×

ภาพยนตร์ 5 เรื่อง ที่ทำให้รู้ว่ารถยนต์คือตัวละครสำคัญ ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ประกอบฉากอีกต่อไป [Advertorial]

18.07.2018
  • LOADING...

ในภาพยนตร์หลายเรื่อง เราจะเห็นว่า นอกจากนักแสดงนำหลักที่เป็นคนจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ล้วนเข้ามามีบทบาทเป็นหนึ่งใน ‘นักแสดง’ หลักของเรื่อง รวมทั้งเพิ่มสีสันและอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างดี

 

โดยเฉพาะ ‘รถยนต์’ สมรรถนะสูง รูปทรงสวย ที่ปรากฏตัวออกมาขโมยซีน ดึงความสนใจจากนักแสดงหลักมาแล้วนักต่อนัก และยิ่งเป็นฉากแอ็กชันที่ระทึกใจเท่าไร หลายคนถึงกับรีบกลับบ้านไปเสิร์ชหาข้อมูลว่า รถยนต์ที่นักแสดงคนนั้นใช้คือรถยี่ห้ออะไร และหลายครั้งที่ ‘รถในฝัน’ ของผู้ชายหลายคนก็เกิดมาจากภาพยนตร์สักเรื่องที่ได้ดู

 

และ BMW ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีคือคนที่มองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ดีที่สุด และเป็นฝ่ายสนับสนุนให้กองถ่ายเรื่องนั้นๆ สามารถนำรถของตัวเองไปใช้ในการถ่ายทำที่เสี่ยงอันตรายได้ตามสบาย ซึ่งผลดีทั้งหมดตกอยู่กับทุกฝ่าย ทางคนทำภาพยนตร์ก็ได้รถสมรรถนะเยี่ยมไปประกอบฉาก ส่วน BMW ก็ได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองให้กับคนทั้งโลกได้เห็น

 

วันนี้ THE STANDARD รวบรวมภาพยนตร์คลาสสิกที่มีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ ‘รถยนต์’ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพื่อย้อนความหลังไปถึงวันที่ได้แต่นึกฝันว่า เมื่อไรเราจะมีโอกาสเป็นเจ้าของรถหรูเหล่านั้น รวมทั้งการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของปฏิบัติการ Mission: Impossiple-Fallout ที่สายลับอีธาน ฮันต์ จะปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับรถคู่ใจคันใหม่ BMW M5 Sedan กับภารกิจครั้งใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม

 

 

James Bond 007 Tomorrow Never Dies (1997)

กับ BMW E38 750il

 

Tomorrow Never Dies คือภาพยนตร์เรื่องที่ 18 ในซีรีส์ พยัคฆ์ร้าย 007 ที่สามารถทำรายได้ทั่วโลก (ในขณะนั้น) ไปได้มากถึง 333 ล้านเหรียญสหรัฐ และนับว่าเป็นภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ 007 เรื่องที่ 2 ที่ได้ เพียร์ซ บรอสแนน มารับบทเป็น ‘เจมส์ บอนด์’ และขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน ‘007’ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์

 

จริงๆ แล้ว เพียร์ซ บรอสแนน ปรากฏตัวพร้อมกับรถยนต์ค่าย BMW มาตั้งแต่ภาค GoldenEye แล้ว โดยครั้งนั้นเขาได้รถสปอร์ตสีครามน้ำทะเลมาเป็นรถคู่ใจ แต่เรายังไม่ได้เห็นฉากเด็ดๆ จากเขามากเท่าไร จนกระทั่งในภาค Tomorrow Never Dies เขาเปลี่ยนรถคู่ใจใหม่เป็น BMW 750il ที่มาพร้อมกับสมรรถนะเต็มสูบ เครื่องยนต์ V12 กระบอกสูบ 5.4 ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พละกำลัง 346 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 6.3 วินาที เร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

 

ในภาคนี้คือการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของ เพียร์ซ บรอสแนน กับรถ BMW เพราะ 750il ในภาคนี้ ไม่ได้มาพร้อมกับสมรรถนะยอดเยี่ยมและรูปทรงเท่บาดใจเท่านั้น แต่ยังมีระบบบังคับทิศทางจากโทรศัพท์มือถือ ที่เราจะได้เห็น เจมส์ บอนด์ เปิดโทรศัพท์บังคับรถจากเบาะหลัง และกลายเป็นภาพจำที่ทำให้หลายคนกลับบ้านมาแล้วพยายามเลียนแบบกันเป็นแถว

 

หลังจากนั้นใน พยัคฆ์ร้าย 007 ภาคต่อมา The World is Not Enough เพียร์ซ บรอสแนน ก็ได้รับรถคู่ใจคันใหม่เป็น BMW 1999 Z8 ที่รูปทรงโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม

 

 

The Transporter (2002)

กับ BMW E38 735i

 

หลังจากนั้น 5 ปี เราก็ได้เห็นรถของ BMW Series 7 E38 กลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง โดยครั้งนี้เปลี่ยนจากรุ่น E38 750il มาเป็น E38 735i และเปลี่ยนคนจับพวงมาลัยจากสายลับสุดเท่ มาเป็นนักส่งของจอมระห่ำที่ชื่อ ‘แฟรงก์ มาร์ติน’ (รับบทโดยเจสัน สเตแธม) แทน

 

ซึ่ง The Transporter นับเป็นการแจ้งเกิดของ เจสัน สเตแธม ในฐานะเจ้าแห่งความเร็ว ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในราชาหลังพวงมาลัยของวงการฮอลลีวูดในเวลาต่อมา โดยมีฉากจำสุดคลาสสิกคือ การทำหน้านิ่งๆ บอกให้แก๊งโจรที่มาจ้างวาน ‘คาดเข็มขัด’ แล้วพา E38 735i รถคู่ใจวิ่งหนีการไล่ล่าของตำรวจผ่านช่องทางแคบๆ ไปทั่วเมืองเป็นเวลานาน 5 นาทีเต็ม

 

ในเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ BMW E38 735i ไม่ต่างจากรุ่น BMW E38 750il ที่ เจมส์ บอนด์ ขับเท่าไรนัก สิ่งที่แตกต่างกันคือ แฟรงก์เลือกขับรถคันนี้ด้วยตัวเอง และใช้รถเพียงคันเดียวในการปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายทุกครั้ง ทำให้เราได้เห็นทั้งการลากล้อดริฟต์กระจาย ไปจนถึงการเร่งเครื่องพารถบินข้ามสิ่งกีดขวางกันแบบเต็มๆ   

 

 

ฉลาดเกมส์โกง (2017)

กับ BMW 3 Series Gran Turismo

 

การได้นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยที่มีโลโก้ตามใบพัดสลักอยู่ตรงกลาง คือความฝันของผู้ชายที่หลงรักในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของเครื่องยนต์มาเป็นเวลาหลายสิบปี ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กมัธยมหรือมหาวิทยาลัย ที่หากมีโอกาสได้วางก้นลงบนเบาะนุ่มๆ ของ BMW เมื่อไร สายตาทุกคู่จะต้องจับต้องมาที่คนคนนั้นอย่างแน่นอน

 

เช่นเดียวกับ ‘พัฒน์’ (รับบทโดย เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) ตัวละครในภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วมากกว่าหนึ่งพันล้านบาท ลูกคุณหนูบ้านรวยที่ได้รับรางวัลหลังจากทำคะแนนสอบได้ดีขึ้นจากคุณพ่อเป็น BMW 3 Series Gran Turismo รถซีดาน 5 ประตู สีดำเงาสุดหรู ที่ทำให้เพื่อนๆ ในระดับเดียวกันทำได้แค่อ้าปากค้างพร้อมความอิจฉาในหัวใจ

 

ซึ่งคาแรกเตอร์ของพัฒน์และคาแรกเตอร์ของ BMW 3 Series Gran Turismo ก็เข้ากันได้สุดๆ เพราะพัฒน์คือตัวแทนของเด็กวัยรุ่นที่ต้องการความเท่และสปอร์ตเป็นหลัก ซึ่งการดีไซน์ลายเส้นด้านท้ายของตัวเองให้ลาดลงกว่าปกติ ก็ทำให้ BMW 3 Series Gran Turismo มีความโฉบเฉี่ยวเหมาะสมกับวัยรุ่นมากกว่าซีดานรุ่นทั่วไป รวมทั้งพื้นที่ด้านในที่กว้างเป็นพิเศษ (ถ้าเทียบกับรูปทรงปราดเปรียวด้านนอก) ก็ยิ่งเหมาะกับคนรวยเพื่อนอย่างพัฒน์ ที่มักจะขับรถพาแฟนสาวและเพื่อนๆ ออกไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ ได้เป็นอย่างดี

 

ส่วนเรื่องสมรรถนะของเครื่องยนต์ยิ่งต้องพูดถึง เพราะด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ดีเซล BMW TwinPower Turbo ให้กำลัง 190 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายใน 7.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นเพียงพอสำหรับวัยรุ่นที่มีความเร็วในหัวใจใช้ควบตะบึงไปไหนต่อไหนได้อย่างแน่นอน

 

 

Overdrive (2017)

BMW 327 Cabriolet

 

สำหรับคนดูภาพยนตร์ทั่วไปอาจไม่อินกับเรื่องนี้เท่าไร แต่สำหรับ ค.คน รักรถ บอกได้เลยว่า นี่คือภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจคนกลุ่มนี้จริงๆ

 

เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำภารกิจเสี่ยงตายของสองพี่น้องผู้เชี่ยวชาญด้านการขโมยรถหรูจากทั่วโลกตามใบสั่ง ทำให้ตลอดทั้งเรื่อง เราได้เห็นรถคลาสสิกทั้งเก่าและใหม่จากทุกค่ายปรากฏตัวกันอย่างเต็มที่ และที่ตื่นเต้นสำหรับเราที่สุดคือการได้เห็น BMW 327 Cabriolet รถสุดคลาสสิกแห่งปี 1937 กลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง แค่นี้ก็คุ้มแล้วจริงๆ

 

นอกจากนี้การที่ BMW เป็นสปอนเซอร์หลักในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันเสี่ยงตายเรื่องนี้ ทำให้เรามีโอกาสเห็นสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของรถยนต์จาก BMW ที่นำมาใช้ปฏิบัติการในหลายๆ ภารกิจ เช่น BMW 4 F33, BMW M3 F80, BMW 6 Gran Coupe F06, BMW i8, MINI Cooper S JCW F56 ฯลฯ

 

ถ้ามองในแง่การทำภาพยนตร์ การที่ BMW มอบรถทั้งหมดมาเข้าฉากร่วมกับซูเปอร์คาร์จากค่ายต่างๆ ทั่วโลก ถือว่าเป็นการทำการตลาดที่ชาญฉลาด เพราะหลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ ก็ทำให้หลายคนต้องกลับบ้านไปพร้อมความรู้สึกที่ว่ารถของ BMW ยอดเยี่ยมไม่แพ้รถจากค่ายอื่นๆ เลย

 

 

Mission: Impossible-Fallout (2018)

กับ BMW M5 Sedan

 

ล่าสุดเราจะได้เห็นการวาดลวดลายของรถสปอร์ตหรูของ BMW กันแบบเต็มๆ บนจอภาพยนตร์อีกครั้งใน Mission: Impossible – Fallout (MI 6) โดยมี ทอม ครูซ หนึ่งในพระเอกหนังแอ็กชันที่ระห่ำที่สุดในโลกเป็นคนห้อตะบึง BMW M5 Sedan ออกไปทำภารกิจเสี่ยงตายในแบบที่ไม่มีนักแสดงคนไหนกล้าทำมาก่อน

 

ในภาคนี้สายลับอีธาน ฮันต์ จะต้องต่อสู้ร่วมกับเพื่อนสมาชิกทีม IMF เพื่อแก้ตัวให้กับภารกิจล่าสุดที่เพิ่งผิดพลาดไป โดยศัตรูของพวกเขาไม่ใช่แค่ตัวร้ายประจำภาค แต่ยังมีเวลาอันบีบคั้นเป็นอุปสรรคใหญ่ที่เขาต้องเอาชนะให้ได้

 

แน่นอนว่าสำหรับภารกิจที่โอกาส ‘สำเร็จ’ แทบเป็นไปไม่ได้ เครื่องยนต์สมรรถนะสูง คือปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ที่ขาดไม่ได้ และ BMW M5 Sedan ก็ตอบโจทย์นั้นได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยขุมพลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ กระบอกสูบ 4.4 ลิตร ป้อนพละกำลัง 592 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.4 วินาทีเท่านั้น ส่วนท็อปสปีดทำได้ถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

 

นอกจาก BMW M5 Sedan เรายังจะได้เห็น ทอม ครูซ ในมาด ‘ไรเดอร์’ สุดเท่ ที่ขับ R NineT Scrambler มอเตอร์ไซต์สมรรถนะสูงจากค่าย BMW เป็นอีกหนึ่งพาหนะคู่ใจในการออกปฏิบัติภารกิจ รวมทั้งแฟนภาพยนตร์ยังจะได้เห็นรถคลาสสิกของ BMW รุ่น 1986 5-Series ออกมาวาดลวดลายในฉากแอ็กชันครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

 

ก่อนหน้านี้ ทอม ครูซ ก็เลยมีรถคู่ใจของค่าย BMW ในรุ่น Vision EfficientDynamics i8 Concept ใช้ในการประกอบภารกิจหลักมาแล้วใน Mission: Impossible Ghost Protocol (MI 5) ด้วย

 

FYI
  • ติดตามภารกิจครั้งใหม่ของ อีธาน ฮันต์ กับ BMW M5 ใน Mission: Impossible-Fallout พร้อมกันครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ 26 กรกฎาคมนี้
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising