×

7 Things We Love About Rihanna’s Fashion Sense แฟชั่นไอคอนตั้งแต่สมัยเป็นนักร้อง จนถึงตอนนี้กับการเป็นแม่ค้า

29.01.2023
  • LOADING...

7 Things We Love About Rihanna’s Fashion Sense แฟชั่นไอคอนตั้งแต่สมัยเป็นนักร้อง จนถึงตอนนี้กับการเป็นแม่ค้า

 

ในยุคที่เราคุ้นชื่อ Rihanna ในฐานะของแม่ค้าขายของ หารู้ไม่จริงแล้วๆ เธอคือศิลปินระดับตำนานที่มีเพลงติดชาร์ตและกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย รวมถึงสถานะของ ‘แฟชั่นไอคอน’ ที่การันตีด้วยรางวัล Fashion Icon Award จากเวที CFDA ในปี 2014 สไตล์ของเธอฉีกทุกกฎเกณฑ์และมักสร้างเสียงฮือฮามาโดยตลอด ด้วยมุมมองที่เฉพาะตัวและไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับสไตล์ของเธอ 

 

อีกหนึ่งเรื่องที่เราชื่นชมเธอมากๆ คือการเป็นกระบอกเสียงของความหลากหลายให้กับอุตสาหกรรมความงามและแฟชั่น ตั้งแต่การออกเฉดสีรองพื้นของแบรนด์ Fenty Beauty ที่รองรับทุกสีผิวจนกลายเป็นเทรนด์ต้นแบบให้กับแบรนด์บิวตี้อื่นๆ หรือจะเป็นแบรนด์ชุดชั้นในอย่าง Savage x Fenty ที่ตบหน้าการตลาดแบบเดิมๆ ด้วยขบวนนางแบบที่หลากหลายตั้งแต่ไซส์ สีผิว และเชื้อชาติ

 

เพื่อเป็นการต้อนรับ Rihanna กลับมาอีกครั้งในฐานะของนักร้อง เมื่อเธอกำลังจะขึ้นแสดง Super Bowl Halftime Show ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เราเชื่อว่าเธอจะต้องสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งกับโชว์ครั้งนี้ในหลายแง่มุม ทาง THE STANDARD POP จึงขอมาส่องถึง 7 ปัจจัยที่ทำให้เธอกลายเป็นแฟชั่นไอคอนระดับตำนานของยุคนี้กัน 

 


 

 

BOLD PERSONAL STYLE

 

Rihanna ขึ้นชื่อเรื่องการแต่งตัวแบบไม่เคยอยู่ในกรอบ จึงไม่แปลกที่เธอมักจะได้รับการพูดถึงบ่อยครั้งยามปรากฏตัว เธอมักจะมาพร้อมไอเท็มปังๆ หรือ Rare Item ที่ไม่ใช่หาได้ง่ายๆ จากแบรนด์ชั้นนำของโลกอย่าง Bottega Veneta, Saint Laurent, Balenciaga และอีกมากมาย ที่พร้อมจะทำชิ้นพิเศษให้เธอสวมใส่อยู่เสมอ เธอยังชอบสนับสนุนแบรนด์ดีไซเนอร์มาแรงอย่าง Y/Project, Alexandre Vauthier หรือ Maximilian Davis ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่นั้น หลายครั้งที่เธอมักจะแต่งตัวมีกลิ่นอายแบบสาวชาวเกาะหรือพื้นเพคนดำจากบาร์เบโดสประเทศบ้านเกิดของเธอมาผสมผสาน สไตล์ของเธอจึงหลากหลายตั้งแต่หรูหราสุดแกลมไปจนถึงเปรี้ยวเข็ดฟัน ลุคของเธอยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ดีไซเนอร์และใครหลายๆ คนอีกด้วย ไม่แปลกเลยที่สไตล์ของ Rihanna จะทรงอิทธิพลจนได้รับรางวัลจากเวทีใหญ่อย่าง CFDA ในสาขา Fashion Icon Award เพื่อเชิดชูสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ 

 


 

 

QUEEN OF THE MET 

 

กลายเป็นขาประจำของงาน The Met Gala ซึ่งเธอถูกเชิญให้ร่วมงานตั้งแต่ปี 2007 ในชุดสีขาวของ Georges Chakra ก่อนจะค่อยๆ พลิกโฉมของตัวเองในปีต่อๆ มา จนกลายเป็นหนึ่งในเซเลบริตี้ที่คนรอชมลุคมากที่สุดของงาน ในปี 2015 ถือเป็นปีที่ลุคของเธอพีคที่สุด กับชุดผ้าคลุมขนาดใหญ่สีเหลืองจากแบรนด์ Guo Pei ในธีม China: Through the Looking Glass ลุคนี้นอกจากจะอลังการและตรงธีมสุดๆ แล้ว ยังกลายเป็นมีมของอีเวนต์ในปีนั้นอีกด้วย และในปี 2018 กับชุดโป๊ปงานดีไซน์ของ Maison Margiela Artisanal ในธีม Heavenly Bodies: Fashion and the Catholic Imagination และล่าสุดในเดรสผ้าคลุมสีดำจาก Balenciaga ที่เธอมาพร้อมคนรัก A$AP Rocky ในธีม In America: A Lexicon of Fashion ล้วนตอกย้ำสถานะความเป็นแฟชั่นไอคอนและสไตล์ของเธอที่นับวันจะปังขึ้นเรื่อยๆ 

 


 

 

MATERNITY STYLE

 

ปีที่ผ่านมา Rihanna ได้ประกาศข่าวดีกับแฟนๆ เมื่อเธอตั้งท้องลูกคนแรกกับ A$AP Rocky แต่ที่เหนือชั้นไปกว่านั้นคือสไตล์ของเธอช่วงที่ท้องต่างหาก เรามักคุ้นตาชุดคลุมท้องแบบปกปิดท้องที่ยื่นออกมาของคุณแม่หลายยุคหลายสมัย Rihnna ฉีกกฎการใส่ชุดคลุมท้องแบบเดิม ด้วยการเปิดรับกับรูปร่างที่เปลี่ยนไปของเธอ เธอไม่อายที่จะโชว์ท้องแตกลาย แต่กลับเลือกชุดที่จะเผยให้เห็นท้องแบบไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง ที่สำคัญเธอยังสนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าและขยันออกงาน ล้างภาพจำคุณแม่ต้องเก็บตัวอยู่บ้านช่วงท้องไปเลย ภาพลักษณ์สุดปังนี้ได้เปลี่ยนมุมมองของผู้หญิงตั้งครรภ์ไปทั่วโลก แม้จะท้องโย้แต่ไม่จำเป็นต้องหยุดสวยหรือหยุดแต่งตัว ที่สำคัญโชว์ท้องไปเลย ไม่ต้องปิดหรืออายกับธรรมชาติของความเป็นแม่อีกต่อไป 

 


 

 

FACE OF FASHION HOUSE

 

ก่อนจะมาเป็นแม่ค้าขายของในปัจจุบัน Rihanna เคยเป็นมิวส์และแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับแบรนด์แฟชั่นมาแล้วมากมาย ด้วยภาพลักษณ์สุดเฟียร์ซ เธอเป็นคนดำไม่กี่คนที่ได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์หรูระดับโลก เช่น Gucci ในช่วงปี 2008 ในแคมเปญ Tattoo Heart ที่ทางแบรนด์ได้ทำคอลเล็กชันพิเศษร่วมกับ UNICEF และยังมีแบรนด์ Armani ที่ดึงเธอมาร่วมแคมเปญไลน์เดนิมรวมถึงชุดชั้นใน แต่ที่สร้างเสียงฮือฮาที่สุดคงไม่พ้น Christian Dior ในยุคของ Raf Simons ที่ได้เลือกให้ Rihanna ขึ้นแท่นแบรนด์แอมดาสเดอร์ของห้องเสื้อสุดหรู และยังถือเป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ดังอีกด้วย 

 


 

 

COLLABORATOR ROLE 

 

Rihanna สร้างเฮดไลน์อีกครั้งในปี 2014 เมื่อเธอเข้ารับหน้าที่ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ Puma โดยเธอได้ร่วมออกแบบคอลเล็กชันพิเศษให้กับแบรนด์ รองเท้าสนีกเกอร์ที่เธอออกแบบสามารถ Sold Out ทันทีหลังจากวางขายได้ไม่ถึงชั่วโมง นอกจาก Puma แล้วนั้น เธอยังเคยร่วมออกแบบกับแบรนด์อื่นๆ อย่างเช่น Manolo Blahnik กับดีไซน์พิเศษรองเท้าบู๊ตเดนิมที่ทำขึ้นแมตช์กับสไตล์ส่วนตัวของเธอ, คอลเล็กชันพิเศษร่วมกับแบรนด์เครื่องประดับ Chopard ที่เธอฝากฝีมือการออกแบบคอลเล็กชันเครื่องประดับเป็นครั้งแรก ไม่หมดเพียงเท่านี้ เธอยังมีคอลเล็กชันถุงน่องและถุงเท้าร่วมกับแบรนด์ Stance รวมถึงคอลเล็กชันแว่นตาร่วมกับ Dior ที่ต่อยอดเพิ่มจากตำแหน่งแอมบาสเดอร์ด้วยเช่นกัน

 


 

 

BEAUTY MOGUL

 

นอกจากพาร์ตแฟชั่นแล้วนั้น Rihanna ยังสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่จากการเปิดตัวแบรนด์บิวตี้ของตัวเองในชื่อ Fenty Beauty โดยมุ่งเป้าไปที่ความหลากหลายเป็นจุดขาย ซึ่งเธอมองว่ายังเรื่องนี้ยังขาดและไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรในอุตสาหกรรมความงาม Fenty Beauty สร้างบรรทัดฐานใหม่ด้วยการเปิดตัวรองพื้นมากกว่า 50 เฉดสี เพื่อให้ครอบคลุมผู้ใช้ทุกสีผิวตั้งแต่สว่างสุดไปจนถึงเข้มสุด และเธอยังตอกย้ำภาพลักษณ์ความหลากหลายด้วยการเปิดรับให้เครื่องสำอางของเธอสามารถใช้ได้ทุกเพศสภาพ ผ่านภาพแคมเปญและการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ LGBTQIA+ มากมายหลายคน Fenty Beauty ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพียงแค่ปีแรกเท่านั้นสามารถสร้างกำไรได้มากกว่า 500 ล้านยูโร และยังส่งให้ Rihanna ขึ้นแท่นเศรษฐีพันล้านจากการทำธุรกิจบิวตี้นี้อีกด้วย ล่าสุดเธอได้ต่อยอดไลน์โปรดักต์มาที่สกินแคร์อย่าง Fenty Skin ที่ยังคงคอนเซปต์สกินแคร์ Unisex ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศเช่นเดิม 

 


 

 

LINGERIE BUSINESS

 

การมาของ Savage x Fenty ได้พลิกโฉมวงการชุดชั้นในไปตลอดกาลด้วยเช่นกัน เมื่อ Rihanna ต่อยอดแนวคิดความหลากหลายของเธอมาใช้กับแบรนด์ชุดชั้นในของตัวเอง แฟชั่นโชว์ของ Savage x Fenty สร้างแรงกระเพื่อมเรื่องความหลากหลายแบบสุดโต่ง เมื่อเธอเลือกใช้นางแบบตั้งแต่คนท้อง พลัสไซส์ ไปจนถึงทรานส์เจนเดอร์ ตอกย้ำว่าแบรนด์ของเธอเปิดรับมนุษย์ในทุกรูปแบบและไม่มีการแบ่งแยก ภาพลักษณ์สุดสตรองนี้สร้างผลกระทบต่อแบรนด์ชุดชั้นในอื่นๆ ที่นำเสนอความสวยแค่มิติเดียว จนกลายเป็นกระแสต่อต้าน ต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมด อีกหนึ่งเรื่องที่แหวกขนบของ Savage x Fenty นั่นก็คือการทำแฟชั่นโชว์ในรูปแบบการแสดงผ่านการร้อง เต้น และเดินแบบของนางแบบบนช่องทางสตรีมมิงของ Amazon Prime เปลี่ยนโฉมหน้าการทำแฟชั่นโชว์รูปแบบเดิมๆ และทำให้แบรนด์อื่นๆ เริ่มเล็งเห็นการทำการตลาดผ่านช่องทางสตรีมมิงบ้าง

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising