×

เปิดประตูชม 5 โรงแรมเปิดใหม่ที่กรุงเทพฯ แม้ในวันไร้เงานักท่องเที่ยว แต่ละแห่งมีอะไรเด็ดให้ไปแฮงเอาต์ มาดูกัน

11.10.2020
  • LOADING...
เปิดประตูชม 5 โรงแรมเปิดใหม่ที่กรุงเทพฯ แม้ในวันไร้เงานักท่องเที่ยว แต่ละแห่งมีอะไรเด็ดให้ไปแฮงเอาต์ มาดูกัน

โรงแรมอาจไม่ได้หมายถึงแค่การไปนอนพักค้างคืน สำหรับหลายคนโรงแรมคือที่ตั้งของร้านอาหารคุณภาพ บาร์ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มชั้นดี หรือสถานที่พักผ่อนระหว่างวันท่ามกลางบรรยากาศที่บ้านมอบให้ไม่ได้ ดังนั้นในยามไร้เงานักท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้แหละที่จะนำเงินจากกระเป๋าพวกเราเข้าสู่อุตสาหกรรมโรงแรมในกรุงเทพฯ ได้ และในเมื่อสิ้นปีนี้มีโรงแรมเปิดใหม่ถึง 5 โรงแรมที่กรุงเทพฯ ถ้าเราไม่พาไปสำรวจว่าแต่ละแห่งมีจุดเด่นอะไรให้เลือกไปแฮงเอาต์ก็กระไรอยู่

 

Four Seasons Hotel Bangkok

 

Four Seasons Hotel Bangkok (Opening soon)

แบรนด์โรงแรมหรูสี่ฤดูจะกลับมาที่กรุงเทพฯ อีกครั้งในพื้นที่กว้างใหญ่กว่าเดิมที่ริมน้ำเจ้าพระยาสิ้นปีนี้ หลังจากได้เข้าไปเดินเยี่ยมชมก่อนใคร เราขอใช้คำว่า ‘สมศักดิ์ศรี’ แบรนด์สำหรับงานดีไซน์ที่นี่ เพราะเป็นการรวมเอา ‘Creme de la Creme’ หรือ ‘ที่สุดของที่สุด’ ในวงการออกแบบมาไว้ที่เดียวกัน ตั้งแต่ Jean-Michel Gathy ผู้ฝากผลงานออกแบบไว้กับ Aman หลายสาขาในโลก มาออกแบบตัวอาคารและพื้นที่โดยรวม Avroko บริษัทผู้เนรมิตความงามให้ Nanbei ที่ Rosewood Bangkok และ The Loft ที่ Waldorf Astoria Bangkok มาออกแบบ 2 ห้องอาหารหลัก และ Dong Sculpture ประติมากรไทยที่มาเติมงานประติมากรรมสะท้อนความเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาไว้ทั่วโรงแรม เป็นเหมือนเครื่องปรุงตบท้ายให้ความงามโดยรวมกลมกล่อมขึ้นอีก 

 

Four Seasons Hotel Bangkok

 

ไม่ใช่แค่เพียงโลเคชันที่ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดแม่น้ำ แต่ด้วยความตั้งใจของ Jean-Michel Gathy ตลอดเวลาที่เดินสำรวจโรงแรม เรารู้สึกได้ถึงองค์ประกอบของแม่น้ำที่แทรกตัวผ่านรายละเอียดทั่วโรงแรม แม้ในมุมที่มองไม่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาโดยตรง เช่น สระน้ำตกแต่งที่เชื่อมต่อกันเกือบทั่วทั้งโรงแรม งานศิลปะที่มีให้เห็นตั้งแต่บนผนังไปจนถึงบนเพดาน และ ต้นก้ามปู ต้นไม้ใหญ่คู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ถูกขุดมาปลูกหน้าทางเข้าโรงแรม 

 

โรงแรมยังมาพร้อมหลากหลายร้านอาหารเด่นตามคาด ทั้ง Yu Ting Yuan ห้องอาหารกวางตุ้งที่สร้างเลียนแบบสวนของจักรพรรดิ Brasserie Palmier บราสเซอรีแบบฝรั่งเศสที่สวยเปรี้ยวด้วยลูกเล่นการตกแต่งแบบอาร์ตเดโดผสมกลิ่นอายยุค 50 และ BKK Social Club บาร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเสน่ห์ของเมือง Buenos Aires สายกินดื่มจะพลาดได้อย่างไร?

 

300/1 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ​ 

www.fourseasons.com/bangkok

 

Capella Bangkok

 

Capella Bangkok

มาคู่กับ Four Seasons ในพื้นที่ริมน้ำเดียวกันและเจ้าของเดียวกัน แต่เปิดล่วงหน้าไปก่อนแล้ว คือแบรนด์โรงแรมสัญชาติสิงคโปร์แห่งนี้ที่สร้างความฮือฮาให้วงการโรงแรมกรุงเทพฯ ด้วยห้องพักแบบวิลล่าชิดริมน้ำเจ้าพระยา ให้อารมณ์ไม่ต่างอะไรกับรีสอร์ต การตกแต่งของที่นี่เน้นการหยิบเอาแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรมของถนนเจริญกรุง ถนนเส้นแรกของกรุงเทพฯ มาถ่ายทอด โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพระเอกหลักเช่นเดียวกัน ดังนั้นทุกห้องพักและวิลล่ารวม 101 ห้องถูกออกแบบให้หันหน้าออกเพื่อมองเห็นวิวแม่น้ำแบบชัดเจน 

 

Stella Bar at Capella Bangkok

 

แต่ถ้าตัดเรื่องห้องพักออกไป เหตุผลสำคัญที่ต้องไปเยือน Capella คือร้านอาหาร Côte by Mauro Colagreco ซึ่งเสิร์ฟอาหารสไตล์ริเวียราจากฝรั่งเศสและอิตาลี ภายใต้การนำของเชฟชาวอาร์เจนตินา เมาโร โกลาเกรโก เชฟเจ้าของร้านอาหาร Mirazur ในประเทศฝรั่งเศส รู้ไหมว่าร้านนี้ได้รับรางวัลร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2019 จาก World’s 50 Best Restaurants 2019 ด้วย ส่วนสายดื่มต้องมาลอง Stella ค็อกเทลบาร์ตกแต่งแพรวพราว ที่นอกจากจะเสิร์ฟค็อกเทลเคล้าดนตรีป๊อปแจ๊สแล้ว ยังออกแบบเซ็ตเมนูจับคู่เครื่องดื่มกับขนมหวาน สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในเวลาค่ำคืนได้ด้วย

 

300/2 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ​ 

www.capellabangkok.com

 

Kimpton Maa-Lai Bangkok

 

Kimpton Maa-Lai Bangkok 

หลายคนคงรู้จักแบรนด์โรงแรมอย่าง InterContinental และ Holiday Inn ดีในนามลูกบ้านเครือ IHG แต่ในเครือยังมีอีกแบรนด์บูติกอย่าง Kimpton ซึ่งเคลมว่าเน้นดีไซน์เทรนดี้และประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับแขก และคงไม่แปลกนักถ้าชื่อนี้อาจยังไม่เป็นที่คุ้นเคยในบ้านเรา เพราะที่นี่เป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนหน้าคงเป็นสาขาไทเปที่ใกล้ที่สุด 

 

Bar.Yard at Kimpton Maa-Lai Bangkok

 

มีอะไรน่าสนใจที่นี่? นอกจากห้องพักตกแต่งแบบโมเดิร์นที่มาพร้อมวิวเขียวชอุ่มของสวนลุมพินีและความเป็นโรงแรม Pet-Friendly ถ้าจะยกให้เป็นแหล่งแฮงเอาต์ใหม่กลางเมืองสำหรับคนชอบดื่มก็คงไม่ผิด เพราะตั้งแต่ก่อนหน้านี้ที่โรงแรมเปิดเพียงแค่ห้องอาหารและบาร์ก่อนที่จะเปิดบริการเต็มรูปแบบ จนถึงตอนนี้ที่เปิดครบทั้งหมด ทั้ง Bar.Yard บาร์ข้างบนรูฟท็อป CRAFT คาเฟ่ที่ชั้นล็อบบี้ และ Ms.Jigger สปีกอีซี่บาร์อีกอันที่ชั้นล็อบบี้ ก็ดูจะเน้นหนักกับการเสิร์ฟเครื่องดื่มอันหลากหลายมากกว่าอาหารหนักๆ เครื่องดื่มแต่ละแก้วที่เสิร์ฟรสชาติดีและมาพร้อมเรื่องราวน่าสนใจแค่ไหนคงต้องไปพิสูจน์กันเอง

 

78 ซอยต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ​ 

www.kimptonmaalaibangkok.com

 

Sindhorn Kempinski

 

Sindhorn Kempinski

เดินจาก Kimpton Maa-Lai มาไม่กี่ก้าว ก็จะเจออาคารสวยสไตล์ Brutalist ที่ตั้งของโรงแรม Kempinski สาขาที่สองของไทย ตั้งชื่อตามพื้นที่โครงการโดยรวมว่า Sindhorn Kempinski โดยคอนเซปต์ของโรงแรมฉีกจากสาขาแรกที่ตั้งอยู่หลังสยามพารากอน กลายเป็นโรงแรมที่เน้นด้าน Wellness โดยเฉพาะ

 

แม้การดีไซน์อาคารสไตล์ Brutalist จะไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการออกแบบ แต่การก่อสร้างโรงแรมที่มีตัวตึกดีไซน์นี้ใหม่ขึ้นมาในปี 2020 ถือเป็นการฉีกกระแสนิยมอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ Sindhorn Kempinski จะสวยเด่นฉีกจากอาคารรอบๆ อย่างชัดเจน และเมื่อเห็นพื้นผิวปูนเปลือยของตึกอยู่คู่กับความเขียวของแมกไม้รอบโครงการ Sindhorn Village เราอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเมืองต้นแบบด้านความเขียวชอุ่มอย่างสิงคโปร์

 

ในยุคที่ยิมมีให้เลือกเกลื่อนเมือง Sindhorn Kempinski จะเป็นตัวเลือกใหม่ที่น่าสนใจสุดๆ สำหรับคนที่จริงจังเรื่องการออกกำลัง (และต้องการความพรีเมียมบวกกับความสงบด้วย) เพราะส่วนของยิมและสปาที่ชื่อว่า Sindhorn Wellness by Resense ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจให้ตอบทุกโจทย์ของความพรีเมียมทั้งในเรื่องของเครื่องไม้เครื่องมือ ความเป็นส่วนตัว หรือแม้กระทั่งความหรูหราของวัสดุที่ใช้ตกแต่ง ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าคุณจะรู้สึกว่าห้องล็อกเกอร์ของยิมที่นี่หรูหราเกินห้องพักแขกไปเสียอีก

 

80 ซอยต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ​ 

www.kempinski.com/en/bangkok/sindhorn-hotel

 

ASAI Chinatown 

มาถึงโรงแรมขนาดเล็กแต่มาด้วยแนวคิดไม่เล็กอย่าง ASAI แบรนด์น้องใหม่ภายใต้เครือ Dusit International ที่เน้นมอบประสบการณ์ ‘Live Local’ ให้กับแขกที่มาพัก โดยประเดิมสาขาแรกในย่านประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ อย่างเยาวราช 

 

โรงแรมให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 4 ของตึกให้สามารถจัดกิจกรรมได้หลากหลาย ดังนั้นตั้งแต่เดินออกจากลิฟต์ เราจะเห็นทั้งห้องประชุม รีเซปชัน ห้องอาหาร JAM JAM Eatery & Bar ก็รวมกันอยู่ บวกพื้นที่ด้านนอกที่เป็นลานกิจกรรมที่สวยด้วยแสงธรรมชาติจากการออกแบบหลังคาโปร่งใส ซึ่งข้อดีจุดนี้กลายเป็นไอเดียให้โรงแรมสร้างแปลงผักออร์แกนิกให้เชฟจากห้องอาหารเด็ดไปปรุงได้สดๆ กันเลย

 

เรามั่นใจว่าโรงแรมนี้จะกลายเป็นจุดหมายใหม่ของชาวมิลเลนเนียลได้ไม่ยาก เพราะความตั้งใจของผู้ก่อตั้ง แชมป์-ศิรเดช โทณวณิก (ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรี Wonderfruit ด้วย) ได้ผลักดันให้คอนเซปต์ของโรงแรมเด่นออกจากโรงแรมอื่นในกรุงเทพฯ อย่างชัดเจน และตั้งแต่เปิดตัวมาไม่กี่สัปดาห์ โรงแรมยังขนกิจกรรมมากมายเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ ทั้งปาร์ตี้ เวิร์กช็อปด้านอาหาร และบรันช์แนวใหม่ จนเราอยากเปรียบที่นี่เป็นพื้นที่ย่อส่วน Wonderfruit กลางกรุงเทพฯ เลยทีเดียว นี่ขนาดยังไม่ได้ลงรายละเอียดถึงร้าน JAM JAM Eatery & Bar ที่เชิญเชฟดังๆ ในกรุงเทพฯ มาตีความรสชาติของเยาวราชใหม่เลยนะ 

 

531 ถนนเจริญกรุง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ​ 

www.asaihotels.com/locations/bangkok-chinatown

 

ภาพ: Courtesy of hotels

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X