คนนิจิวะ! หลังจากที่ได้แต่เฝ้ามองภาพเก่าๆ ที่เคยถ่ายไว้หรือดูรีวิวท่องเที่ยวเก่าๆ ถึงเมืองต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นที่เซฟเอาไว้ ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศที่ผู้คนทั่วโลกคิดถึงมากที่สุดก็ได้เปิดประตูต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวอีกครั้งแล้ว
แน่นอนเราเชื่อว่าชาว THE STANDARD WEALTH เองก็คงมีจำนวนไม่น้อยที่รีบจัดแจงหาเที่ยวบินและที่พักเพื่อจะกลับไปหาญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากที่มีการปิดประเทศจากสถานการณ์โควิดมากว่าเกือบ 3 ปี และแต่ละคนก็คงมีสิ่งที่ได้พบได้เจอมาแชร์กันอย่างแน่นอน
แต่หนึ่งในคนที่ได้กลับไปญี่ปุ่นอีกครั้งและพบว่ามีความเปลี่ยนแปลงบางประการที่อาจจะทำให้ทุกคนประหลาดใจคือ ซุนเปียน นักเขียนชาวเกาหลีใต้ของเว็บไซต์ soranews24.com ที่ได้โอกาสกลับไปเยือนประเทศที่เขาใช้ชีวิตอยู่นานนับสิบปี และไม่เคยไปจากญี่ปุ่นนานเกินกว่าสัปดาห์เลยจนกระทั่งโควิดทำให้เขาไม่ได้กลับไปอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ราคาห้องพักและโรงแรมใน ญี่ปุ่น พุ่งขึ้นแล้ว 10-20% จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเงินเฟ้อ
- ร้านโอมากาเสะทั่วโลกขาดแคลน ‘เชฟซูชิชาวญี่ปุ่น’ แย่งตัวกันอุตลุด ยิ่งได้ภาษาจะถูกเสนอค่าจ้างสูงถึง 2.2 ล้านบาทต่อปี
- เงินเยน อ่อนค่า ใกล้กลับสู่จุดเดิม คาดญี่ปุ่นอาจไม่แทรกแซงอีกหลัง 2 หมื่นล้านดอลลาร์หายวับภายใน 2 สัปดาห์
เขาพบกับเรื่องราวน่าประหลาดใจเล็กๆ 5 อย่างที่อยากจะแบ่งปันกับทุกคน และเราก็ขอนำมาเล่าต่ออีกที เผื่อจะเป็นการเตรียมตัวสำหรับใครที่อยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่น
1. สารพัดตู้กด ช่วยลดการสัมผัส
ความจริงเรื่องตู้กดไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรสำหรับประเทศญี่ปุ่น (และความจริงบ้านเราก็เริ่มมีสารพัดตู้กดเหมือนกัน! มียันกดของเล่นคิดดู!) แต่ในเวลานี้ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นจะมีตู้กดเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมในช่วงยุคก่อนโควิดเสียอีก
คำว่าเพิ่มมากขึ้นนั้นไม่ได้หมายถึงแค่จำนวน แต่หมายถึงประเภทด้วย ยกตัวอย่างย่านไดคันยามา (Daikanyama) ย่านน่ารักกิ๊บเก๋ในโตเกียวนั้นมีตู้กดขายคาราเมลที่ตั้งอยู่หน้าร้านขายคาราเมลจริงๆ อีกที ซึ่งมันอาจจะดูแปลกนิดๆ หากเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ตู้กดแบบนี้ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่อุ่นใจขึ้นสำหรับลูกค้าที่ต้องการลดเลี่ยงการสัมผัสหรือเผชิญหน้ากับคนขาย (คนขายเองก็คงคิดเช่นเดียวกัน)
2. เข้าคิวตามระเบียบเป๊ะเหมือนเดิม
อีกเรื่องที่เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะทึ่งเสมอกับญี่ปุ่นคือการเข้าคิวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้คน ซึ่งแม้จะมีโควิดแต่ก็ไม่ได้ทำให้นิสัยเหล่านี้ของชาวญี่ปุ่นหายไปเลย ในทางตรงกันข้ามมันหยั่งรากฝังลึกราวกับอยู่ในโครโมโซมสักคู่
การเข้าคิวที่เป็นระเบียบเช่นนี้พบได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่สถานีรถไฟ บันไดเลื่อน หน้าร้านราเมน โดยที่ไม่มีใครกล้าลัดคิวใครเพราะทุกคนต่างเข้าคิวกันอย่างเท่าเทียม ไม่มีคำว่าวีไอพีแต่อย่างใด
3. เกาหลีฟีเวอร์
กระแสเกาหลีฟีเวอร์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทยหรือที่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ชาติที่ครั้งหนึ่งเคยแทบจะไม่เผาผีกันอย่างญี่ปุ่นเอง วัฒนธรรมแดนกิมจิก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นที่นี่
เห็นได้จากความนิยมของอาหารจากเกาหลีที่ถูกนำเข้ามาวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น ไม่ต้องลำบากลำบนไปถึงย่านชิน-โอคุโบ (Shin-Okubo) โคเรียนทาวน์ในโตเกียวเพื่อไปหาซื้อกิมจิหรือรามยอนอีกแล้ว
อยากกินอาหารเกาหลี อยากจิบโซจู? เชิญที่ดองกิโฮเต้ได้เลย!
4. สแกนจ่ายไม่ได้ทุกที่
ถึงเรื่องของสังคมไร้เงินสดจะกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงที่สุดโดยเฉพาะหลังโควิดเป็นต้นมา แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นแล้วที่นี่ยังไม่ได้เป็น Cashless Society ขนาดนั้น
กลับมาญี่ปุ่นรอบนี้คุณก็ยังต้องพกเงินสด พกเหรียญตุงกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม แม้ว่าจะมีความสะดวกสบายอย่างบัตร Suica ก็เถอะ แต่เมื่อเทียบกับการไม่ต้องพกอะไรไปเลยนอกจากสมาร์ทโฟนแล้วคอยสแกนจ่ายเงินแล้วเรื่องนี้ญี่ปุ่นยังสู้หลายๆ ประเทศไม่ได้
5. ข้าวของราคาไม่เปลี่ยน
ถึงแม้ว่าค่าครองชีพของชาวญี่ปุ่นเองจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ ราคาอาหารนั้นไม่ได้มีความรู้สึกแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงเรื่องค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์หรือสวนสนุกก็ตาม แม้แต่โตเกียวดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี ก็มีการลดราคาค่าตั๋วลงชั่วคราว 20% ในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อรวมกับเรื่องที่ค่าเงินเยนตกต่ำกว่าช่วงก่อนโรคระบาด ทำให้การกลับไปเยือนญี่ปุ่นคราวนี้จะพบว่าการกินอยู่ที่โน่นถูกลงอย่างน่าประหลาดใจ และยิ่งทำให้อยากย้ายมาอยู่ที่นี่เป็นการถาวรไปเลยจะได้ไหม
และทั้งหมดคือเรื่องราวเซอร์ไพรส์เล็กๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่นักเขียนจาก Soranews24 หยิบมาฝากกัน แต่หากชาว THE STANDARD WEALTH คนไหนเพิ่งไปญี่ปุ่นกลับมาแล้วเจออะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้ก็มาแบ่งปันเรื่องราวกันได้เลย
อาริกาโตะ โกไซมัส!
ภาพ: Buddhika Weerasinghe / Getty Images
อ้างอิง:
