×

หมักบ่มผลกำไรไว้ในขวดวิสกี้ ไปกับ ‘5 วิสกี้’ หายาก ราคาแรง

25.09.2021
  • LOADING...
Whiskey

ย้อนกลับไปในช่วงยุค 90 ไวน์คือของสะสมขวัญใจนักดื่มที่นิยมนำมาประมูลด้วยมูลค่าน่าเหลือเชื่อ แต่นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา วิสกี้หายากกลายเป็นดาวเด่นของสถาบันการประมูลต่างๆ

 

โดย Sotheby’s เปิดเผยว่า ในปี 2015 เติบโตขึ้นประมาณ 1% ของการประมูลเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกระโดดขึ้นเป็น 6% ในปี 2017 ส่วนในปี 2020 ก็พุ่งสูงขึ้นเป็น 18-19% ส่วนในแง่มูลค่าวิสกี้หายาก ก็มีมูลค่าสูงขึ้นถึง 478% ในรอบ 10 ปี จากการรายงานของ The Wealth Report  2021

   

วิสกี้ใน ‘เกรดสำหรับการลงทุน’ จะต้องมีปัจจัยพื้นฐาน 2 อย่าง นั่นก็คือความหายากและคุณภาพ ตัวอย่างวิสกี้ที่เป็นที่ต้องการของนักสะสมอย่างมากก็คือวิสกี้ที่เลิกผลิตไปแล้ว หรือมาจากโรงกลั่นในตำนานที่ปิดตัวลง อย่าง Port Ellen ในเขตไอลาย์ ที่ปิดตัวลงในปี 1983 โดยวิสกี้ที่ได้รับความสนใจจากนักสะสมมักมาจากสกอตแลนด์หรือญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน วิสกี้จากโรงกลั่นของสหรัฐฯ และไอร์แลนด์ก็เริ่มเป็นที่สนใจของนักสะสมด้วยเช่นกัน โดยในปี 2008 มีวิสกี้หายากประมาณ 12,000 รายการที่นักสะสมติดตามความเคลื่อนไหวราคาในตลาดรีเซล แต่ทุกวันนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 58 % ให้ติดตามเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม นั่นก็พอจะบ่งบอกถึงความร้อนแรงของตลาดวิสกี้หายากได้ดีทีเดียว 

 

สำหรับตลาดหลักของนักสะสมวิสกี้ตอนนี้ก็คือตลาดเอเชีย โดยเฉพาะในจีน ทั้งจากปัจจัยด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และความเชื่อที่ว่าวิสกี้เป็นตัวบ่งบอกถึงความพรีเมียมและรสนิยม อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนเศรษฐีที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ก็เป็นตัวเร่งให้วิสกี้หายากเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นด้วย 

 

ขณะเดียวกัน ตลาดสำคัญเดิมอย่างอังกฤษและสหรัฐฯ ก็ยังต้องการวิสกี้ระดับพรีเมียมอยู่เหมือนเดิม ส่วนสถิติที่น่าตื่นเต้นของวิสกี้หายากก็คือ ในเดือนตุลาคม 2019 The Macallan Fine and Rare 60 Year Old ทำสถิติสกอตช์วิสกี้ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ด้วยราคา 1.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 63.5 ล้านบาท) ด้วยคุณสมบัติคือเป็นวินเทจตั้งแต่ปี 1926 จากถังในตำนาน แถมในซีรีส์เดียวกันก็มีราคาทะลุหลักล้านดอลลาร์ทุกขวด ว่าง่ายก็คือราคาเท่ากับรถสปอร์ตหรูๆ 1 คัน…ว่าแต่ว่าคุณล่ะ กล้าดื่มไหม? 

 

The Balvenie 50 Year Old ราคาประมาณ 1.67 ล้านบาท 

 

Whiskey

 

วิสกี้หายากราคาต้องร้องว้าวขวดนี้ ทำจากมอลต์ในเขตสเปย์ไซด์ของสกอตแลนด์ หมักบ่มในถังไม้อเมริกันโอ๊ก มีกลิ่นของผลไม้ตระกูลส้ม กลิ่นหอมของโอ๊ก และอาฟเตอร์เทสมีกลิ่นน้ำผึ้ง รสชาติรสเผ็ดซ่าที่ปลายลิ้น ผลิตออกมาเพียง 110 ขวดเท่านั้น ราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 1.27 ล้านบาท 

 


 

Dalmore Constellation 1964 ราคาประมาณ 2.1 ล้านบาท 

 

Whiskey

 

วิสกี้เก่าแก่จาก Dalmore จากเขตไฮแลนด์ ขวดนี้มีความพิเศษอยู่ที่ความใส่ใจในรายละเอียด ทำให้รสชาติมีความซับซ้อน หมักบ่มในถังไม้เชอร์รี มีกลิ่นผลไม้และซินนามอน ถ้าคิดว่าซื้อขวดเดียวแพงแล้ว ถ้าขายเป็นคอลเล็กชันราคาอาจจะพุ่งสูงขึ้นไปถึง 11.7 ล้านบาทเลยทีเดียว

 


 

Black Bowmore 1964 50 Year Old The Last Cask ราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท

 

Whiskey

 

Black Bowmoreในซีรีส์แรก 30 Year Old เปิดตัวในปี 1994 มีราคาเพียงขวดละประมาณ 3,300 บาท แต่พอเวลาผ่านมา 20 กว่าปี ราคาดีดขึ้นไปสูงถึง 568,000 บาท ส่วนในซีรีส์ 50 Year Old ล็อตสุดท้ายผลิตออกมาในปี 2017 เพียง 159 ขวด มาพร้อมกับกลิ่นสับปะรดและผลไม้เมืองร้อน ซึ่งพบได้ยากจากวิสกี้ที่มาจากเขตไอลาย์ มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 835,000 บาท หลังจากนั้น 3 ปี ราคาก็เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า

 


 

Glenfiddich 1937 Rare Collection ราคาประมาณ 4 ล้านบาท

 

Whiskey

 

วิสกี้ตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบันเพียง 61 ขวดเท่านั้น ทำให้กลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังทำราคาสูงขึ้นจากครั้งแรกที่เปิดตัวในปี 2001 ถึงเกือบ 40 % เลยทีเดียว 

 


 

The Macallan Fine and Rare 60 Year Old ราคาประมาณ 63.5 ล้านบาท

 

Whiskey

 

ครองตำแหน่งวิสกี้ที่แพงที่สุดในโลกจากการประมูลโดยสถาบัน Sotheby’s ในลอนดอนเมื่อปี 2019 ด้วยราคาราวๆ 63.5 ล้านบาท ถือเป็นสุดยอดในคอลเล็กชันวิสกี้ในปัจจุบัน คาดว่าปัจจุบันมีอยู่เพียง 14 ขวด เก็บอยู่ในคอลเล็กชันส่วนตัวของนักสะสมวิสกี้ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก็มีการประมูลวิสกี้ในคอลเล็กชันนี้อีกครั้ง แต่ทำราคาไปได้เพียง 46.1 ล้านบาทเท่านั้น 

 

ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร 

อ้างอิง: 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising