“คุณจะมาช่วยหนูไหม? หนูกลัวมาก”
นี่คือส่วนหนึ่งในคำอ้อนวอนสุดท้ายจาก ไฮนด์ ราจาบ (Hind Rajab) เด็กหญิงปาเลสไตน์วัย 6 ขวบ ที่ขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่สภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ (Palestine Red Crescent Society: PRCS) เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 มกราคม หลังจากรถที่เธอนั่งมาพร้อมกับป้า ลุง และลูกพี่ลูกน้องอีก 3 คนเพื่อหนีออกจากเมือง ถูกรถถังอิสราเอลโจมตีจนทำให้คนในรถทั้งหมดยกเว้นเธอเสียชีวิต ก่อนที่สายจะตัดไปโดยไม่ทราบชะตากรรมของเด็กหญิง
ล่าสุด วานนี้ (10 กุมภาพันธ์) PRCS และครอบครัวของเด็กหญิงราจาบ ยืนยันว่าพบศพของไฮนด์และคนในรถทั้งหมดรวม 7 คน พร้อมกับศพของเจ้าหน้าที่แพทย์ 2 คนของ PRCS ที่ถูกส่งไปตามหาพวกเขา โดยรถของเด็กหญิงมีร่องรอยกระสุนปืนอยู่เต็มไปหมด
แถลงการณ์ของ PRCS ระบุว่า “ผู้ยึดครอง (อิสราเอล) จงใจพุ่งเป้าโจมตีไปที่รถพยาบาลเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่าอยู่ห่างจากยานพาหนะที่เด็กหญิงติดอยู่เพียงไม่กี่เมตร
“แม้จะมีการประสานงานล่วงหน้าเพื่อให้รถพยาบาลไปถึงสถานที่เพื่อช่วยเหลือเด็กหญิง แต่อิสราเอลก็จงใจพุ่งเป้าไปยังรถพยาบาลของสภาเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์”
เกิดอะไรขึ้น?
วิสซาม (Wissam) แม่ของเด็กหญิงไฮนด์ เล่าว่าในเช้าวันเกิดเหตุนั้น กองทัพอิสราเอลบอกให้ผู้คนอพยพไปทางตะวันตกของเมือง และเดินทางลงใต้ไปตามถนนแนวชายฝั่ง
โดยเธอจำได้ว่ามีการโจมตีอย่างหนักในพื้นที่ จนทำให้พวกเธอต้องหนีและตัดสินใจจะไปหลบในโรงพยาบาลทางตะวันออกของเมืองซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ปลอดภัย โดยวิสซามและลูกคนโตของเธอเดินเท้าและให้ไฮนด์นั่งไปในรถกับลุงและป้า ซึ่งหลังจากที่รถแล่นออกไปไม่นานก็มีเสียงยิงโจมตีดังขึ้นในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ลุงขับรถไปทางมหาวิทยาลัย al-Azhar และเผชิญหน้ากับรถถังของกองทัพอิสราเอลอย่างไม่คาดคิด ก่อนที่จะตัดสินใจจอดอยู่ข้างสถานีน้ำมันเพื่อความปลอดภัย แต่กลับถูกโจมตีจนทำให้คนในรถต้องพยายามโทรขอความช่วยเหลือจากญาติและสำนักงาน PRCS ที่อยู่ในเขตเวสต์แบงก์ ห่างไป 80 กิโลเมตร
กระทั่งประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ของ PRCS ในเมืองรามัลเลาะห์ ได้โทรศัพท์กลับมาที่โทรศัพท์มือถือลุงของไฮนด์ แต่เป็น ลายัน บุตรสาววัย 15 ปีที่รับโทรศัพท์ โดยเธอบอกเจ้าหน้าที่ว่าพ่อแม่และพี่น้องของเธอเสียชีวิตหมดแล้ว และมีรถถังอยู่ข้างๆ รถ ‘พวกเขากำลังยิงใส่เรา’ ก่อนที่การสนทนาจะจบลงด้วยเสียงปืนและเสียงกรีดร้อง
จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ PRCS โทรติดต่ออีกครั้ง เป็นเด็กหญิงไฮนด์ที่รับสาย ซึ่งเสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่รู้สึกได้ชัดเจนว่าอยู่ในความหวาดกลัวอย่างมาก
หลังจากพูดคุยได้สักพัก จึงทราบว่าไฮนด์เป็นคนเดียวในรถที่รอดชีวิต และยังตกอยู่ท่ามกลางการโจมตี
“ซ่อนอยู่ใต้เบาะ” เจ้าหน้าที่ PRCS บอกเธอ “อย่าให้ใครเห็นหนูนะ”
โดยเจ้าหน้าที่โทรศัพท์สอบถามและพยายามปลอบเด็กหญิงอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง ขณะที่ PRCS พยายามประสานไปยังกองทัพอิสราเอลให้อนุญาตให้รถพยาบาลของพวกเขาเข้าถึงสถานที่เกิดเหตุได้ ก่อนที่เหตุการณ์จะจบลงตามที่ปรากฏ
“เราได้มีการประสานงาน เราได้ไฟเขียวแล้ว” นีบาล ฟาร์ซัค โฆษกหญิงของ PRCS เผยต่อผู้สื่อข่าวของ BBC “เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าพวกเขาสามารถมองเห็นรถที่ไฮนด์ติดอยู่ และพวกเขาก็เห็นเธอด้วย แต่สิ่งสุดท้ายที่เราได้ยินคือเสียงปืนที่ดังขึ้นต่อเนื่องกัน”
ภาพ: Palestine Red Crescent Society / Family Handout via REUTERS
อ้างอิง: