×

อ่าน 5 แนวคิด บริหารเงิน ของเศรษฐีที่รวยด้วยตัวเอง “เงินไม่ได้มีไว้เพื่อสะสม แต่เงินมีไว้เพื่อแก้ปัญหาและสนุกกับชีวิต”

23.03.2025
  • LOADING...

กว่าคนคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จเป็นคนรวยในวันนี้ได้อาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บางคนเกิดมามีต้นทุนจากความมั่งคั่งของมรดกตกทอด ทำให้มีจุดเริ่มต้นที่ดี ในขณะที่บางคนทำงานอย่างหนัก มุ่งมั่น และต้องอาศัยการตัดสินใจเลือกอาชีพที่ถูกจังหวะ และกับบางคน โชคก็มีส่วน

 

อย่างไรก็ตาม มีนิสัยทั่วไปบางประการในหมู่คนร่ำรวยหรือเศรษฐีที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาด้วยตัวเอง มีหลักการออมเงิน 5 ข้อ และยึดถือกฎเหล่านี้เพื่อสร้างความมั่งคั่ง Ramit Sethi พิธีกรรายการโทรทัศน์ ได้รวบรวมและบอกเล่าเอาไว้ว่า “ถึงเวลาแล้วที่ผู้คนควรจะเลิกบูชาคนรวย และหันมาเรียนรู้แบบอย่างวิธีคิดในสิ่งที่พวกเขาทำจนกว่าจะมีวันนี้จริงๆ”

 

1. รู้จุดอ่อนและจุดแข็งด้านการเงินของตัวเอง

 

หากคุณรู้ว่าคุณทำเงินได้เท่าไรในหนึ่งปี คุณก็ก้าวล้ำหน้าผู้คนมากมายไปแล้วหนึ่งก้าว

 

“คุณต้องรู้ตัวเลขเงินในบัญชีของคุณ” เขากล่าวกับ CNBC Make It โดยเขาเก็บข้อมูลการบริการเงินของคนรวย ซึ่งพบข้อมูลอันน่าทึ่งว่ากว่า 50% ของคู่รักไม่รู้รายได้ครัวเรือนของตนเอง และ 90% ของคนที่มีหนี้สินไม่รู้ว่าตนเองเป็นหนี้อยู่เท่าไร

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

นอกจากนี้ การติดตามและหมกมุ่นอยู่กับราคาไข่หรือน้ำมันหนึ่งแกลลอนนั้นเป็นเรื่องง่ายก็จริงแต่คงไม่ใช่ข้อดีนัก ปัจจัยเหล่านี้อาจไม่มีผลต่อค่าครองชีพเพื่อการออมการเกษียณอายุ สิ่งสำคัญก่อนจะไปถึงจุดนั้นคุณควรหันมาทบทวนและตั้งคำถามกับตัวเอง 7 ข้อ

 

  • ฉันจะหาเงินได้เท่าไร
  • ฉันมีหนี้เท่าไรและจะชำระหนี้หมดเมื่อใด
  • รายได้ของฉันกี่เปอร์เซ็นต์ที่นำไปออม
  • รายได้ของฉันกี่เปอร์เซ็นต์ที่นำไปลงทุน
  • รายได้ของฉันใช้ไปกับที่อยู่อาศัยเท่าไร
  • ฉันอยากใช้จ่ายกับอะไรมากขึ้นและน้อยลง
  • ฉันมีความเชื่อเกี่ยวกับเงินอย่างไร

 

แน่นอนว่าการรู้คำตอบของคำถามเหล่านี้ได้แต่หากไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลยคงไม่สามารถช่วยให้คุณไปได้ไกลมากกว่าการหันมาใส่ใจ ทำความเข้าใจสถานะทางการเงินของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าขั้นตอนต่อไปของการเงินของคุณคืออะไร

 

“คนรวยที่รู้จักใช้เงินอย่างชาญฉลาดจะสามารถบอกคุณได้ว่าพวกเขาจะมีเงินเท่าไรในเดือนหน้า ปีหน้า หรือแม้กระทั่งอีก 5 ปีข้างหน้า”

 

2. ตัดสินใจให้ ‘เฉียบ’ และมีระบบในเรื่องการเงิน

 

อย่าใช้แต่เพียงความตั้งใจในการตัดสินใจเรื่องเงินอย่างชาญฉลาด แทนที่จะตั้งงบประมาณและมุ่งมั่นที่จะทำตามนั้น ให้ลองใช้ระบบจัดการเงินของแบบตัดค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ ทั้งเงินออม การลงทุน และการชำระบิลของคุณสามารถทำโดยอัตโนมัติได้ เพื่อให้คุณไม่ต้องคิดเรื่องต่างๆ เช่น คุณจะจ่ายค่าวันหยุดในปีนี้ได้หรือไม่

 

คุณสามารถทำได้โดยตั้งค่าการหักเงินจากเงินเดือนของคุณหรือโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีนายหน้าโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ คุณยังสามารถกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเงินสำหรับตัวเองได้ เช่น ตัดสินใจว่าจะนำเงินก้อนโตที่ได้รับไปลงทุนเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เท่าไร และส่วนที่เหลือเพื่อซื้อความสุขให้กับชีวิตอย่างพอดี

 

Sethi เขียนว่า “คนรวยไม่เสี่ยงเอาความสำเร็จทางการเงินของตนเองกับแรงจูงใจที่พวกเขารู้สึกมีในปัจจุบันมาคิด พวกเขาจะสร้างระบบที่รัดกุมเพื่อจัดการเงินของพวกเขาโดยอัตโนมัติ”

 

3. วางแผนก่อนใช้จ่ายเสมอ

 

ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ชีวิตก็เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง แต่สิ่งที่ทำให้คนรวยแตกต่างจากคนอื่นก็คือ “พวกเขามีแผนสำหรับอนาคต”

 

พวกเขาไม่เพียงแต่มีกองทุนฉุกเฉินที่มั่นคงเท่านั้น แต่ยังมีความเข้าใจอย่างมั่นคงว่าต้องการและออกแบบให้ชีวิตเป็นอย่างไร

 

“คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าควรออมหรือลงทุนเท่าไร คิดให้ดีว่าคุณต้องการทำอะไรกับเงินของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการลาออกจากงานทั้งหมดเมื่ออายุ 60 ปี หรือเริ่มต้นธุรกิจของคุณเองเมื่อเลิกงาน”

 

เมื่อคุณตัดสินใจได้แล้ว คุณต้องสร้างไทม์ไลน์และวางแผน สร้างระบบการเก็บออมเงินเพื่อให้คุณไม่ลำบากในภายภาคหน้า

 

4. ดำเนินชีวิตตามหลักการ 80/20

 

คนรวยดำเนินชีวิตตามหลักการ 80/20 กล่าวคือ 80% ของผลลัพธ์ของคุณมาจากความพยายาม 20% หากเป็นธุรกิจนี่อาจหมายความว่า 80% ของกำไรมาจากลูกค้า 20%

 

หมายความว่าแทนที่จะกังวลเกี่ยวกับคำถามมูลค่า 3 ดอลลาร์ เช่น คุณควรซื้อลาเต้หรือชงกาแฟที่บ้านหรือไม่ ให้มุ่งเน้นไปที่ “คำถามมูลค่า 30,000 ดอลลาร์” เช่น คุณสามารถเจรจาขอขึ้นเงินเดือนหรือลดค่าที่อยู่อาศัยได้มากน้อยเพียงใด

 

“เพราะหากเราเอาแต่วนเวียนอยู่กับปัญหาและพยายามทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก”

 

5. เน้นคุณค่า มากกว่า ‘ต้นทุน’

 

แน่นอนว่าคุณสามารถประหยัดเงินได้บ้าง โดยเลือกตัวเลือกที่ถูกที่สุดเสมอ แต่การประหยัดเงินเพียงแลกสิ่งเล็กน้อยอาจไม่คุ้มกับผลิตภัณฑ์หรือประสบการณ์

 

“คนรวยที่ฉลาดเรื่องเงินไม่สนใจแค่ต้นทุนเท่านั้น แต่สนใจคุณค่าด้วย”

 

เขายกตัวอย่างการเลือกจ่ายเงินจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัว แทนที่จะพยายามสอนตัวเองผ่านแหล่งข้อมูลฟรี เช่น วิดีโอ YouTube “การจ่ายเงินให้ใครสักคนช่วยให้ฉันไม่ต้องหงุดหงิดอีกต่อไป และยังได้สิ่งที่มีค่ามากกว่านั้น นั่นคือเวลา”

 

กฎเหล่านี้ควรนำไปใช้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ เลือกลงทุนในบางด้านที่สำคัญแทนที่จะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายกับสิ่งที่ไม่สำคัญ

 

อย่าลืมว่า “The point of money isn’t to hoard it, The point of money is to use it to solve problems and enjoy your life.

 

จุดประสงค์ของเงินนั้นไม่ใช่เพื่อสะสมไว้ แต่จุดประสงค์ของเงินคือมีไว้ใช้เพื่อแก้ปัญหาวันข้างหน้าและสนุกกับชีวิต

 

ภาพ: Deagreez / Getty images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising