หลังจากเมื่อคืน (4 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยทีมงาน แถลงข่าวหลังการประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. ของพรรค โดยที่ประชุมมีมติร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐ หลังจากการโหวตภายในพรรคมีมติเอกฉันท์ที่ 61 ต่อ 16
โดยในระหว่างที่ประชาธิปัตย์ออกมาแถลงร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐอยู่นั้น ก็มีความเคลื่อนไหวเล็กๆ จากสมาชิกที่ทยอยกันประกาศตัวขอยุติบทบาทการเป็นสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถึงตอนนี้มีสมาชิกที่ขอลาออกแล้วทั้งสิ้น 6 คน
เริ่มจาก สมชัย ศรีสุทธิยากร เป็นคนแรกที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยให้โอกาสลงรับสมัครเลือกตั้ง และให้การสนับสนุนต่างๆ ทำให้มีประสบการณ์ที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่าย แต่เมื่อแนวทางอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน คงขออนุญาตที่จะลาออกจากสมาชิกพรรคครับ”
นอกจากนี้ยังมีสมาชิกอีกหลายคนที่ออกมาโพสต์ข้อความขอยุติบทบาททางการเมืองร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม New Dem ไม่ว่าจะเป็น ทัดชนม์ กลิ่นชำนิม, นัฏฐิกา โล่ห์วีระพริษฐ์, รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ที่ต่างให้เหตุผลว่า หลักการทำงานของพรรคเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อตอนที่พรรคมีมติในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขัดกับอุดมการณ์ของพรรคอย่างชัดเจน
ขณะที่ ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 15 มีนบุรี/คันนายาว “ผมยินดีที่ได้รู้จักและร่วมงานกันกับทุกท่านนะครับ และต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่เลือกให้ผมในเขต 15 มีนบุรี/คันนายาว ร่วมถึงทุกคะแนนทั่วประเทศ สมาชิกพรรคทุกท่าน ในเมื่อคำพูดต้องเป็นคำพูด ผมขอยุติบทบาททางการเมืองไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ขอเป็นกำลังใจให้พรรคประชาธิปัตย์เสมอ และเชื่อในฝีมือของ ส.ส. และว่าที่ รมต. ทุกท่าน ว่าจะทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาติบ้านเมืองได้แน่นอน”
และคนล่าสุดที่ตบเท้าออกจากประชาธิปัตย์คือ พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม อดีตผู้สมัคร ส.ส. ประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่ม New Dem ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเองว่า “ณ วันนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
“ผมไม่มีคำอื่นที่จะบอกพวกท่านได้นอกจากคำว่า ‘ขอโทษ’ ผม ‘ขอโทษ’ ที่สิ่งที่ท่านได้ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านเลือก
“ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ผมพยายามอย่างเต็มที่ในการนำเสนอทางเลือกให้กับพรรค ที่ผมเชื่อว่าจะทำให้เราได้รักษาคำพูดที่เราให้ไว้กับประชาชน รักษาอุดมการณ์ดั้งเดิมของพรรค ซึ่งยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในชื่อของพรรค และสำคัญที่สุด รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ด้วยการนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าบนถนนสายประชาธิปไตย ที่มองเห็นคุณค่าที่เท่าเทียมกันของมนุษย์ ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบถ่วงดุล และการบริหารประเทศที่โปร่งใส และมีโอกาสสูงสุดในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ให้ดีกว่าที่ผ่านมา
“ผมพูดมาเสมอว่า ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ผมอยากเห็นพรรคมีความชัดเจน และเดินไปข้างหน้าอย่างมีเอกภาพพร้อมกันกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกคน
“แต่ในวันที่อุดมการณ์ของผม และอุดมการณ์ของพรรคแตกต่างกัน เพื่อรักษาหลักการว่าพรรคการเมืองควรเป็นพื้นที่ที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อลดความเสียหายที่คำพูดในอนาคตของผมอาจจะทำให้สังคมมองว่าพรรคไม่ชัดเจน และเพื่อให้พรรคถูกขับเคลื่อนโดยบุคลากรเก่งๆ หลายคนที่พร้อมเป็นตัวแทนของชุดความคิดพรรคในวันนี้
“ผมขอเคารพการตัดสินใจของพรรค ด้วยการยุติทุกบทบาททางการเมืองในนามพรรค และลาออกจากสมาชิกพรรค”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: