กระแสหุ้น IPO ปี 2565 ยังสดใสต่อเนื่องหลังจากที่มีหุ้นเข้าซื้อขายใน SET และ mai ไปแล้ว 4 บริษัทตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน และยังมีหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดย THE STANDARD WEALTH สำรวจพบว่า ภายในครึ่งปีแรกปี 2565 น่าจะมีหุ้น IPO เสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนประมาณ 7 บริษัท
7 บริษัทจ่อขาย IPO และเข้าซื้อขายภายในครึ่งปีแรก
โดยจากการสำรวจพบว่า 7 บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้น IPO และเข้าซื้อขายใน SET และ mai ภายในครึ่งปีแรกปี 2565 ประกอบด้วย
- บมจ.ฑีฆาก่อสร้าง หรือ TEKA เตรียมขายหุ้น IPO ไม่เกิน 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO โดย TEKA เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ โดยเป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการ ซึ่งครอบคลุมงานตั้งแต่งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม และงานระบบประกอบอาคาร
- บมจ.โชติวัฒน์อุตสาหกรรม หรือ CMCF เตรียมขายหุ้น IPO จำนวน 187.5 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO ทั้งนี้ CMCF เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องและถุงสุญญากาศ ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการแปรรูปอาหารทะเล และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
- บมจ.เอคอมเมิร์ซ กรุ๊ป หรือ ACOM เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 1,942.42 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 40% ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO โดย ACOM เป็น Holding Company ลงทุนในบริษัทย่อยทั้งในและต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการสนับสนุนการประกอบธุรกิจด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) อย่างครบวงจรรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- บมจ.ชิค รีพับบลิค หรือ CHIC จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 360 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ทั้งนี้ CHIC เป็นศูนย์รวมจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอน อย่างครบวงจร (One Stop Shopping) ในรูบแบบ Stand Alone ภายใต้ชื่อ ชิค รีพับบลิค (CHIC) และ รีน่า เฮย์ (Rina Hey)
- บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ หรือ TGE จะเสนอขายหุ้นไม่เกิน 600 ล้านหุ้น คิดเป็น 27.3% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO โดย TGE ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน
‘TLI – BBGI’ เข้าข่าย IPO ไซส์ใหญ่สุดรอบนี้
- บมจ.ไทยประกันชีวิต หรือ TLI มีแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 2,384.31 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 20.6% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ประกอบด้วย
- หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท ไม่เกิน 1,000 ล้านหุ้น
- หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (บริษัท วี.ซี.สมบัติ จำกัด) ไม่เกิน 1,218.81 ล้านหุ้น
- หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (Her Sing (H.K.) Limited) ไม่เกิน 165.50 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) จำนวนไม่เกิน 322.54 ล้านหุ้น (คิดเป็นไม่เกิน 13.50% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด)
TLI ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตแห่งแรกในประเทศไทย ที่เป็นของคนไทยและก่อตั้งโดยคนไทย ภายใต้แบรนด์ไทยประกันชีวิต มีผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ประเภทบุคคลและประเภทกลุ่ม
- บมจ.บีบีจีไอ หรือ BBGI เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 433.20 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง IPO โดย BBGI อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) จำนวนไม่เกิน 43.32 ล้านหุ้น (คิดเป็นไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด)
ทั้งนี้ BBGI เป็น Holding Company ที่ประกอบธุรกิจดังต่อไปนี้
- ธุรกิจหลักคือธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (Bio-Based Product) ประเภทผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) ได้แก่ เอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้
- ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Value Bio-Based Products) ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพ (Health and Well-Being Products) ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
BBGI จ่อเปิดจองซื้อหุ้น IPO ต้นเดือนมีนาคม
บุษราภรณ์ จันทร์ชูเชิด รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ จํากัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ BBGI กล่าวว่า จะสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BBGI ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 433.20 ล้านหุ้น ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2565 หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้ว โดย BBGI จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
นักลงทุนรุ่นใหญ่มอง IPO ขึ้น-ลงตามตลาด
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investor) กล่าวว่า กระแสหุ้น IPO มักจะขึ้นอยู่กับบรรยากาศการซื้อขายในตลาดรวม โดยหากตลาดหุ้นอยู่ในทิศทางขาขึ้น มีสภาพคล่องสูง มีการเก็งกำไรสูง หุ้น IPO ส่วนมากจะปรับตัวดีขึ้นค่อนข้างสูง ในทางกลับกัน หากตลาดหุ้นรวมซบเซา สภาพคล่องน้อย หุ้น IPO ก็จะปรับตัวต่ำลงจากราคาจองซื้อ
นอกจากนี้ ขนาดของหุ้น IPO และภาพรวมอุตสาหกรรมก็จะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น IPO ช่วงที่เข้าซื้อขายแรกๆ ด้วยเช่นกัน
“ส่วนตัวมองหุ้น IPO ว่าเป็นหุ้นที่มีแรงเก็งกำไรค่อนข้างมาก ซึ่งสะท้อนว่าราคาหุ้นไม่ได้อยู่ในระดับที่ถูก แม้ว่าจะมีการกำหนดราคาจากที่ปรึกษาทางการเงินและให้ส่วนลดเอาไว้แล้ว แต่ทันทีที่เข้าซื้อขายและมีการเก็งกำไร ราคาหุ้นก็ไม่ได้สะท้อนพื้นฐานอีกต่อไป” ดร.นิเวศน์กล่าว
แนะมองพื้นฐานระยะยาวก่อนเข้าลงทุน
วิชัย วชิรพงศ์ หรือ เสี่ยยักษ์ หนึ่งในนักลงทุนรุ่นใหญ่ของตลาดหุ้นไทย กล่าวว่า เมื่อภาพรวมตลาดหุ้นดี มีสภาพคล่องสูง หุ้น IPO มักจะมี Performance ที่ดีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาแนวโน้มธุรกิจและการเติบโตของอุตสาหกรรมด้วย เพราะหากไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ท้ายสุดแล้วราคาหุ้น IPO นั้นๆ ก็ปรับลดลงท้ายที่สุด
สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทยตอนนี้ ส่วนตัวยังมีความกังวล เพราะที่ผ่านมาดัชนีปรับเพิ่มขึ้นรวดเร็วจากแรงหนุนของ Fund Flow ต่างประเทศเป็นหลัก แต่ภาพเศรษฐกิจจริงของไทยอาจจะไม่ได้ฟื้นตัวรวดเร็วเหมือนที่หลายฝ่ายคาดการณ์ เพราะบาดแผลทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิดนั้นค่อนข้างรุนแรง และเท่าที่ติดตามข่าวสารปัจจุบัน พบว่าหลายภาคส่วนยังไม่ได้รับการเยียวยาดูแล จึงคาดหวังถึงการฟื้นตัวได้ยาก ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้ยังไม่ได้สะท้อนอยู่ในดัชนีหุ้นไทยในปัจจุบันเลย
“หุ้น IPO กระแสจะดีถ้าตลาดหุ้นอยู่ในสภาวะขาขึ้นชัดเจน ด้วยข้อได้เปรียบจากราคา IPO ที่มักจะมีส่วนลดจากราคาตลาดประมาณ 10-20% และเมื่อเข้าซื้อขายแล้วก็จะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาหนุนราคาให้ปรับเพิ่มขึ้นไปอีกในระยะแรกๆ แต่ส่วนตัวยังมีความกังวลเรื่องสภาพคล่องและพื้นฐานเศรษฐกิจจริงของไทยอยู่ และถ้าภาพรวมตลาดเริ่มรับรู้ความกังวลเรื่องบาดแผลทางเศรษฐกิจและเริ่มปรับฐานลง กระแสหุ้น IPO ก็จะกลับทิศไปด้วย” เสี่ยยักษ์กล่าว
สำรวจความพร้อมหุ้น IPO พบ 7 หุ้นเตรียมเสนอขาย IPO และเข้าซื้อใน SET และ mai ภายในครึ่งปีแรก ปี 2565 โดยหุ้นไทยประกันชีวิตและบีบีจีไอ มีขนาดใหญ่สุดและจัดสรรหุ้นส่วนเกินไว้รองรับความต้องการนักลงทุน
ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ