ราคาบิทคอยน์ (BTC) ซื้อขายทรงตัวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การเคลื่อนไหวของราคาครั้งใหญ่อาจเกิดขึ้นได้ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากสหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายอย่าง ปัจจัยทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการประชุมเกี่ยวกับการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนอาจมีผลต่อความผันผวนของราคาในสัปดาห์นี้
ตลาดจับตาดูตัวเลขทางเศรษฐกิจ และการประชุม Fed
ตลาดคริปโตอาจผันผวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งทางสหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายอย่าง ได้แก่ รายงานตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ รายไตรมาส (27 ตุลาคม) ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (28 ตุลาคม) การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ (3 พฤศจิกายน) และอัตราการว่างงานสหรัฐฯ (4 พฤศจิกายน)
นักลงทุนจะจับตาดูว่าอัตราเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง และธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือไม่ ข้อมูลล่าสุดของ FedWatch Tool จาก CME Group เปิดเผยว่า ตลาดรับรู้โอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps มากถึง 90.5% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ การประชุมของธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ในวันที่ 27 ตุลาคมก็จะถูกจับตามองเช่นกัน เนื่องจากยูโรโซนกำลังเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ แต่การดำเนินนโยบายการเงินของ ECB นั้นล่าช้ากว่า Fed อย่างมาก
ราคา BTC จะให้ผลตอบแทนรายเดือนเป็นบวกหรือไม่
เดือนตุลาคมมักถูกขนานนามว่าเป็นเดือน ‘Uptober’ ของ Bitcoin เนื่องจากสถิติย้อนหลังในรอบ 10 ปี BTC ได้ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 7 ครั้ง จาก 9 ครั้งที่ผ่านมาเลยทีเดียว นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013-2021 ซึ่งหากเดือนตุลาคมนี้ BTC ทำราคาปิดในแดนลบ นี่จะเป็นครั้งที่ 3ในรอบ 10 ปีที่ BTC ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นบวก
ณ เวลา 16.00 น. ของวันนี้ (24 ตุลาคม) ราคา Bitcoin ยังคงซื้อขายทรงตัวอยู่ที่ 19,317 ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% 1 ชั่วโมง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และราคาแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อช่วงต้นเดือน โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% อย่างไรก็ตาม ปัจจัยระดับมหภาคในสัปดาห์นี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของราคาต่อไป
BofA มองว่า Bitcoin อาจแทนที่ทองคำในฐานะ Safe-Haven
จากการวิจัยที่จัดทำโดย Bank of America (BofA) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของ Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอื่น ๆ มีแนวโน้มว่า BTC อาจเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe Haven)
Alkesh Shah และ Andrew Moss นักกลยุทธ์จาก BofA ระบุว่า จากการเปรียบเทียบ BTC กับทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่หลบภัยแบบดั้งเดิมเป็นความสัมพันธ์ (Correlation) ของสินทรัพย์ทั้งสองในการวิเคราะห์ 40 วัน อยู่ที่ 0.5 ซึ่งตัวเลขนี้เคยอยู่ที่ประมาณ 0 ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม นี่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นระหว่าง BTC และทองคำ
ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และทองคำเพิ่มสูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับดัชนีหุ้น เช่น S&P 500 และ Nasdaq ความสัมพันธ์นี้กลับลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนอาจมอง BTC ในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงที่ลดลง และมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่หลบภัยเพิ่มมากขึ้น
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- การอัปเกรด The Merge ของ Ethereum และทิศทางในอนาคตของเหรียญ ETH
- ทำไมเหรียญ LUNC ถึงพุ่งกว่า 425% ภายใน 14 วัน? อะไรที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นครั้งนี้
- ไมเคิล เบอร์รี เตือนการล่มสลายครั้งประวัติศาสตร์กำลังจะเกิดขึ้น โดยมีต้นตอจากตลาดคริปโต
อ้างอิง: