ทางการสหรัฐฯ รายงานว่ามีผู้สูญหาย 6 คน และสันนิษฐานว่าอาจเสียชีวิตแล้ว จากเหตุเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ชนสะพานข้ามแม่น้ำ Francis Scott Key ในเมืองบัลติมอร์เมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ (26 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น จนเป็นเหตุให้สะพานถล่มและมีรถยนต์หลายคันพร้อมคนอีกอย่างน้อย 8 คนตกลงไปในแม่น้ำ
เบื้องต้นพบว่าผู้สูญหายทั้ง 6 คนเป็นกลุ่มคนงานที่กำลังซ่อมผิวถนนบนสะพาน โดยขณะเกิดเหตุคาดว่ามีรถยนต์อย่างน้อย 5 คัน และคนอีก 8 คนอยู่บนสะพาน ซึ่ง 2 คนรอดชีวิตหลังได้รับความช่วยเหลือขึ้นจากน้ำ แต่ 1 คนอาการสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐแมริแลนด์ ระบุว่า แทบไม่มีโอกาสที่ผู้สูญหายทั้ง 6 คนจะสามารถมีชีวิตรอด เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำที่เย็นจัดประกอบกับระยะเวลาหลังจากเกิดเหตุที่ผ่านไปค่อนข้างนาน
ขณะที่ทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเรือและเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยนานกว่า 18 ชั่วโมง ก่อนจะระงับการค้นหา
ยกย่อง ‘ฮีโร่’ หยุดรถข้ามสะพานก่อนเรือชน
สำหรับเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือสัญชาติสิงคโปร์ ชื่อว่าเรือต้าหลี่ (Dali) ความยาว 288.95 เมตร ซึ่งอยู่ระหว่างออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังศรีลังกา โดยช่วงที่เกิดเหตุนั้นถูกเช่าใช้งานโดยบริษัท Maersk
หลังเดินทางออกจากท่าเรือได้เพียงไม่นาน ปรากฏว่าเรือเกิดปัญหาขัดข้องด้านพลังงานจนทำให้ไฟฟ้าดับ เครื่องยนต์ไม่ทำงาน และเรือสูญเสียการควบคุม
ขณะที่ความพยายามของลูกเรือในการซ่อมระบบพลังงานไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ลูกเรือตัดสินใจแจ้งเตือนไปยังทางการก่อนที่เรือจะชนสะพานเพียงไม่นาน โดยเรือแล่นด้วยความเร็ว 8 น็อต หรือประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานขนส่งรัฐแมริแลนด์ได้รีบแจ้งไปยังตำรวจจนสามารถหยุดไม่ให้รถข้ามสะพาน ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 90 วินาที สะพานก็พังถล่มลงมา
เวส มัวร์ ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังเกิดเหตุ พร้อมกล่าวยกย่องลูกเรือและเจ้าหน้าที่ขนส่งรัฐแมริแลนด์ว่าเป็น ‘ฮีโร่’ จากการที่รีบแจ้งเตือนและหยุดรถไม่ให้ข้ามสะพานได้ทัน ทำให้ช่วยชีวิตผู้คนได้จำนวนมาก
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้แถลงที่ทำเนียบขาว ชื่นชมการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ยามฝั่งที่ส่งเจ้าหน้าที่เข้าค้นหาและกู้ภัยอย่างรวดเร็วหลังได้รับแจ้งเหตุ และยกย่องเจ้าหน้าที่ขนส่งรัฐแมริแลนด์ที่ปิดการจราจรบนสะพานและช่วยชีวิตผู้คนได้ทัน
โดยไบเดนยืนยันว่าจะเดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด และแสดงความต้องการให้รัฐบาลกลางรับผิดชอบในการสร้างสะพานขึ้นใหม่
“ผมกำชับทีมเจ้าหน้าที่ของผมให้ดำเนินการทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อเปิดท่าเรืออีกครั้งและสร้างสะพานใหม่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ไบเดนกล่าว
ทางด้าน เจนนิเฟอร์ โฮเมนดี (Jennifer Homendy) ประธานคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า ทีมสืบสวน 24 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ อยู่ในที่เกิดเหตุแล้วเพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ สะพาน Francis Scott Key เปิดใช้งานมานาน 47 ปี โดยเป็นสะพานหลักที่ประชาชนในบัลติมอร์ใช้เดินทาง ซึ่งมีปริมาณการจราจรของรถยนต์ถึง 31,000 คันต่อวัน หรือ 11.3 ล้านคันต่อปี
โดยเรือสินค้าลำที่เกิดเหตุ พบว่าเคยเกิดเหตุชนกับท่าเรือในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม ขณะพยายามออกจากท่าเทียบเรือเมื่อปี 2016
โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ Equasis ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรือสินค้า ระบุว่า เรือต้าหลี่ได้เข้ารับการตรวจสอบล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ที่เมืองซานอันโตนิโอ ประเทศชิลี พบว่ามีความบกพร่องด้าน ‘กลไกขับเคลื่อนและเครื่องจักรเสริม’ ของเรือ
ภาพ: NTSB/Handout via REUTERS
อ้างอิง:
