‘การจัดส่งแบบเดลิเวอรี’ กลายมาเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิที่ 7-Eleven ไม่ลุยไม่ได้แล้ว รายงานจาก Nikkei Asia ชี้ว่า ยักษ์ร้านสะดวกซื้อของแดนซามูไรวางแผนที่จะให้บริการส่งอาหารและนมถึงหน้าบ้านภายใน 30 นาที จากร้าน 20,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมภายในปีงบประมาณ 2026 โดยนอกจากเพิ่มรายได้แล้ว อีกนัยที่ซ่อนอยู่คือ การเข้ามาแข่งกับยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซเช่น Amazon.com
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตกต่ำของตลาดร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น ข้อมูลจาก Nikkei Asia ระบุถึงยอดขายทั่วทั้งอุตสาหกรรมลดลง 6.1% มาอยู่ที่ประมาณ 11.8 ล้านล้านเยนในปี 2020 ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1981
ในขณะเดียวกันตลาดอีคอมเมิร์ซของญี่ปุ่นเติบโตขึ้น 22% มาอยู่ที่ประมาณ 12.2 ล้านล้านเยน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคที่อยู่บ้านที่เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้ยอดขายอีคอมเมิร์ซแซงหน้าร้านสะดวกซื้อเป็นครั้งแรกในปี 2020
Seven & i Holdings ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ 7-Eleven วาดฝันว่า การจัดส่งถึงหน้าบ้านจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มให้บริการจัดส่งจากร้านค้าประมาณ 550 แห่งในจังหวัดโตเกียว ฮอกไกโด และฮิโรชิมะ ก่อนจะขยายไปสู่ทั่วประเทศในเร็ววันนี้
“ร้านค้าไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดเก็บสินค้าคงคลังด้วย” ริวอิจิ อิซากะ ประธานของ Seven & i กล่าวกับ Nikkei Asia “บริการสามารถขยายได้ในเวลาอันสั้นโดยไม่ต้องลงทุน”
ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน มีอาหารและผลิตภัณฑ์ประจำวันให้เลือกประมาณ 3,000 รายการ การซื้อทุกครั้งควรมีมูลค่ามากกว่า 1,000 เยน โดยมีค่าธรรมเนียมจัดส่งเพิ่มเติม 330 เยน บริการนี้จะเปิดจนถึงเวลา 23.00 น. และคาดว่าแต่ละร้านจะมีรัศมีการจัดส่งประมาณ 500 เมตร แต่อาจขยายได้ขึ้นอยู่กับความต้องการ
พนักงานของ 7-Eleven จะไม่ได้เป็ผู้ทำหน้าที่ไปส่งด้วยตัวเอง แต่จะผ่านบริษัทภายนอกซึ่ง 7-Eleven ได้สร้างความร่วมมือกับบริษัทโลจิสติกส์ประมาณ 10 แห่งแล้ว ขณะเดียวกันตัวบริษัทได้พัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางและประสานงานระหว่างผู้ขับขี่
ปัจจุบันร้านแต่ละแห่งที่เปิดให้บริการแบบเดลิเวอรีมีลูกค้าใช้บริการเพียงไม่กี่ครั้งต่อวัน 7-Eleven คาดหวังว่า จะเพิ่มการใช้งานเป็น 15 ครั้งต่อวันหรือมากกว่า ผ่านการขยายบริการไปทั่วประเทศทำการตลาดเพื่อให้ผู้คนรู้เรื่องนี้มากขึ้น
ขณะเดียวกันนอกเหนือจาก 7-Eleven แล้ว คู่แข่งอย่าง Lawson ก็ได้ให้บริการผ่านเดลิเวอรีเช่นกัน ปัจจุบันมีร้านทั้งสิ้น 2,000 แห่ง ใน 32 จังหวัด ซึ่งให้บริการผ่าน Uber Eats โดย Lawson วางแผนจะเพิ่มจำนวนร้านค้าเป็น 3,000 แห่งภายในปีงบประมาณ 2022
อ้างอิง:
