟชั่นโชว์ประจำปีโดยใช้นางแบบระดับท็อปของวงการ รวมถึงสร้างสถานะ ‘Angels’ ที่เปรียบได้กับสถานะของซูเปอร์โมเดลแต่โด่งดังกว่าจากกระแสความแมสของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Gisele Bündchen, Adriana Lima, Heidi Klum, Miranda Kerr และ Candice Swanepoel ที่ล้วนโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
แต่แล้วในช่วง 2010s การมาของโซเชียลมีเดียก่อกำเนิดซูเปอร์โมเดลกลุ่มใหม่ขึ้น Kendall Jenner, Cara Delevingne, Karlie Kloss,J oan Smalls, Gigi และ Bella Hadid ซึ่งสร้างเอ็นเกจเมนต์อย่างมหาศาลเมื่อพวกเธอปรากฏตัว รวมถึงยังใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างธุรกิจและสื่อสารกับแฟนคลับของพวกเธอ ยิ่งส่งให้พวกเธอโด่งดังมียอดฟอลโลเวอร์หลายสิบล้านคน แต่ในยุคนี้เองยังมีนางแบบอีกหลายคนที่แจ้งเกิดในฐานะนางแบบมืออาชีพที่แบรนด์ต่างชื่นชมผลงาน และมีโอกาสร่วมงานทั้งรันเวย์ แคมเปญ รวมถึงปรากฏตัวตามอีเวนต์สำคัญต่างๆ ด้วยเช่นกัน พวกเธอถูกขนานนามว่า ‘Industry Icons’
วันนี้ THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 7 นางแบบตัวท็อปของวงการแฟชั่นในยุค 2010s กัน
VITTORIA CERETTI
นางแบบที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงและได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างจะต้องมีชื่อของ Vittoria Ceretti เธอเข้าวงการครั้งแรกในช่วงปี 2013 ด้วยเครื่องหน้าสุดคม Vittoria เก็บแคมเปญใหญ่จาก Dolce & Gabbana ในทันทีหลังจากเริ่มทำงานได้ไม่นาน รวมถึงมีโอกาสเดินรันเวย์ให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย แต่โมเมนต์ที่ส่งให้ชื่อของเธอเป็นที่ยอมรับมากขึ้นคือการได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue อิตาลีในปี 2016 หลังจากนั้นมางานของเธอก็หลากหลายขึ้น ทั้งแคมเปญของ Prada, GIVENCHY, Tory Burch, LOEWE, Versace, ALAÏA รวมถึงเป็นขาประจำของแคมเปญ CHANEL ไลน์บิวตี้อีกด้วย ความโด่งดังของเธอยังส่งให้เธอเป็นหนึ่งในนางแบบที่ได้ขึ้นปก Vogue สหรัฐอเมริการ่วมกับ Gigi Hadid, Kendall Jenner และ Ashley Graham ในฐานะนางแบบมาแรงในยุคนั้น โดยเว็บไซต์ Models.com ยกให้เธอเป็นหนึ่งในนางแบบผู้มีสถานะ New Supers หรือซูเปอร์โมเดลยุคปัจจุบันนั่นเอง
IMAAN HAMMAM
นางแบบลูกครึ่งชาวดัตช์และอียิปต์ Imaan Hammam สะท้านวงการนางแบบด้วยลุคผิวดำหน้าคม แค่ซีซันแรกในปี 2013 เธอได้เดินแบบให้กับแบรนด์ดังอย่าง Jean Paul Gaultier และ GIVENCHY รวมถึงได้ถ่ายนิตยสาร Vogue อิตาลีในฐานะนางแบบหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง นอกจากความสวยแล้ว หลายคนยังยกให้ Imaan เป็นหนึ่งในนางแบบที่เดินแบบได้สวยที่สุดด้วยท่วงท่าการวางจังหวะขาที่มั่นใจ สง่า และเซ็กซี่ ทำให้เธอเป็นขาประจำรันเวย์แบรนด์มากมาย ในปี 2017 เธอขึ้นปก Vogue สหรัฐอเมริการ่วมกับนางแบบอีกหลายคน และในปี 2021 เธอได้ขึ้นปก Vogue ฝรั่งเศสเป็นครั้งแรก โมเมนต์สำคัญในอาชีพของเธอเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อแบรนด์บิวตี้ยักษ์ใหญ่อย่าง Estée Lauder ได้เซ็นสัญญากับเธอในฐานะ Global Brand Ambassador ตามรอยนางแบบตัวท็อปคนอื่นๆ เช่น Carolyn Murphy, Karlie Kloss และ Kendall Jenner
SORA CHOI
Sora Choi ถือเป็นนางแบบชาวเอเชียเพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จระดับโกลบอล เธอเริ่มต้นอาชีพนางแบบจากการชนะการประกวดจากรายการ Korea’s Next Top Model ในปี 2012 โดยเธอได้เริ่มต้นทำงานระดับโกลบอลในปี 2015 เมื่อเธอมีโอกาสได้เดินรันเวย์ให้กับ Louis Vuitton และ Dior ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ปรากฏตัวบนรันเวย์เกือบจะทุกแบรนด์ แม้จะไม่ใช่นางแบบเกาหลีใต้คนแรกที่สามารถไปไกลระดับโลกได้ แต่ Sora เรียกได้ว่าเป็นนางแบบที่ประสบความสำเร็จที่สุดของวงการ เธอมีงานต่อเนื่องตลอดทุกปี มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ดังและขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นมากมาย ในปี 2022 เธอติดในลิสต์ The BoF 500 จากเว็บไซต์ธุรกิจแฟชั่นชื่อดังอย่าง The Business of Fashion ในฐานะบุคคลที่ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น
EDIE CAMPBELL
นางแบบจากประเทศอังกฤษ Edie Campbell เข้าวงการครั้งแรกในปี 2008 เธอถูกแคสให้ร่วมถ่ายแคมเปญให้กับแบรนด์ Burberry แต่อาชีพนางแบบของเธอเริ่มต้นจริงๆ ในปี 2010 ด้วยลุคตาลอย Edie ถูกเปรียบเทียบว่าเธอนั้นคือ The New Twiggy นางแบบคนดังยุค 60 ที่มาพร้อมเอกลักษณ์อายไลเนอร์ Edie กลายเป็นนางแบบประจำให้กับแบรนด์ Burberry และเธอยังเป็นคนโปรดของ Karl Lagerfeld อีกด้วย ไม่แปลกเลยที่เธอมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์อย่าง CHANEL ในหลายๆ โปรเจกต์ เธอปรากฏตัวบนปกนิตยสาร Vogue อิตาลีครั้งแรกในปี 2013 สองเดือนติดต่อกันในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ซึ่งปกหลังนั้นขึ้นร่วมกับนางแบบ Karen Elson แม้ปัจจุบัน Edie จะมีอายุ 34 ปีแล้ว แต่เธอยังถือเป็นนางแบบที่คนในวงการให้ความเคารพและอยากร่วมงานอยู่เสมอ ผลงานล่าสุดของเธอคือการร่วมเดินรันเวย์ให้กับแบรนด์ Khaite ที่นิวยอร์กแฟชั่นวีคที่ผ่านมา และแคมเปญกระเป๋าให้กับแบรนด์ ETRO
MICA ARGAÑARAZ
หนึ่งในนางแบบงานชุกที่สุดของวงการคือ Mica Argañaraz นางแบบเชื้อสายอาร์เจนตินา เธอเข้าวงการครั้งแรกในปี 2012 เพียงแค่ซีซันแรกเธอสามารถกวาดโชว์สำคัญๆ เช่น Christopher Kane และ Dries Van Noten นอกจากนี้เธอยังเป็นนางแบบขาประจำให้กับ CHANEL และ Saint Laurent นอกจากเดินรันเวย์แล้วนั้นยังปรากฏตัวบนแคมเปญอยู่หลายครั้ง รวมถึงได้ขึ้นแคมเปญน้ำหอมรุ่นไอคอนิกอย่าง Black Orchid ของแบรนด์ TOM FORD อีกด้วย ในปี 2015 เธอได้ขึ้นปก Vogue ฝรั่งเศสครั้งแรกหลังจากเคยถ่ายในเล่มมาแล้วหลายครั้ง แม้เธอจะอายุ 32 ปีแล้วก็ตาม แต่ Mica ยังถือเป็นนางแบบผู้เป็นที่ต้องการของแบรนด์แฟชั่นอยู่เสมอ โดยเว็บไซต์ Models.com ยกตำแหน่ง Industry Icon ให้กับเธอในฐานะนางแบบมืออาชีพที่คนในวงการต่างยกย่องและให้ความเคารพ
PALOMA ELSESSER
Paloma Elsesser เริ่มต้นอาชีพนางแบบในปี 2015 เส้นทางนางแบบของเธอเติบโตไปอย่างช้าๆ เพราะนางแบบพลัสไซส์ถือเป็นตลาดที่เล็กมาก มีแค่ไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่ต้องการร่วมงานในช่วงนั้น การมาของ Ashley Graham ช่วยเปิดทางให้นางแบบพลัสไซส์มีพื้นที่มากขึ้นในวงการแฟชั่น ในปี 2018 เธอมีโอกาสได้ขึ้นปก Vogue อังกฤษร่วมกับนางแบบหลายคนในฐานะนางแบบที่น่าจับตามอง ก่อนจะขึ้นปก Vogue อิตาลีในปี 2020 ซึ่งในระหว่างนั้น Paloma ได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ เช่น Fenty, Glossier, COACH และอีกมากมาย แต่โมเมนต์สำคัญของเธอเกิดขึ้นในปี 2021 เมื่อเธอได้รับเลือกให้ขึ้นปก Vogue สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นนางแบบพลัสไซส์คนที่สองที่เคยขึ้นปกต่อจาก Ashley และในปี 2023 เธอสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งเมื่อชนะรางวัล Model of the Year จากเวที British Fashion Awards ซึ่ง Paloma ได้สร้างสแตนดาร์ดใหม่ให้กับวงการแฟชั่นในเรื่องของความหลากหลาย แถมเธอยังเป็นกระบอกเสียงเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เสมอ
RIANNE VAN ROMPAEY
นางแบบชาวดัตช์อีกคนที่ขึ้นแท่นเป็นนางแบบแถวหน้าของวงการ Rianne Van Rompaey เริ่มต้นเข้าวงการด้วยการเป็นนางแบบ Exclusive ให้กับโชว์ของ Louis Vuitton คอลเล็กชันแรกจาก Nicolas Ghesquière รวมถึงการขึ้นแคมเปญแรกของแบรนด์ด้วยเช่นกัน ด้วยลุคนางแบบในอุดมคติเธอสามารถเปลี่ยนลุคของตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็นคอนเซปต์อะไรก็ตาม ทำให้เธอขึ้นแท่นกลายเป็นนางแบบคนโปรดของวงการแฟชั่นทันที Rianne เคยขึ้นปก Vogue ฝรั่งเศสมาแล้วถึง 6 ครั้ง และเธอยังเป็นคนโปรดของ Karl Lagerfeld รวมถึงได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ประจำน้ำหอมรุ่นดังอย่าง CHANEL CHANCE และปี 2024 ที่ผ่านมา Rianne ได้ร่วมเดินแฟชั่นโชว์ของ Victoria’s Secret เป็นครั้งแรก ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเธอที่สามารถฉีกตัวเองให้สามารถรับงานที่หลากหลายได้มากขึ้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ Rianne ได้ประกาศพักงานนางแบบเพื่อค้นหาตัวเองในบริบทอื่นๆ และได้ทิ้งท้ายไว้ว่าเธอจะกลับมาแน่นอน แต่เมื่อไรนั้นยังตอบไม่ได้
ภาพ: Getty Images
