วันนี้ (3 พฤษภาคม) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรมการจัดหางานขยายระยะเวลาการยื่นคำขอกู้ยืมเงินกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้านเพิ่มอีก 1 เดือน จากวันที่ 30 เมษายน 2567 เป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 โดยลดอัตราดอกเบี้ยกองทุนจากร้อยละ 3 ต่อปี เป็น 0% นาน 24 เดือน มีเงื่อนไขคือผู้รับงานไปทำที่บ้านที่กู้เงินไปแล้วต้องชำระหนี้ครบถ้วนตามระยะเวลาที่กำหนดในงวดที่ 1-12
เพื่อเป็นการมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน ส่งเสริมให้ผู้ใช้แรงงาน โดยเฉพาะแรงงานอิสระสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้
สำหรับคุณสมบัติผู้มีสิทธิกู้กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้าน หรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย และไม่เป็นผู้ถูกดำเนินคดีหรืออยู่ในระหว่างดำเนินคดีเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินกองทุน โดยวงเงินกู้สำหรับบุคคลต้องมีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 2 ปี
ส่วนกรณีกลุ่มบุคคล ต้องมีผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 5 ปี (เฉพาะกู้วงเงิน 300,000 บาท ต้องมีสมาชิก 6 คนขึ้นไป)
คารมกล่าวต่อว่า ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและยื่นกู้ได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดในท้องที่ ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน หรือที่กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน โทร. 0 2245 1317 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694