เราอยากเริ่มต้นบทความนี้ด้วยคำถามความรู้รอบตัว ชวนคุณมาลับสมองกันเสียหน่อย 

รู้หรือไม่ว่า ‘เครื่องปรับอากาศ (แอร์) เครื่องแรกของโลก’ เกิดขึ้นในปีใด ที่ประเทศใด และด้วยสาเหตุใด

.

..

…

(หมดเวลา)

หมุนเข็มนาฬิกาทวนย้อนกลับหลังไปไกลถึงปี 2445 (1902) หรือเมื่อประมาณ 120 ปีที่แล้ว นั่นคือช่วงเวลาเดียวกับวินาทีที่ Willis Haviland Carrier วิศวกรชาวอเมริกันวัย 25 ปี ได้คิดค้น ‘เครื่องปรับอากาศ’ เครื่องแรกของโลกได้สำเร็จ ที่โรงพิมพ์ Sackett – Wilhelms Lithographing & Publishing ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ความตั้งใจของ Willis Haviland Carrier ในการพัฒนาเครื่องปรับอากาศขึ้น ก็เพื่อต้องการลดความชื้นและควบคุมอุณหภูมิในอากาศภายในโรงพิมพ์ เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นในอากาศที่เหมาะสมถือเป็น ‘หัวใจสำคัญ’ ในการรักษาคุณภาพของกระดาษให้คงที่ และการช่วยรักษาตำแหน่งของน้ำหมึกไม่ให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

13 ปีให้หลัง Willis Haviland Carrier ได้ก่อตั้งบริษัท Carrier Engineering Corporation ร่วมกับวิศวกรอีก 6 คน พร้อมผลิตเครื่องปรับอากาศออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดภายใต้แบรนด์ ‘แคเรียร์ (Carrier)’

Willis Haviland Carrier วิศวกรชาวอเมริกัน บิดาแห่งเครื่องปรับอากาศ

จากจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรม สิ่งประดิษฐ์ของแคเรียร์ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้ไปโดยสิ้นเชิง (โดยเฉพาะหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้ และได้ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศมาช่วยบรรเทา) จนทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น ‘บิดาแห่งเครื่องปรับอากาศ’ เช่นเดียวกับนิตยสาร TIME ที่ได้ขนานนามให้เขาเป็นบุคคลที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลก

และหากนับปี 2565 นี้ ก็จะถือเป็นช่วงเวลาครบรอบ 60 ปีพอดิบพอดีที่แคเรียร์ได้เข้ามาทำตลาดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัท บี.กริมแอนโก จำกัด ซึ่งได้รับสิทธิ์จำหน่ายเครื่องปรับอากาศแบรนด์แคเรียร์อย่างเป็นทางการ (เริ่มจำหน่ายในปี 2505)

เครื่องปรับอากาศแบรนด์แคเรียร์ได้ชื่อว่าเป็น ‘เครื่องปรับอากาศเครื่องแรกในไทย’ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังถูกติดตั้งที่ศาลาเฉลิมกรุง 

เพราะอะไรแบรนด์แคเรียร์ โดยบริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บี.กริม แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ถึงสามารถหยัดยืนส่งต่อความเย็นฉ่ำให้กับผู้ใช้งานในไทยมานานถึง 60 ปี 

หัวใจสำคัญที่พวกเขายึดมั่นในการทำธุรกิจอย่างแน่วแน่มาโดยตลอด จนได้รับความไว้วางใจจากรุ่นสู่รุ่น นับตั้งแต่วันที่กลายเป็นเครื่องปรับอากาศเครื่องแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถูกติดตั้ง ณ ศาลาเฉลิมกรุง คืออะไร?

เปลี่ยนจาก ‘เครื่องพิมพ์’ เป็น ‘ผู้คน’ แต่ ‘ความไว้วางใจ’ ยังเป็นสิ่งสำคัญไม่เคยเปลี่ยน

ขึ้นชื่อว่าเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้านั้นๆ เป็นสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความซับซ้อนสูง ดังนั้น Trust หรือความไว้วางใจ จึงเป็นหนึ่งในแกนหลักสำคัญที่แคเรียร์ยึดถือและเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด

ไม่ใช่แค่ส่งมอบเครื่องปรับอากาศที่ได้มาตรฐาน ทนทาน มีประสิทธิภาพการทำความเย็นในระดับที่เย็นฉ่ำ สบายใจ และช่วยให้คุณคลายเหนื่อยจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี แต่เพราะแคเรียร์และบี.กริม มองขาดถึงบริการก่อน-หลังการขาย และการรับประกันสินค้าที่จะต้องทำให้ผู้บริโภคเย็นกายแต่อุ่นใจในทุกครั้งที่พวกเขาเปิดเครื่องปรับอากาศของแคเรียร์ใช้งาน

ไม่แปลกที่แม้ว่าในตอนต้น ถึงแคเรียร์จะเริ่มจากเป้าหมายการยกระดับประสิทธิภาพให้เครื่องพิมพ์ในโรงงานสามารถเดินหน้าทำงานได้ดี ไม่มีข้อบกพร่อง แต่เมื่อเปลี่ยนมาพัฒนาเครื่องปรับอากาศสำหรับช่วยคลายร้อน ควบคุมอุณหภูมิในบ้านเรือน ออฟฟิศ และสถานที่ต่างๆ แต่เครื่องปรับอากาศของแคเรียร์ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานเสมอ 

ตัวอย่างเช่น การที่ปัจจุบันนอกเหนือจากการรับฟีดแบ็กของผู้ใช้งานเครื่องปรับอากาศแคเรียร์ที่เกิดขึ้นจากช่องทางต่างๆ แล้ว แคเรียร์ประเทศไทยยังได้ยกระดับระบบคอลเซ็นเตอร์ของตัวเอง ให้สามารถรวบรวมและจัดการคำขอรับบริการจากหลากหลายช่องทาง (Omni-Channel) เข้ากับฐานข้อมูลของลูกค้า เพื่อให้พวกเขาสามารถให้บริการผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และติดตามงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

เรียกได้ว่าต่อให้กาลเวลาจะผ่านไปแค่ไหน แต่เจตนารมณ์ของแคเรียร์ในการยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คน ผ่านผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ควบคู่ไปกับการสร้างความไว้วางใจ ก็จะยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง พิสูจน์ให้เห็นได้จากความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการนำเสนอประสบการณ์ที่ ‘ดีกว่า’ ให้กับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา

‘สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น’ บี.กริม-แคเรียร์ สู่การไม่หยุดพัฒนาตัวเองและนวัตกรรมใหม่ๆ

แม้ว่าจะดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 60 ปี ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมาหลายช่วงอายุ จากคุณภาพของผลิตภัณฑ์และชั่วโมงบินที่สูงในการดูแลประสบการณ์ก่อนและหลังการใช้เครื่องปรับอากาศของผู้บริโภคทุกคนให้เป็นไปด้วยความประทับใจ

แต่ลำพังแค่องค์ประกอบข้างต้นอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแบรนด์ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จได้ในปัจจุบันต้องรู้จักที่จะมองหา ‘น่านน้ำใหม่ๆ’ หรือโซลูชัน นวัตกรรมใหม่ๆ ที่แตกต่างออกไป เพื่อสร้างจุดต่างให้กับแบรนด์ของตัวเองอยู่เสมอ 

และถ้าจะให้ดี ยั่งยืน ครองใจผู้บริโภคได้เหนียวแน่นและยาวนาน นวัตกรรมหรือสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นที่นำเสนอก็ควรจะเกี่ยวข้อง มีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของลูกค้า ผู้คน หรือสังคมให้ได้ด้วย

ทั้งการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และการช่วยให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดี จึงถือเป็นหลักปรัชญาที่แคเรียร์ค่อนข้าง ‘แคร์’ มากเป็นพิเศษ ทั้งยังเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้แคเรียร์และบี.กริม กลายเป็นพันธมิตรที่จับมือกันได้อย่างเหนียวแน่นมาตลอด 6 ทศวรรษ

ครั้งหนึ่ง ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบี.กริม เคยบอกเอาไว้ว่า สาเหตุที่ทั้งสองบริษัทมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเช่นนี้เนื่องจากทั้งบี.กริม และแคเรียร์ ต่างก็ทำธุรกิจด้วยแนวคิดเดียวกัน นั่นคือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ช่วยให้ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

“บี.กริม ได้รวบรวมนวัตกรรมจากแคเรียร์และทุกบริษัทภายในเครือ ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ IoT มาใช้พัฒนาโซลูชัน เพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดี (Energy-Efficient and Healthy Living Solution) เช่น ระบบปรับอากาศประหยัดพลังงาน พร้อมด้วยระบบกำจัดเชื้อโรคที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 และ COVID-19 สะดวกสบายด้วยฟังก์ชันในการควบคุมและเช็คค่าไฟแบบเรียลไทม์จากที่ใดก็ได้ ทำให้สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อย่างลงตัว ซึ่งมีเพียงแคเรียร์เท่านั้นที่ทำได้”

“รวมถึงการพัฒนาระบบอื่นๆ เช่น ระบบคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสามารถรวบรวมและจัดการคำขอรับบริการจากหลากหลายช่องทาง (Omni-Channel) และการพัฒนาระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ (District Cooling System) สำหรับเมืองอัจฉริยะ”

ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม

สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโซลูชัน นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทางบี.กริม และแคเรียร์ ต่างก็พัฒนา เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ของพวกเขา

เท่านั้นยังไม่พอ อีกด้านที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาเป็นผู้นำ มองลึก อ่านขาด ถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลาคือการหันมาโฟกัสด้านการออกแบบเครื่องปรับอากาศเพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์และการตกแต่งภายในบ้าน โดยการส่งเครื่องปรับอากาศแคเรียร์แบบติดผนัง รุ่น Color Smart ที่สามารถเปลี่ยนลวดลายบนหน้ากากผ้า Magic Color แบบ Personalization ตามความชื่นชอบของผู้ใช้งานแต่ละคนได้มาถึง 40 แบบ และรุ่น XInverter Plus ซึ่งมีดีไซน์ให้เลือกถึง 5 สีตามการตกแต่งภายในห้อง เหมาะสำหรับผู้ต้องการมีพื้นที่ในไลฟสไตล์แบบของตัวเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้ง ‘ความเข้าใจ’ ในพฤติกรรมผู้บริโภคชนิดทะลุปรุโปร่งเลยก็ว่าได้

เครื่องปรับอากาศแคเรียร์แบบติดผนัง รุ่น Color Smart ที่สามารถเปลี่ยนลวดลายบนหน้ากากผ้า Magic Color ได้สูงสุดถึง 40 แบบ

60 ปีที่ผ่านมาของแคเรียร์ จึงไม่ใช่แค่เลขปีที่บอกแค่เรื่องความยาวนาน ความเก๋า และการยืนระยะของแบรนด์เพียงเท่านั้น 

แต่เพราะทั้งหมดคือระยะเวลาที่แคเรียร์มุ่งหวังที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้บริโภคคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการไม่เคยหยุดนิ่งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พัฒนานวัตกรรมพลิกโลกออกมา และสร้างความไว้วางใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ของแคเรียร์ด้วยประสบการณ์ที่ดี ประทับใจ และไม่เปลี่ยนแปลง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่